คนขอนแก่นดีใจ รัฐบาลจัดให้คนละครึ่งเฟส 5 วอนร้านค้ากลับมาให้บริการเช่นเดิมหลังพบหลายร้านงดรับเพราะกลัวโดนภาษี พร้อมระบุการใช้จ่ายควรครอบคลุมน้ำมันเชื้อเพลิง เพราะทุกวันนี้ของทุกอย่างแพงขึ้น และควรพิจารณาเฟส 6 ต่อเนื่องทันที

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 ก.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรีมติเห็นชอบพิจารณาการดำเนินโครงการคนละครึ่งเฟส 5 โดยมีผล ตั้งแต่เดือน ก.ย.ที่จะถึงนี้ จำกัดการใช้จ่ายวงเงินคนละ 800 บาท ใช้จ่ายได้วันละ 150 บาท สร้างความสนใจให้กับชาวขอนแก่นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่เคยได้รับสิทธิ์และร่วมโครงการคนละครึ่ง มาตั้งแต่เฟสที่ 1-4 ที่ต่างต้องการและรอคอยมาตรการช่วยเหลือและกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่รัฐบาลกำหนดไว้อย่างมาก ทำให้หลายคนต่างพากันตรวจสอบแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง เพื่อตรวจสอบสิทธิ์หรือการตรวจสอบเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการดังกล่าวเนื่องจากส่วนใหญ่ไม่ต้องการที่จะเสียสิทธิ์ที่จะได้รับที่จะถึงนี้

น.ส.พรสุดา ลานอก อายุ 28 ปี ชาว จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ดีใจและขอบคุณรัฐบาลที่ยังคงไม่ทอดทิ้งและกำหนดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือประชาชน ซึ่งโครงการคนละครึ่งนั้นโดยส่วนตัวเข้าร่วมโครงการมาตั้งแต่เฟสที่1 ต่อเนื่องจนถึงเฟสที่ 4 และมีลุ้นอยู่ว่าจะมีเฟส 5 หรือไม่ เนื่องจากเป็นวงเงินที่สามารถใช้บรรเทาความเดือดร้อนและใช้จ่ายในระดับฐานรากได้จริง ซึ่งตนเองและครอบครัว ที่ได้รับสิทธิ์คนละครึ่งนั้นจะเน้นไปที่การเลือกซื้ออาหารและสินค้าในการบริโภคเป็นหลัก ที่่ผ่านมาได้รับเงินตั้งแต่ 3,000 บาท 1,500 บาท แต่มารอบที่ 5 ได้รับ 800 บาท ซึ่งก็พร้อมที่จะยืนยันตัวตนเข้ารับสิทธิ์โครงการดังกล่าวเช่นกัน

“วงเงิน 800 บาทต่อคน ที่จะได้รับนั้นโดยส่วนตัวถือว่าน้อยในภาวะราคาสินค้าแพงที่เกิดขึ้น ก็วงเงินดังกล่าวก็จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับตนเองและครอบครัวได้อย่างมาก ดังนั้นหากมีการพิจารณาทบทวนโครงการคนละครึ่งเฟส 6 ก็ขอให้มีการปรับขึ้นวงเงินคนละ 3,000 บาทเท่าเดิมน่าจะดีและเหมาะสมที่สุด”

น.ส.พรสุดา กล่าวต่ออีกว่า ยังคงต้องการให้ร้านค้าที่เดิมเคยรับคนละครึ่ง ได้กลับมาให้บริการกันอย่างคึกคักอีกครั้ง เนื่องจากหลายร้านงดการรับคนละครึ่ง เนื่องจากกลัวเรื่องภาษีเงินได้ จึงทำให้ร้านค้าในเขต จ.ขอนแก่น โดยเฉพาะกลุ่มหาบเร่ แผงลอย หรือร้านขายส่ง ได้กลับมาให้บริการคนละครึ่งให้คึกคักเช่นเดิมอีกครั้ง อย่างไรก็ตามนอกจากการปรับเพิ่มวงเงินให้มากขึ้นแล้สว รัฐบาบควรที่จะพิจารณาทบทวนการใช้สิทธิ์คนละครึ่งในกลุ่มน้ำมันเชื่อเพลิง โดยเฉพาะรถยนต์ส่วนบุคคลและรถจักรยานยนต์ ที่ครอบคลุมในระดับภูมิภาคทั่วทั้งประเทศด้วยเนื่องจากภาวะราคาน้ำมันนั้นแพงจริงๆ