ชีปะขาวถูกหลานชายแท้ๆใช้มีดแทงจนเสียชีวิตคาบ้าน หลังไม่พอใจที่น้าชอบอบรมสั่งสอนจนเกิดความรำคาญ ญาติเผยก่อนเกิดเหตุมือมีดตามประกบน้าตลอดก่อนสบโอกาสคนในบ้านอยู่น้อยวิ่งเข้าไปกระหน่ำแทงจนเสียชีวิต แล้วหนีกลับบ้านซึ่งห่างเพียง 100 เมตรกระทั่งตำรวจเข้าควบคุมตัวพร้อมอาวุธที่ก่อเหตุ
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 14 พ.ค.2565 ร.ต.อ.ประนอม มะลาหอม รอง สว.(สอบสวน)สภ.บ้านไผ่ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุฆาตกรรมภายในซอยสุขสำราญ บ้านเลขที่ 197/2 หมู่ 14 หลักกิโลเมตรที่ 14 ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น หลังรับแจ้งจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยและแพทย์เวรโรงพยาบาลบ้านไผ่ร่วมกันตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูน 2 ชั้น ด้านบนเป็นไม้ ด้านล่างเป็นปูน พบศพนายไพรจิต แพนสมบัติ อายุ 61 ปี เจ้าของบ้านนอนจมกองเลือดเสียชีวิตภายในห้องนอน สภาพศพนอนหงาย มีบาดแผลถูกแทงที่หน้าอกขวา 2 แผล ข้างหูขวา 1 แผล ที่กกหูทั้ง 2 ข้างข้างละแผล และมีรอยมีดเฉือนที่หูขวายาวประมาณ 10 ซม. สอบถามญาติผู้ตายบอกว่า ผู้ก่อเหตุคือนายอรัญ กองคำ อายุ 36 ปี หรือนายหนึ่ง หลานชายแท้ๆของผู้ตายหลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปที่บ้านตัวเอง ห่างจากบ้านผู้ตายประมาณ 100 เมตร ซึ่งมีญาติๆต่างร่ำไห้และสะเทือนขวัญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก เนื่องจากผู้ตายเป็นชีปะขาวมีชาวบ้านในพื้นที่ให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก พร้อมกับบอกว่าผู้ก่อเหตุเมายาบ้า
นางสาวสุพรรษา กองเสน อายุ 21 ปี หลานสะใภ้ผู้ตาย บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเย็นที่ผ่านมา นายหนึ่งได้เดินมาวนเวียนสอดส่องที่หน้าบ้านหลายรอบ ผู้ตายไปในหมู่บ้านไปตลาดก็ตามไป กระทั่งผู้ตายกลับมาบ้าน นายหนึ่งก็ตามมาวนเวียน ก่อนจะกลับมารอบสุดท้ายพร้อมเพื่อนอีก 2 คน เป็นจังหวะที่คนอยู่บ้านน้อย โดยนายหนึ่งได้จอดรถจักรยานยนต์แล้ววิ่งเข้าไปกระหน่ำแทงผู้ตายจนเสียชีวิตทันทีแล้วหลบหนีกลับบ้านตัวเอง ก่อนจะโทรแจ้งตำรวจ
ด้าน พ.ต.อ.พิชัยภูษิส จารุพงศ์ ผกก.สภ.บ้าน ไผ่ เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวนั้นหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านไผ่ ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบหลังรับแจ้ง ก่อนจะเข้าควบคุมตัวนายหนึ่งผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ โดยในที่เกิดเหตุนายหนึ่งให้การปฏิเสธ แต่ด้วยพยานหลักฐานที่ตำรวจมี ทั้งเสื้อขาวเปื้อนเลือดที่คาดว่านายหนึ่งจะนำมาเช็ดเลือดที่มือตัวเองเนื่องจากเลือดผู้ตายติดอยู่ พร้อมตรวจสอบภายในบ้านนายหนึ่งพบมีดทำครัวยาวประมาณ 20 ซม. มีคราบเลือดติดอยู่คาดว่าจะเป็นอาวุธที่นายหนึ่งใช้ก่อเหตุ แต่ภายหลังจากควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.บ้านไผ่ นายหนึ่งก็ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุจริง เนื่องจากไม่พอใจที่น้าชายซึ่งเป็นชีปะขาวชอบที่จะมาพูดอบรมสั่งสอนนายหนึ่งอยู่ตลอด ทำให้นายหนึ่งเกิดความรำคาญก่อเหตุฆ่าน้าชายจนเสียชีวิตดังกล่าวขึ้น เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนจะมีการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายข้อหาฆ่าผู้อื่นตามขั้นตอนต่อไป
Leave a Response