คอลัมน์ “รู้จริง ถิ่นเฮา”
โดย “น้องดอกคูน”
….เรื่องเล่า อ่านสนุก ซอกมุมของบรรพบุรุษ และมองออกไปเบื้องหน้า ในบริบทของ เศรษฐกิจ สังคม การเมือง เมื่อทุกเรื่องม้วนร้อย เป็นมิติเดียวกัน เหลืองสะพรั่งของดอกคูณ และ เสียงแคน แล่นแต้ มาแล้ว………….
“วันพระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย “ คือ วันที่ 24 กันยายน ของทุกปี อันเป็นวันสวรรคตของ “สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก”
การกำหนดเป็นวันนี้ เพื่อรำลึกถึงพระองค์ที่ทรงพระราชกรณียกิจ ทรงบำเพ็ญงานให้แก่วงการแพทย์ และการสาธารณสุข เสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นให้แก่โรงเรียนแพทย์ และพัฒนาการเรียนการสอนตลอดจนการผลิตแพทย์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพอันเป็นการวางรากฐานแก่การแพทย์ และการสาธารณสุข ของประเทศไทย เอนกอนันต์
“พระราชาอนุสาวรีย์” องค์แรก ประดิษฐาน ที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อ ปี 2493 หรือเมื่อ 72 ปีก่อน ต่อมา จึงเป็นประเพณีของการอัญเชิญ พระราชาอนุสาวรีย์ ปรากฏให้พวกเราได้น้อมรำลึก กับคณะแพทย์ศาสตร์ ที่ก่อตั้งขึ้นในทุกสถาบันการศึกษาทุกแห่งในเวลาต่อมา
ที่ขอนแก่น-บ้านเฮา คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ก่อตั้งเมื่อปี 2515 –ปีนี้ครบรอบ 50 ปี ก็เช่นกัน มี พระราชาอนุสาวรีย์ ของทั้งสองพระองค์ คือ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และ สมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี ให้คุณหมอ-พยาบาลได้สักการะ เป็นขวัญกำลังใจ ยามท้อ เป็นน้ำทิพย์ชะโลมใจจากความเหนื่อยล้ากับภารกิจเบื้องหน้า โดยเฉพาะ ในยุคโควิด-19 ที่บุคลากรทางการแพทย์ ต้องเสียสละกันทุกคน จนได้รับการยกย่องว่าเป็น “ฮีโร่ชุดขาว”
+++++++++++++++++++++++++
จากนี้ ขอสื่อสารกับท่านผู้อ่าน ด้วยภาษาบ้านๆ ละวาง “ราชาศัทพ์ ” ไว้สักครู่ยาม….
“ครอบครัวมหิดล” เป็นครอบครัวที่มีพระคุณล้นพ้นกับประชาชนคนไทยทุกคน บิดา-เป็นแพทย์ มารดา-เป็นพยาบาล และเป็นผู้บุกเบิก การแพทย์ และการพยาบาลของประเทศไทย ทำให้มีการพัฒนาทางการแพทย์ สาธารณสุข ในยามที่เราเกิดโรคภัย จึงเห็นได้อย่างชัดเจนกับสายพระเนตรอันยาวไกล ที่ทรงวางรากฐานไว้อย่างมั่นคง
การวางพวงมาลา ร่วมรำลึก ถึงพระองค์ท่าน ในทุกวันที่ 24 กันยายน จึงเป็นการน้อมรำลึก หวนคิดถึงพระคุณอย่างหาที่สุดมิได้ คนไทยเรา มีความกตัญญูต่อท่านที่เสียสละต่อพวกเรา ย่อมนำพามาซึ่งความเจริญแห่งตน ในทุกลมหายใจ…..
Leave a Response