มข.จับมือ 3 องค์กรพัฒนาเกษตรรุ่นใหม่อย่างเป็นระบบ ต่อยอดการพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยหลักวิชาการ-เงินทุน และการจัดการองค์ความรู้อย่างเข้มข้น

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 พ.ค. 65 ที่ห้องประชุมสารสิน อาคารสิริคุณากร มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร พร้อมด้วย รศ.นพ. ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น, นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และนายมรกต พิธรัตน์ นายกสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือทางวิชาการ ว่าด้วย การพัฒนาวิชาการด้านการเรียนการสอน การวิจัย และการส่งเสริมการเกษตร ระหว่าง กรมส่งเสริมการเกษตร กับ มข. และการบันทึกความเข้าใจ ว่าด้วย การส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืนแบบมีส่วนร่วม ระหว่าง กรมส่งเสริมการเกษตร, มข., ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรในการขับเคลื่อน โดยมีนักวิชาการ, นักวิจัย รวมทั้งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมเป็นสักขีพยานอย่างพร้อมเพรียง

รศ.นพ. ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น

รศ.นพ. ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า การลงนามบันทึกความร่วมมือ มี 2 ฉบับ ประกอบด้วย ฉบับที่ 1 การลงนามบันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยการพัฒนาวิชาการด้านการเรียนการสอน การวิจัยและการส่งเสริมการเกษตร ระหว่าง 2 หน่วยงาน ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร และ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเป็นการลงนามบันทึกความเข้าใจเป็นครั้งที่ 2 โดยสืบเนื่องเพื่อสานต่อการบันทึกความเข้าใจครั้งที่ 1 เมื่อ วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 โดยบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ร่วมมือกันในการพัฒนาทางวิชาการด้านการเรียนการสอน การวิจัย และการส่งเสริมการเกษตร ร่วมกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งเป็นหน่วยงานระดับกรมที่ใหญ่และมีบุคลากรมากที่สุดของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเป็นหน่วยงานที่ทำงานใกล้ชิดกับเกษตรกรโดยมีเกษตรตำบล หรือนักวิชาการส่งเสริมการเกษตร เป็นผู้ที่ทำงานในในพื้นที่และพัฒนาเกษตรกรหรือผู้ประกอบการเกษตรในชุมชน ซึ่งเป็นเศรษฐกิจฐานรากของสังคมไทย

และ ฉบับที่ 2 การลงนามบันทึกความเข้าใจ ว่าด้วย การส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืนแบบมีส่วนร่วม ระหว่าง 4 หน่วยงาน ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร มหาวิทยาลัยขอนแก่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และ สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ร่วมมือกันในการส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืน สร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนในการบริหารจัดการเกษตรกรรมยั่งยืน การยกระดับคุณภาพชีวิตด้านเศรษฐกิจและสังคมของชุมชน ด้วยเทคโนโลยีด้านเกษตรกรรมยั่งยืน ตลอดจนส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสนับสนุนการลดก๊าซเรือนกระจก ตลอดจนการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรม

“ในการร่วมมือทางวิชาการทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว ระยะเวลาในการดำเนินการร่วมกัน 4 ปี นับจากวันลงนาม และอาจมีการลงนามในลักษณะเดียวกันนี้เพื่อสานงานต่อในระยะต่อไปอีก ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของสังคมและเกษตรกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกันทราบมาว่า ได้มีการกำหนดแนวทางการดำเนินงานภายใต้บันทึกความร่วมมือในเบื้องต้นแล้ว ซึ่งจะได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายและแผนการดำเนินงานร่วมกันของแต่ละส่วนของโครงการหรือกิจกรรมย่อยต่อไป”

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร

ด้าน นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือดังกล่าว ทุกฝ่ายมีเป้าหมายร่วมกันคือ พัฒนาภาคการเกษตรกรรม สนับสนุนเทคโนโลยี ผลงานวิจัยด้านการเกษตรเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ควบคู่กับการส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มีเป้าหมายสำคัญคือยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทย ภายใต้การขับเคลื่อนผ่านชุมชนเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาทั้งนี้ในช่วงของการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันมีประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่หันมาทำการเกษตรเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคนกลุ่มนี้ถือว่าเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนภาคการเกษตรของไทย

“ปัจจุบันพบว่าเกษตรรุ่นใหม่มีกว่า 18,000 คนและมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ซึ่งบางคนอาจขาดองค์ความรู้ด้านการเกษตรที่ถูกต้อง ความร่วมมือครั้งนี้จึงจะเป็นพลังในการเสริมทัพเกษตรกรรุ่นใหม่ให้ภาคการเกษตรแข็งแกร่งขึ้น ซึ่ง ทั้ง 4 องค์กรเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนครั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ มีมหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นศูนย์กลางสร้างองค์ความรู้ ธกส.เป็นแหล่งเสริมเงินทุน ขณะที่สมาคมศิษย์เก่าเป็นพลังเสริมทัพบุคลากรที่จะพัฒนางานด้านการเกษตรในภาพรวมต่อไป”

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง