ร้านซักรีดโอด หลังทราบข่าวค่าไฟฟ้าจะขึ้นเป็น 5 บาทต่อหน่วย ท่ามกลางต้นทุนที่ทุกอย่างแพง และไฟฟ้าคือต้นทุนหลักในการประกอบอาชีพ อยากให้รัฐช่วยทำยังไงก็ได้ให้มันลดบ้าง ถ้าขึ้นไปกว่านี้คงตายแน่นอน เพราะปัจจุบันก็ยังลำบากขนาดนี้

ภายหลังจากมีรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) อยู่ระหว่างพิจารณาทบทวน และปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) งวดเดือน ก.ย.- ธ.ค. 2565 โดยมีแนวโน้มพุ่งสูงถึง 90-100 สตางค์ต่อหน่วย และอาจทำให้ค่าไฟฟ้าต้องปรับเพิ่มสูงถึงเกือบ 5 บาทต่อหน่วย ในช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีนี้ ซึ่ง กกพ.จะประกาศค่าเอฟทีงวดดังกล่าวอย่างเป็นทางการ ช่วงปลายเดือนก.ค.หรือต้นเดือนหน้า

อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่ค่าเอฟทีงวดใหม่สูงขึ้น เพราะต้นทุนค่าเชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) นำเข้าเพื่อทดแทนก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย ยังมีแนวโน้มราคาแพงต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนพ.ค. 2565 จนถึงปัจจุบัน โดยราคาLNG นำเข้าตอนนี้พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน พุ่งสูงแตะระดับ 30 กว่าดอลลาร์ต่อล้านบีทียูแล้ว จากเดิมอยู่ที่ 20 กว่าดอลาร์ต่อล้านบีทียูรวมถึงภาระต้นทุนจากการอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงต่อเนื่อง ถือเป็นปัจจัยที่นอกเหนือการควบคุม โดย กกพ.ค่อนข้างหนักใจ ปริมาณก๊าซในอ่าวไทยยังขาดความชัดเจน ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แบกรับแทนประชาชนอีกกว่า 80,000 ล้านบาทในงวดก่อนหน้าที่กกพ. อาจจะต้องเข้าไปดูแลช่วยลดภาระต้นทุนผ่านการทยอยปรับเพิ่มผ่านค่าเอฟทีด้วย โดยช่วงปลายสัปดาห์นี้ สำนักงานกกพ.จะต้องประชุมทบทวนอีกครั้ง เพื่อประกาศค่าเอฟที

ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่ใช้ไฟฟ้าเป็นหลักในการประกอบอาชีพ โดยที่บ้านเลขที่ 298 หมู่ 9 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยพบกับ นางมะลิวรรณ์ ชินพาด อายุ 57 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งใช้บ้านเปิดให้บริการซักรีด กิโลกรัมละ 20 บาท ซึ่งต้นทุนส่วนใหญ่คือไฟฟ้า ที่กำลังจ่อขึ้นค่าเอฟทีที่จะทำให้ค่าไฟฟ้าปรับราคาขึ้นเป็น 5 บาทต่อหน่วย รวมทั้งต้นทุนในการซักทั้งผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม ที่ล้วนแต่พากันพาเหรดปรับราคาขึ้นทั้งหมด

สอบถามนางมะลิวรรณ์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้ทุกอย่างขึ้นราคาทั้งหมด ก่อนที่จะมีข่าวว่าจะขึ้นค่าไฟฟ้า ทั้งผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำมัน แม้แต่เตารีดก็ยังขึ้นราคาปกติเคยซื้อ 500-800 บาท ตอนนี้ขึ้นมาเกือบ 2,000 บาท ถ้าค่าไฟขึ้นกำไรจากการเปิดร้านก็จะน้อยลงไป และทางร้านเปิดอยู่ในชุมชน ลูกค้าก็คนในหมู่บ้าน พอได้กินได้ใช้เดือนชนเดือน เมื่อก่อนทำงานสามารถเก็บเงินหยอดกระปุกได้วันละ 500 วันละ 1,000 บาท ตอนนี้ไม่สามารถเก็บเงินได้เลย อยากให้ทางรัฐบาลช่วยเหลือในเรื่องราคาข้าวของเครื่องใช้ทุกชนิดให้ราคาถูกลง ขออย่าให้ขึ้นอีกเลย และหากค่าไฟฟ้าปรับขึ้น ตนเองก็อาจจะปรับขึ้นราคาไปด้วย แต่จะดูลูกค้าก่อนว่าถ้าขึ้นราคาจะไหวหรือไม่ เพราะตนเองก็เข้าใจและเห็นใจลูกค้าที่นำผ้ามาซักรีดที่ร้าน ก่อนหน้านี้เคยปรับขึ้นค่าซักรีดจาก 6 บาทเป็น 8 บาท ลูกค้าบางคนก็เข้าใจ บางคนก็ไม่เข้าใจไปใช้บริการร้านอื่นก็มี ตอนนี้ก็พอได้เงินมาซื้อกินและดูแลครอบครัวไปในแต่ละวันเท่านั้น ถ้าหากราคาขึ้นอีกก็คงตายแน่ๆเพราะขนาดตอนนี้ก็ยังลำบากมากในการหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว