ชาวบ้านวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบกรณีมีบริษัททำกิฟท์วอยเชอร์ที่พักหรูราคาถูกจำหน่ายผ่านตัวแทน โดยอ้างว่าซื้อบัตรราคาหลักร้อยได้ห้องพักราคาหลักพันถึงหลักหมื่น พอติดต่อขอพักไม่สามารถใช้ได้และเจ้าของที่พักยืนยันไม่มีส่วนรู้เห็นและไม่รับกิฟท์ว้อยเชอร์ทุกกรณี
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 พ.ค.2565 นางสาว สิรินันท์ วรรณโชติ อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น นำบัตรกิฟท์วอยเชอร์ที่พักของบริษัทแห่งหนึ่ง ระบุว่าสามารถเข้าพักภายในรีสอร์ทที่พัทยา จ.ชลบุรี ราคา 5,500 บาทได้ทันทีเมื่อจ่ายด้วยกิฟท์วอยเชอร์นี้ มาร้องเรียนกับสื่อมวลชน ภายหลังจากพบความผิดปกติคาดว่าจะถูกขบวนการมิจฉาชีพปลอมขึ้นมาหลอกขาย เพราะล่าสุดได้สอบถามไปยังเจ้าของที่พักดังกล่าวได้รับคำตอบว่าไม่สามารถใช้กิฟท์วอยเชอร์นี้ได้ และทางเจ้าของที่พักแจ้งอีกว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ได้เป็นผู้จัดจำหน่ายกิฟท์วอยเชอร์นี้และไม่รับกิฟท์วอยเชอร์ทุกประเภทด้วย
น.ส.สิรินันท์ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า กิฟท์วอยเชอร์นี้ซื้อมาจากแม่ค้าคนกลางอีกทีเมื่อเดือนมีนาคมปี 64 ซึ่งคนขายเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กประกาศขายในราคาใบละ 850 บาท ซึ่งเป็นของบริษัทดังกล่าว ตนเองเห็นจึงสนใจอยากจะพาครอบครัวไปเที่ยว จึงซื้อมา 2 ใบ รวมทั้งหมด 1,700 บาท พอได้กิฟท์วอยเชอร์มาช่วงต้นเดือนเมษายน 2564 ก็ทำการสแกน QR CODE ในบัตรเพื่อลงทะเบียนจองห้องพักตามที่ระบุในบัตร เมื่อสแกนก็เข้าไปที่หน้าไลน์ชื่อ “ห้องพัก Limited” และได้พูดคุยจองที่พักดังกล่าวในวันที่ 20 เมษายนปี 64 แต่พอจะถึงวันที่จองเป็นช่วงโควิด-19 ระบาด จึงได้ขอเลื่อนไปแบบไม่มีกำหนด ซึ่งทางแอดมินในไลน์ก็ตอบรับลงไว้ว่าเลื่อนไม่มีกำหนด กระทั่งช่วงต้นปี 65 เห็นในเฟซบุ๊กมีการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับการถูกหลอกเรื่องกิฟท์วอยเชอร์ จึงเกิดความสงสัยว่าจะใช่บริษัทเดียวกันกับตนเองหรือไม่จึงเข้าไปดูก็พบว่าเป็นบริษัทเดียวกัน ทำให้เริ่มรู้ว่าคนที่มีกิฟท์วอยเชอร์แบบนี้ไม่มีใครสามารถเข้าพักได้เลยสักคนและมีการตั้งกลุ่มผู้เสียหายขึ้นมา ทำให้ตอนนี้มีผู้เสียหายที่อยู่ในกลุ่มกว่า 1 หมื่นคนแล้วกระจายอยู่ทั่วประเทศหลายจังหวัด แต่ละคนก็ซื้อในราคาที่แตกต่างกันตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพัน แล้วแต่ราคาที่พักของสถานที่นั้นๆ บางคนซื้อเป็นสิบๆใบ ผู้เสียหายบางรายเข้าแจ้งความแต่ก็ไม่ถึงตัวเจ้าของบริษัทที่ผลิต เป็นแม่ค้าคนกลางที่รับมาจำหน่ายเป็นคนคืนเงินให้แทนเพราะไม่อยากมีปัญหาขึ้นโรงพัก แต่เท่าที่พูดคุยกับแม่ค้าคนกลางที่ตนเองซื้อมานั้นเชื่อว่าไม่มีส่วนรู้เห็นน่าจะถูกหลอกด้วยเช่นกัน หลังมั่นใจว่าถูกหลอกก็ได้สอบถามไปยังไลน์ที่จองห้องพักไว้ตั้งแต่เดือน ก.พ.65 จนขณะนี้ก็ไม่มีการอ่านหรือตอบกลับแต่อย่างใด จึงได้นำเรื่องราวมาเปิดเผยเพื่อเตือนคนอื่นๆอย่าหลงเชื่อเพราะของดีราคาถูกไม่มีอยู่จริง
น.ส.สิรินันท์ บอกอีกว่า ในกลุ่มที่ผู้เสียหายรวมตัวกันนั้น จะมีคนของบริษัทดังกล่าวอยู่ในกลุ่มด้วย และจะพูดเชิงขู่ให้กลัวว่าหากสร้างความเสียหายให้กับบริษัทจะโดนข้อหาหมิ่นประมาท พร้อมทั้งเคยไลฟ์สดบอกจะหาที่พักใหม่ให้แทน แต่จะไม่มีการคืนเงินแต่อย่างใด ผู้เสียหายบางรายได้รับการแก้ปัญหาจากทางบริษัทด้วยการหาที่พักอื่นให้แต่ต้องเพิ่มเงิน ซึ่งผู้เสียหายรายนั้นได้ตรวจสอบการจองห้องพักพบว่าราคาเท่ากันกับการจองผ่านแพลตฟอร์มอื่นๆอย่างอโกด้า บางห้องถูกกว่าที่ทางบริษัทจัดหามาทดแทนให้ และมีผู้เสียหายอีกหลายรายประสบปัญหาเช่นเดียวกันคือไม่มีใครสามารถใช้กิฟท์ว้อยเชอร์นี้กับทางเจ้าของห้องพักได้สักคนและห้องพักที่ระบุในบัตรก็ยืนยันว่าไม่สามารถรับกิฟท์วอยเชอร์นี้ได้และไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง คาดว่าจะถูกเอาไปแอบอ้างในกิฟท์วอยเชอร์ ละมีผู้เสียหายบางคนตามไปถึงหน้าบริษัทใน กทม.แต่พบว่าล็อคกุญแจปิดตายมิดชิด มีการเข้าแจ้งความและร้องเรียนแล้วหลายหน่วยงาน ซึ่งตนเองก็ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.มัญจาคีรีด้วยเช่นกัน
พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อทางบริษัททุกช่องทางทั้งสแกน QR CODE ในกิฟท์วอยเชอร์และทางเพจของบริษัทแต่ก็ไม่มีการตอบกลับแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามพฤติการณ์ของบริษัทดังกล่าวจะใช้วิธีปลอมทั้งบัตรกิฟท์วอยเชอร์ ปลอมไลน์ขึ้นมาให้ผู้เสียหายจองกับอากาศไม่มีอยู่จริง แอบอ้างที่พักหรูราคาแพงๆแต่มาขายให้ในราคาถูกเพื่อดึงดูดให้คนสนใจซื้อ โดยที่เจ้าของที่พักไม่มีส่วนรู้เห็น และจะใช้วิธีหาเซลล์ขายบัตรตามสื่อโซเชียลต่างๆเพื่อแลกกับเงินตอบแทนหากขายได้แต่ละใบ กระทั่งล่าสุดไม่มีผู้เสียหายคนไหนสามารถเข้าพักได้สักคนพร้อมกับถูกขู่กลับว่าสร้างความเสียหายให้บริษัทจะโดนข้อหาหมิ่นประมาททำให้ผู้เสียหายบางคนไม่กล้ามาเปิดเผยและแจ้งความ
Leave a Response