หนุ่มหลอนจุดไฟเผาบ้านตัวเอง ลุกลามวอด3หลัง (มีคลิป)

ชายจิตหลอนจุดไฟเผาบ้านตัวเอง ไฟลุกไหม้วอดทั้งหลัง พร้อมลุกลามข้ามกำแพงไปยังบ้านเพื่อนบ้านถูกไฟไหม้วอดอีก 2 หลัง ชาวบ้าน 10 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัย ทรัพย์สินทั้งชีวิตหายไปในพริบตา วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ใจบุญช่วยบริจาค พร้อมทั้งขอให้กฎหมายเอาผิดคนก่อเหตุให้ถึงที่สุดไม่ต้องปล่อยกลับออกมา


หนุ่มจุดไฟวางเพลิงบ้านตัวเอง ซึ่งเป็นบ้านของนายมณีวัฒน์ จันทาสี บ้านเลขที่ 120 ม.10 พักอาศัยอยู่ตามลำพัง เป็นคนจุดไฟเผาบ้านตัวเอง ก่อนจะลุกลามไปยังบ้านของนายเงิน จ่าบาล เลขที่ 118 ม.10 ต.เมืองพล มีผู้อาศัย 5 คน และลุกลามไปยังบ้านหลังที่ 3 ของนายหนู กุลวงษ์ เลขที่ 119 ม.10 ต.เมืองพล มีผู้อาศัย 5 คน โดยไฟได้ลุกไหม้บ้านทั้ง 3 หลังจนวอด และมีบ้านเสียหายเล็กน้อยอีก 2 หลัง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 6 ส.ค.2565 ในพื้นที่บ้านใหญ่แม่เอี ม.10 ต.เมืองพล อ.พล จ.ขอนแก่น

ล่าสุดเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 12 ส.ค.2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุ พบว่าทางหมู่บ้านได้มีการตั้งกองอำนวยการและจุดรับบริจาคผู้ประสบเหตุอัคคีภัย บ้านหันใหญ่แม่เอีย หมู่ 10 ต.เมืองพล อ.พล จ.ขอนแก่น และเปิดบัญชีรับบริจาคช่วยเหลือบ้านที่ได้รับความเสียหายจากเหตุไฟไหม้ ซึ่งทางผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และ ส.อบต.เมืองพล ได้ทำการเปิดบัญชีร่วมกัน เป็นบัญชีธนาคารกรุงศรี หมายเลขบัญชี 781-1-08106-4 โดยมีหน่วยงานต่างๆและผู้ใจบุญช่วยกันบริจาคเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้เสียหาย ขณะที่นายณรงค์ วงษ์หาแก้ว นายกอบต.เมืองพล พร้อมทีมงาน ลงพื้นที่มาพบกับเจ้าของบ้านที่ถูกไฟไหม้ลุกลามมาจนวอดทั้งหลัง พบกับนายหนู กุลวงศ์ เจ้าของบ้านหลังที่ 2 และนางกองแก้ว จ่าบาว อายุ 61 ปี เจ้าของบ้านหลังที่ 3 และมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจำนวน 3,800 บาท และข้าวสารอาหารแห้ง พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ของ อบต.เมืองพล คอยสับเปลี่ยนกันมาช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ในด้านการอำนวยความสะดวกด้วย

