ชายป่วยจิตคลั่งทำลายข้าวของในบ้านตัวเอง ก่อนออกมาโวยวายอาละวาดปีนระเบียงชั้นสอง จนชาวบ้านหวาดผวาก่อนตำรวจพาแม่เกลี้ยกล่อมจนยอมถอยเข้าบ้านคุมตัวส่ง รพ.จิตเวช ล่าสุด คนเห็นเหตุการณ์เผยเมื่อคืนที่ผ่านมาชายคนดังกล่าวถือมีดยืนโวยวายกลางถนน ที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุการณ์นี้เป็นคนนิสัยดี

ความคืบหน้ากรณี พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น เข้าระงับเหตุชายคลุ้มคลั่งยืนอาละวาดอยู่ระเบียงชั้นสอง อาคารพาณิชย์สองชั้น เลขที่ 433/65 ม.2 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบนายตะวัน แหล่ป้อง อายุ 24 ปี ชาวอำเภอแวงใหญ่ จ.ขอนแก่น อยู่ในอาการคลุ้มคลั่งทำลายข้าวของแล้วออกมายืนโวยวายที่ระเบียงชั้นสอง ทางตำรวจจึงได้สอบถามชาวบ้านข้างเคียงและประสานหาญาตินายตะวันซึ่งสามารถติดต่อแม่นายตะวันได้และเชิญมาที่เกิดเหตุเพื่อให้เกลี้ยกล่อมนายตะวันให้ใจเย็นลง โดยนายตะวันเชื่อฟังและยอมกลับเข้าไปในห้อง ทางตำรวจจึงเข้าไปตรวจสอบและควบคุมตัวสงบสติอารมณ์แล้วพาส่งโรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ทันที

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 15 ก.ย.2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้งภายหลังจากที่มีฝนตกลงมาอย่างหนักหลังจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวชายคลุ้มคลั่งดังกล่าวส่งโรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ โดยได้พบกับนาย เชษฐ์ สีพรหมมา อายุ68 ปี ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ พาผู้สื่อข่าวดูจุดที่ชายดังกล่าวปีนบริเวณระเบียงชั้นสองของอาคารพาณิชน์ที่ชายดังกล่าวเช่าพักอาศัยอยู่กับแม่ โดยมีร่องรอยกระจกแตกจากการถูกทุบด้วยฝรมือของชายดังกล่าว สีสเปรย์ที่ชายดังกล่าวฉีดพ่อตามผนัง หน้าต่างประตูห้อง ขายของภายในเสียหายุถูกทำลาย

นายเชษฐ์ ลีพรหมมา อายุ 68 ชาว ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่าขณะกลับมาจากทำงานก็เห็นตำรวจและมูลนิธิรถจอดเต็มถนน และเห็นผู้ก่อเหตุยืนอยู่ระเบียงชั้นสองนอกหน้าต่าง เหมือนคนเมาเรียกร้องความสนใจ และถือเหล็กแปบ ทุบข้าวของในบ้านพังหมด ดีที่ไม่มีมีดหรือปืน ทั้งยังทุบกระจกรถเบนซ์เก่าที่พ่อจะเอามาซ่อมจนแตกละเอียด ดีที่เป็นการก่อเหตุในบ้านตัวเอง ไม่ได้ทำลายสิ่งของหรือทำร้ายใคร แต่คนที่อาศัยอยู่บ้านข้างเคียงกลัวและหวาดระแวงว่าจะได้รับอันตรายเพราะบ้านแถวนี้มีเด็กเล็ก และคืนที่ผ่าน ชายคลั่งรายนี้ ได้ถือมีดออกมายืนอยู่ข้างถนน จึงเกรงว่าจะเกิดอันตราย  แต่ช่วงที่คุ้มคลั่งนั้น ตำรวจมาระงับเหตุและคุมตัวส่งรพ. จึงพอจะหายห่วงได้บ้าง ชายคนนี้ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ มีแค่ขับรถเสียงดัง ขับไปขับมาแต่ก็ไม่ได้สนใจเพราะวัยรุ่น แต่นิสัยดี คิดว่าคงเมาจึงเป็นแบบนี้