เจ้าของ “พังบัวนา” เผย “แม่น้ำหนึ่ง” สงสารช้างซูบผอมอดอาหารไถ่ชีวิตกลางปั๊ม ไถ่ชีวิต1.3ล้านเลี้ยงดูจนแข็งแรง เชื่อบารมีครูบาไก่เจ้าอาวาสคุ้มครองช้าง
จากกรณีที่พระครูสุวิทย์ ชินวโร หรือ ครูบาไก่ อายุ 29 ปี เจ้าอาวาสวัดป่าปฐมเทวาบูรพาราม บ้านป่าผุ ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น พร้อมพระสงฆ์และสามเณรพากันออกตามหาช้างพังบัวนา อายุ 56 ปี ซึ่งหลุดจากโซ่ที่ควาญช้างผูกล่ามไว้กับต้นสะเดา แล้วหายเข้าไปในป่าแล้วยังหาตัวไม่พบตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 ก.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบ ที่วัดป่าปฐมเทวาบูรพาราม หลังพบว่าช้างพังบัวนาได้กลับมาแล้ว โดยเมื่อไปถึงที่วัดพบเจ้าพังบัวนา กำลังหมอบตัวลงให้ครูบาไก่ขึ้นขี่หลังท่ามกลางความดีใจของญาติโยมที่มาทำบุญที่วัด จากนั้นครูบาไก่ก็ขี่พังบัวนาเดินรอบโรงช้าง มีญาติโยมให้อาหารและลอดท้องช้าง โดยที่พังบัวนาก็มีท่าทีที่ร่าเริง และเดินเข้าในโรงเก็บช้างอย่างเป็นกันเอง โดยมีควาญช้างคอยดูแลตลอดเวลา
พระครูสุวิทย์ ชินวโร หรือ ครูบาไก่ เจ้าอาวาสวัดป่าปฐมเทวาบูรพาราม กล่าวว่า หลังจากที่พังบัวนาหลุดจากโซ่ที่ล่ามไว้ ก็พากันออกหาทั้งวันจนมืดค่ำก็ไม่พบจนกระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมาจึงให้ควาญช้างชี่ช้างพลายทองหล่อ ช้างคู่บุญ ที่ถูกไถ่ชีวิตมาพร้อมกันออกหาพังบัวนาอีกครั้ง จนไปเจอเจ้าของสวนกล้วย ที่อยู่ห่างจากวัดไป 1 กม. ซึ่งเจ้าของสวนกล้วยมาบอกว่า ช้างพังบัวนากำลังกินต้นกล้วยอยู่ในสวน ควาญช้างจึงขี่พลายทองหล่อเข้าไปหา ก็เจอพังบัวนาจริงๆ จึงพากันเดินกลับมาที่วัดอย่างปลอดภัย
“หลังพบตัวพังบัวนาก็หายห่วง เพราะตามร่างกายหรือเท้าไม่มีบาดแผล แต่วิตกกังวลในเรื่องของท้องอืด เพราะการหลุดจากโซ่เข้าไปในป่าช้างอาจจะกินใบไม้ต่างๆที่อาจปนเปื้อนยาฆ่าแมลง หรือสารพิษ ทำให้ลำไส้หรือท้องเสีย ท้องอืดได้ จึงให้ควานเฝ้าสังเกตอาการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสังเกตความผิดปกติ ถ้าไม่มีสิ่งผิดปกติก็ถือว่าพังบัวนา ยังปลอดภัยแข็งแรงดี”
ด้าน นายชินวัฒน์ อายุ 32 ปี ควาญช้างที่ดูแลเลี้ยงพังบัวนามาตั้งแต่เล็ก กล่าวว่า พังบัวนาเป็นช้างที่นิ่ง เรียบร้อย ไม่หงุดหงิด การหายไปครั้งนี้ เป็นเพราะที่ล็อกตัวยูเสื่อมสภาพและคลายออก พังบัวนาจึงหลุดจากโซ่ได้ ในจุดที่เป็นสวนกล้วยที่พังบัวนาเข้าไปกินต้นกล้วยนั้น เมื่อวานก็เข้าไปหาแต่ไม่พบตัว เชื่อว่า ที่หาตัวไม่พบยังเป็นช่วงที่พังบัวนาอยากเที่ยว ตามประสาช้างที่หลุดจากโซ่และอยู่ในป่าก็เดินเที่ยวไปเรื่อย แต่การที่พบพัวบัวนาอยู่ใกล้กับวัด พังบัวนาน่าจะกำลังเดินกลับทางเดิม เพื่อมายังจุดที่ตัวเองเคยถูกล่ามโซ่ แต่เจอสวนกล้วยจึงแวะกินก่อน และเชื่อว่า ที่พังบัวนากลับมาที่วัดได้อย่างปลอดภัย เป็นเพราะบารมีครูบาไก่