นายณรงค์ วงษ์หาแก้ว นายก อบต.เมืองพล พาผู้สื่อข่าวดูจุดที่เกิดไฟไหม้ โดยพบว่าขณะนี้มีชาวบ้านเข้ามาช่วยกันรื้อถอนซากไม้ที่ถูกไฟไหม้ออกจากพื้นที่ไป โดยจากเมื่อก่อนจะมีบ้าน สองชั้น 3 หลัง ตั้งอยู่เรียงกัน แต่ปัจจุบันนั้นหายไปไม่หลงเหลือเศษซากแล้ว ส่วนผู้พักอาศัยอยู่ในบ้านทั้ง 2 หลังที่ได้รับความเสียหายจากไฟที่ลุกลามเข้ามาไหว้บ้านนั้นต้องไปพักอาศัยอยู่กับญาติพี่น้องไปก่อน โดยนายก อบต. เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ช่วงวันเกิดเหตุนั้น ทุกคนในหมู่บ้านมาร่วมงานศพที่วัด โดยตนเองได้มาร่วมงานด้วยเช่นกัน ซึ่งขณะที่ทุกคนอยู่ที่วัดร่วมพิธี ตนเองได้รับโทรศัพท์จากชาวบ้านแจ้งว่าเกิดไฟไหม้ ตนเองเข้ามาเห็นไฟกำลังลุกไหม้ที่บ้านหลังแรก ตนเองได้บอกชาวบ้านมาช่วยกันนำน้ำมาดับไฟ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งไลฟ์สดเพื่อจะให้หน่วยงานต่างๆได้เห็นและเข้ามาช่วยเหลือ ในขณะที่ตนเองเข้าไปสำรวจนั้น พบว่ามีผู้สูงอายุเจ้าของบ้านจะย้อนกลับเข้าไปในบ้านเพราะเป็นห่วงเสื้อผ้า เลขาตนเองจึงดึงออกมาเพื่อไม่ให้ได้รับอันตราย ส่วนตนเองพยายามช่วยขนของมีค่าออกจากบ้านก่อนที่ไฟจะลุกลามมาบ้านหลังที่ 2 และก็คว้าเอาโทรทัศน์และเครื่องซักผ้าออกมาได้เพียง 2 อย่างเท่านั้น ไฟก็ลุกลามมาหลังที่2และ3อย่างรวดเร็ว ก่อนที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากหน่วยงานต่างๆจะระดมน้ำฉีดสกัดเปลวไฟเอาไว้ได้ โดยใช้เวลาประมาณกว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ในวงจำกัดได้

จากการสอบถาม นายหนู กุลวงศ์ เจ้าของบ้านหลังที่ 2 กล่าวว่า ขณะนั้นตนเองทำนาไม่ได้อยู่บ้าน พอตนเองกลับมาถึงพบว่าไฟได้ไหม้บ้านวอดไปหมดแล้ว และสาเหตุมาจากชายที่อยู่ข้างบ้าน มีประวัติยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเผาบ้านตัวเองแล้วลุกลามมาบ้านตนเองและบ้านข้างเคียงอีกหลังชาวบ้านกลับมาจากงานศพช่วยกันเอาน้ำมาดับไฟช่วยกันไว้ทัน ส่วนคนก่อเหตุหลังจากวางเพลิงเสร็จไปอยู่บนกำแพงกระดิกขาหัวเราะสบายใจ ไม่รู้สึกรู้สา ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเอาตัวไป โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 4 ส.ค.65 ที่ผ่านมานายมณีวัฒน์ จุดไฟเผาบ้านตัวเองแล้วครั้งหนึ่ง แต่ชาวบ้านเห็นทันโทรแจ้งตำรวจมาจับเอาตัวไปแต่คุมตัวไว้ 2 วันก็ปล่อยกลับมาเพราะไม่มีเจ้าทุกข์แจ้งความเอาผิด เป็นการเผาทรัพย์ตัวเอง พอปล่อยตัวออกมาวันที่ 6 ส.ค.265 ก็ก่อเหตุเผาบ้านในครั้งนี้ทันที ส่วนตัวอยากให้ตำรวจจับไปนาน ขังคุกตลอดชีวิตยิ่งดี เพราะออกมาก็กลับมาก่อเหตุอีกครั้งอย่างแน่นอน ไม่เชื่อว่านายมณีวัฒน์จะสามารถกลับตัวกลับใจได้ ตอนนี้ท้อใจอยากมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กว่าจะหามาได้ทั้งชีวิตมีแค่นี้ ตอนนี้ก็อายุมากแล้วไม่รู้ว่าจะหามาได้เหมือนเดิมไหม บ้านหลังนี้เหมือนเป็นทรัพย์สินมีค่าเพียงชิ้นเดียวของครอบครัว บ้านคือทุกสิ่งทุกอย่าง ตอนนี้ไฟไหม้ไปจนหมดไม่เหลืออะไรสักอย่าง ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป ตอนนี้มีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือเบื้องต้น อยากจะมีบ้านที่พักอาศัยเหมือนเดิม ตอนนี้ไม่มีเงินเหลือเพราะทุกอย่างถูกไฟไหม้ไปหมดแล้ว

ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 ส.ค.2565 นางกองแก้ว จ่าบาล อายุ 61 ปี เจ้าของบ้านหลังที่ 3 ที่ถูกไฟลุกลามไหม้จนวอด เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองอยู่งานส่งสกาที่วัดในหมู่บ้าน มีคนโทรบอกลูกสาวว่าไฟไหม้ที่เดิม จึงให้ลูกสาวโทรศัพท์ไปบอกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านว่าเกิดเพลิงไหม้ที่เดิม ซึ่งทุกคนในหมู่บ้านจะรู้ทันทีว่าเป็นเหตุการณ์ในลักษณะไหน โดยชายที่อาศัยอยู่ในบ้านคือนายมณีวัฒน์ อายุ 37 ปี เคยจุดไฟเผาบ้านตัวเองมาแล้วหลายครั้ง ตนเองจึงรีบวิ่งมาที่บ้าน พอมาเห็นพบสภาพบ้านหลังแรกไหม้วอดไปแล้ว กำลังลุกลามมาหลังที่สอง ส่วนบ้านตนเองเป็นหลังที่สาม นึกขึ้นได้ว่าถ้าไฟไหม้ต้องรีบไปเอาของมีค่านึกได้ตอนนั้นคือโฉนดที่ดิน ครั้งแรกตาไปเอาหีบเก็บของออกมาแต่ไม่ใช่ใบที่เก็บโฉนด ตนเองจึงตัดสินใจวิ่งขึ้นชั้นสองไปหยิบเอาใบโฉนดที่ดินออกมา พอลงมาเห็นไฟเริ่มเข้ามาถึงบ้านตนเองแล้ว พร้อมกันนี้พบว่ายายกับหลานจะไปเอาผ้าซิ่นแต่ยายเกิดเป็นลม เคราะห์ดีมีคนมาช่วยพาออกไปส่งโรงพยาบาลทัน ตนเองจึงไปหยิบเอาหีบผ้าซิ่นยายออกมาให้ สุดท้ายได้เพียงโฉนดที่ดินกับผ้าซิ่นเท่านั้นที่หลงเหลืออยู่ นอกนั้นถูกไฟไหม้วอดสูญหายไปพร้อมบ้านสองชั้นทั้งหลัง และยังเคราะห์ดีกว่านั้น หลานกลับมาเคลื่อนย้ายรถกระบะกับรถจักรยานยนต์ออกไปที่อื่นไว้ทัน

ตอนที่ไฟลุกนั้นนายมณีวัฒน์คนก่อเหตุเผาเสร็จไม่ได้หนีไปไหน แต่ไปนั่งยิ้มนั่งหัวเราะอยู่ริมรั้วหน้าบ้าน จนกระทั่งตำรวจ สภ.พลมาเอาตัวไปดำเนินคดี หลังจากที่ผ่านมา นายมณีวัฒน์ก่อเหตุลักษณะนี้เป็นประจำ แต่ไม่สามารถเอาผิดได้เพราะยังไม่เกิดความเสียหาย ทุกคนทำได้แค่ระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุขึ้นเท่านั้น แต่สุดท้าย ที่หมู่บ้านมีงานศพคนในหมู่บ้านเสียชีวิต และเป็นคนที่ชาวบ้านรักนับถือ ต่างพากันไปร่วมงานกันหมด และก่อนหน้าจะเกิดเพลิงไหม้นั้น วันที่ 4 ส.ค. นายมณีวัฒน์จุดไฟเผาบ้านตัวเอง ชาวบ้านก็เข้าไปห้ามแล้วแจ้งตำรวจ กระทั่งตำรวจจับตัวไปแต่ก็คุมตัวได้แค่ 2 วันต้องปล่อยตัวออกมาเพราะไม่มีเจ้าทุกข์เป็นการเผาทรัพย์สินตัวเอง เมื่อชาวบ้านต่างพากันไปงานศพในขณะที่ตำรวจปล่อยตัวนายมณีวัฒน์ออกมาพอดี ทำให้ นายมณีวัฒน์มีโอกาสลงมือโดยที่ปลอดคนในหมู่บ้านจนเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งใหญ่ขึ้นตนเองพูดคุยกับเพื่อนบ้านตลอดว่า หากปล่อยออกมาจะเป็นยังไง ซึ่งคุยกันมาตลอดกระทั่งเป็นจริง นายมณีวัฒน์จุดไฟเผาบ้านตัวเองลุกลามมาบ้านตนเองเป็นหลังที่ 3 จนเกิดการสูญเสียทรัพย์สิน อยากให้ตำรวจจับตัวไปนานๆไม่อยากให้ปล่อยตัวกลับมาเพราะชเอว่าคนอย่างนายมณีวัฒน์ไม่มีทางกลับตัวได้

@khonkaenlink หนุ่มหลอนจุดไฟวางเพลิงบ้านตัวเองลุกลามวอดรวม3หลังวอนช่วยเหลือ #ข่าวtiktok ♬ เสียงต้นฉบับ KHONKAENLINK KKL

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง