สภากาชาดไทยทำหนังสือถึงผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด เพื่อแจ้ง อบจ.ให้จองซื้อวัคซีน “โมเดอร์นา” ในราคาโดสละ 1,300 บาท ภายในวันที่ 21 ก.ค. เพื่อนำไปฉีดให้ประชาชนกลุ่มเปราะบางโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ตามการอนุมัติของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
สภากาชาดไทยออกหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 15 ก.ค.2564 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เรื่องขอความร่วมมือในการแจ้งจองวัคซีนสำหรับฉีดให้แก่ประชาชนกลุ่มเปราะบางและกลุ่มอื่นๆ ภายในวันที่ 21 กรกฎาคม ในราคาโดสละ 1,300 บาท ระบุว่า ขณะนี้สภากาชาดไทยได้สั่งจองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โมเดอร์นาจำนวนหนึ่ง จากผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทย ผ่านองค์การเภสัชกรรม เพื่อนำมาฉีดบริการให้ประชาชนกลุ่มเปราะบางและกลุ่มต่างๆโดยไม่คิดมูลค่า ตามพันธกิจของสภากาชาดไทย
ทั้งนี้ สภากาชาดไทยจะได้จัดสรรโควตาวัคชีนจำนวนหนึ่งให้แก่ “องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)” เพื่อนำไปฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบางและกลุ่มต่างๆ ในพื้นที่โดยมีเงื่อนไขสำคัญว่าต้องดำเนินการฉีดให้แก่ประชาชนโดยไม่คิดมูลค่า และแผนการฉีดวัคซีนดังกล่าวต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด และเงื่อนไขอื่นๆ ที่กำหนด
จึงขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัดได้แจ้งให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดในพื้นที่ ที่มีความประสงค์จะซื้อวัคซีนไปฉีดบริการให้กับประชาชนตามเงื่อนไขดังกล่าว และแจ้งมายัง สภากาชาดไทย ภายในวันที่ 21 กรกฎาคมนี้
สำหรับแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนสำหรับประชาชน ของสภากาชาดไทย มีเงื่อนไขดำเนินการ ดังนี้
1.องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ต้องจัดทำ “แผนการขอรับการจัดสรรวัคชีน” เพื่อนำวัคซีนไปฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ตามที่สภากาชาดไทยกำหนด พร้อมจำนวนคนในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 5 กลุ่ม ตามลำดับ ได้แก่
–คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง สตรีตั้งครรภ์ ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด-19 มาก่อน
–ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด-19 มาก่อน
–บุคลากรทางการแพทย์และพยาบาล ในถิ่นทุรกันดาร
–ผู้ที่ทำงานประจำอยู่ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ครูผู้สอนในโรงเรียนอนุบาล หรือครูอาจารย์ผู้ที่ทำหน้าที่สอนหนังสือในโรงเรียน ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด-19 มาก่อน
–บุคลากรที่ต้องออกปฏิบัติงานสัมผัสประชาชน ตามโครงการฉีดวัคซีนขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด-19 มาก่อน
–บุคคลที่ยังไม่สามารถรับการฉีดวัคซีนได้ เนื่องจากติดขัดระเบียบหรือกฎหมาย
2.องค์การบริหารส่วนจังหวัดต้องเสนอ “แผนการขอรับการจัดสรรวัคชีน” โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด
3.องค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่เข้าร่วมโครงการกับสภากาชาดไทย ต้องสนับสนุนงบประมาณค่าวัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นา ราคา 1,300 บาท/โดส ให้แก่สภากาชาดไทยเพื่อนำไปจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โมเดอร์นา มาให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)
สำหรับเงินค่าวัคซีน โดสละ 1,300 บาท นั้น เมื่อหักต้นทุนวัคซีนและค่าบริหารจัดการตามโครงการแล้วเงินส่วนที่เหลือจากค่าใช้จ่ายดังกล่าว จะได้นำเข้าสมทบใน “กองทุนสภากาชาดไทย เพื่อจัดหาวัคชีนโควิด-19 และยารักษาโรคโควิด-19 สำหรับประชาชน” ต่อไป
นอกจากนี้ยังมีเงื่อนไขสำคัญ เช่น
–อบจ. ต้องจัดบริการฉีดวัคนให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมาย โดยไม่คิดมูลค่าและห้ามนำไปจำหน่ายโดยเด็ดขาด
–เมื่อสภากาชาดไทย แจ้งการจัดสรรโควต้า ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) แล้ว
ขอให้ชำระเงินเต็มตามจำนวนที่ได้รับอนุมัติจากสภากาขาดไทย ภายในวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ก่อนเวลา 12.00 น.
–สภากาชาดไทยจะทยอยจัดสรรวัคชีนได้ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และหรือวิทยาการความก้าวหน้าของวัคซีนโควิด-19 เปลี่ยนแปลงไป สภากาชาดไทยจะพิจารณาเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขตามความเหมาะสมกับสถานการณ์
Leave a Response