ขอนแก่นฝนตกชุก กระทบเกษตรกรปลูกกุยช่ายขาว หลังเกิดภาวะรากเน่าและเชื้อราที่โคนต้น ขณะที่ปัญหาดินเสียยังแก้ไม่ได้ เพราะทำอย่างไรก็เป็นกรดเช่นเดิม
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 ส.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจความเสียหายหลังเกิดพายุฝนฟ้าคะนองตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่ตลอดทั้งช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่ บ.นาเพียง ม.4 ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกกุยช่ายรายใหญ่ของ จ.ขอนแก่น ที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนที่ตกลง ที่ทำให้เกิดน้ำขังในพื้นที่ทำการเกษตรอย่างมาก
โดยพบว่าปริมาณน้ำฝนจำนวนมากได้ส่งผลให้รากของกุยช่ายเน่า ขณะที่บางต้นเกิดเชื้อราที่บริเวณโคนต้น ทำให้ในขณะนี้เกษตรกรเร่งสำรวจความเสียหาย และพ่นยาเพื่อป้องกันและควบคุมผลผลิต
นายจำรูญ วงษ์ละคร อายุ 58 ปี บ้านนาเพียง ม.4 ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า กุยช่ายเป็นพืชที่ไม่ชอบน้ำเยอะถ้าแฉะน้ำมากจะมีโรคตามมาอย่างเช่นโรค โคนเน่าและเชื้อรา ซึ่งจะเจอปัญหามากในช่วงฤดูฝนส่วนใหญ่และอีกหนึ่งปัญหาที่พบคือดินเสียปลูกแล้วต้นไม่โต โตช้า หรือได้ผลผลิตไม่ได้ตามที่ต้องการ
“เกษตรกรบางรายที่ปลูกด้วยกันมาตั้งแต่เริ่มต้นก็เลิกปลูกไปแล้วบ้างก็มีเพราะแก้ปัญหาดินเสียไม่ได้ เคยแก้ปัญหาด้วยการเติมปุ๋ยเติมสารต่างๆเพื่อบำรุงรักษาแต่ก็กลับมาเป็นกรดเหมือนเดิม”
นายจรูญ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับราคาจำหน่ายกุยช่ายนั้นยังคงราคาเท่าเดิม แยกเป็น กุยช่ายเขียวขายส่งกิโลกรัมละ 35 บาท กุยช่ายขาวขายส่งกิโลกรัมละ 95 บาท ทั้งนี้โดยส่วนตัวไม่เคยคิดจะเลิกปลูก แต่เพิ่มการปลูกพืชอย่างอื่นก่อนที่จะปลูกกุยช่ายเพื่อเป็นการรักษาดิน เพราะถ้าจะเลิกปลูกกุยช่ายไปเลยก็คงไม่ได้ เนื่องจากเป็นพืชที่มีราคาดีกว่าพืชผักชนิดอื่นๆ
“ปลูกกุยช่ายขาว 1 ไร่ได้ผลผลิตต่อครั้งประมาณ 20 กิโลกรัม ได้เงิน 1,800 บาท ขณะที่กุยช่ายเขียวได้ผลผลิตต่อ 1 ครั้ง 200 กิโลกรัม ได้เงินประมาณ 6,000 บาท ซึ่ง ถ้าเริ่มปลูกใหม่จะใช้เวลา 3 เดือน ถึงจะเก็บผลผลิตได้แต่จะได้ผลผลิตน้อยหลังจากตัดครั้งแรกและจะเก็บผลผลิตครั้งต่อไปอีก 45 วัน”
Leave a Response