ขณะที่ นางสอน มะลิงาม อายุ 59 ปี อยู่ ม.9 ต.โพธิ์ผลา อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ เจ้าของช้างตัวจริง ได้เดินทางมาที่วัด หลังทราบว่าพังบัวนา หายตัวไป กล่าวว่า เลี้ยงพังบัวนาคู่กับพลายทองหล่อมาตั้งแต่เล็ก จากนั้นก็พามาอยู่ที่ปางช้างพัทยา จนกระทั่งปี 2562 เป็นช่วงโควิดเริ่มระบาดในประเทศไทย ปางช้างปิด งานแสดงช้างก็ไม่มี ปี 2564 จึงตัดสินใจพาช้างมาขออาศัยอยู่ที่วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ก็อยู่ได้ไม่นานเพราะไม่มีนักท่องเที่ยว เข้าไปเที่ยวชมในวัด เดือน พ.ค.2564 จึงตัดสินใจ ทำเรื่องขนย้ายช้างเพื่อกลับไปอยู่บ้านที่สุรินทร์
“จำได้แม่นยำเลยว่า วันที่ 19 พ.ค.2564 ขณะที่รถขนช้างจอดเติมน้ำมันอยู่ภายในปั๊มก็พบกับแม่น้ำหนึ่ง เดินมาถาม ในเรื่องการขนย้ายช้าง จึงเล่ารายละเอียดให้แม่น้ำหนึ่งฟังว่า โควิดระบาด ไม่มีรายได้พอที่จะเลี้ยงตัวเอง เลี้ยงช้างได้อีก จึงจะพาช้างกลับไปอยู่ที่บ้าน แม่น้ำหนึ่งจึงขอซื้อช้าง ไถ่ชีวิตช้างทั้งพังบัวนาและพลายทองหล่อในราคา1,300,000 บาท และให้รถขนช้างมาส่งให้ครูบาไก่ที่วัดป่าปฐมเทวาบูรพาราม บ้านป่าผุ ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น จึงตอบตกลง เพราะสงสารช้างที่ซูบผอม เพราะอดอาหาร ไม่มีเงินซื้ออาหารให้ช้างกิน เมื่อทุกอย่างที่คุยกันลงตัว จึงรีบขนช้างมาส่งที่วัดตามที่แม่น้ำหนึ่งสั่ง มาส่งให้ครูบาไก่ เมื่อเห็นพื้นที่ของวัดที่ล้อมรอบด้วยป่าที่สมบูรณ์ ก็คิดว่าช้างคงไม่อดตายแล้ว ก็รู้สึกสบายใจ”
นางสอน กล่าวต่ออีกว่า หลังแม่น้ำหนึ่งไถ่ชีวิตช้างคู่ มาไว้ที่วัดกับครูบาไก่ ก็จะมีควาญช้างคอยดูแลอยู่ที่วัด แต่เมื่อทราบว่า พังบัวนาหลุดจากโซ่หายตัวไป ก็รีบเดินทางจากบ้านที่สุรินทร์มาที่วัด ถึงวัดในช่วงค่ำของเมื่อวาน ก็รีบจุดธูปบอกเจ้าป่า ขอบารมีครูบาไก่ปกป้องให้พังบัวนากลับมาที่วัดอย่างปลอดภัย เช้ามาก็ทราบข่าวจากควาญช้างว่าพบพังบัวนาแล้ว มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงเป็นปกติทุกอย่าง จึงเชื่อว่าบารมีของครูบาไก่ ช่วยคุ้มครองพังบัวนา ให้กลับมาอยู่ที่วัดได้อย่างปลอดภัย
Leave a Response