ภาคอุตสาหกรรมวอนรัฐ คุมราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกินลิตรละ 35 บาท หลังประกาศลอยตัวกระทบทั้งระบบ “ทวีสันต์” ระบุ คลายล็อกโควิดแต่ถูกซ้ำเติมด้วยต้นทุนแพง ผู้ประกอบการตั้งตัวไม่ได้ ต้องประหยัดแบบสุด ขณะที่การปรับขึ้นค่าแรงควรพิจารณาในกลุ่มทักษะเป็นอันดับแรก 492 บาททั้งประเทศนั้นแรงเกินไป
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 6 พ.ค.2565 ที่สำนักงานสภาอุตสาหกรรม จ.ขอนแก่น นายทวีสันต์ วิชัยวงษ์ ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้ผลกระทบจากการประกาศลอยตัวราคาน้ำมันของรัฐบาล โดยเฉพาะน้ำมันดีเซล ที่ประกาศลอยตัวแบบขั้นบันได โดยมีผลมาตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่ปรับขึ้นราคาแล้วลิตรละ 2 บาท ซึ่งส่งผลต่อภาคอุตสาหกรรมอย่างมาก โดยเฉพาะภาคการขนส่ง ที่มีการหารือในการปรับขึ้นราคาขนส่งแล้ว โดยขณะนี้กลุ่มธุรกิจขนส่งโดยสารและรถโดยสารได้มีการปรับขึ้นราคาตามระยะทางและสัดส่วนราคาน้ำมันแล้วแต่ก็ยังไม่มากนัก ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลนั้นหากยังคงประกาศลอยตัว ราคาน้ำมันจะปรับขึ้นแบบขั้นบันได คือวันนี้อยู่ที่ลิตรละกว่า 32 บาท ก็จะขยับขึ้นไปทีละ 1-2 บาทและจะไปหยุดที่ลิตรละ 35 บาทและจะไปหยุดที่ลิตรละ 40 บาทซึ่งหากราคาต้นทุนน้ำมันดีเซลที่แพงขึ้นก็จะส่งผลต่อการทยอยปรับขึ้นราคาตลอดทั้งเดือน พ.ค.นี้ในทุกกลุ่มสินค้า
“ในเมื่อผู้ประกอบการต้องมีต้นทุนที่แพงขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับแพงขึ้น ผู้ประกอบการก็จะต้องปรับขึ้นราคาจำหน่ายหรือการให้บริการที่ขยับขึ้นตามไปด้วย โดยในเดือน พ.ค.นี้ ความชัดเจนในการปรับขึ้นราคาในสินค้าหมวดต่างๆนั้นทยอยเกิดขึ้น แต่ทั้งนี้โดยส่วนตัวมองว่ารัฐบาลประกาศลอยตัวราคาน้ำมันดีเซล ในขณะนี้กลุ่มน้ำมันชนิดอื่นๆก็ทยอยปรับขึ้นราคา ดังนั้นน้ำมันดีเซล ในจุดที่เหมาะสมที่สุดรัฐบาลควรควบคุมราคาให้อยู่ที่ลิตรละ 35 บาท ซึ่งน่าจะเป็นราคาที่ผู้ประกอการนั้นรับได้ เพราะไม่มีใครอยากที่จะปรับขึ้นราคาไปมากกว่านี้เพราะจะเป็นการซ้ำเติมให้กับผู้บริโภค อีกทั้งเมื่อรัฐบาลประกาศผ่อนคลายมาตรการจากสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้น แต่สินค้ามีราคาแพง ต้นทุนน้ำมันแพง ต้นทุนต่างๆมีการแพงขึ้นตามไปด้วย ถือเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัดให้กับผู้ประกอบการอย่างมาก”
นายทวีสันต์ กล่าวต่ออีกว่า ภาคอุตสาหกรรมบางส่วนยังคงยืนระยะมาได้แม้จะบอบช้ำมาจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาเกือบ 2 ปี แต่ทุกคนก็เข้าใจในเหตุการณ์ ในขณะที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี นั้นยอมรับว่าทยอยปิดกิจการแล้วอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็มีการพูดคุยและหาแนวทางในการประคับประคองหรือให้กลับมาดำเนินธุรกิจกันได้อีกทั้งการหาแนวทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุน การพลิกวิกฤติเป็นโอกาสในการค้า การลงทุน แบบวิถีใหม่นิวนอร์มอล ที่ต้องเป็นไปตามความต้องการของลูกค้า
ในขณะที่การเรียกร้องค่าแรงขั้นต่ำวันละ 492 บาทเท่ากันทั้งประเทศ โดยส่วนตัวมองว่าต้องมองเหตุและผลในด้านต่างๆอย่างรัดกุมและการปรับขึ้นค่าแรง ต้องแยกกลุ่มให้ชัด โดยเน้นกลุ่มทักษะและช่างฝีมือเป็นลำดับแรก
Leave a Response