จบด้วยดี กรณีหญิงเจ้าของบ้านที่ อ.พล จ.ขอนแก่น แจ้งความจับตำรวจบุกรุกยามวิกาล นั่งลงท้ายรถเก๋งทำท่าเหมือนยัดอะไรบางอย่างใต้รถ ล่าสุด เจ้าของบ้านไม่ติดใจและได้ถอนแจ้งความแล้ว หลังตำรวจ สภ.พล ชี้แจงว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ และมีการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง

จากกรณี เมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่ผ่านมา นางสาว กชกร อายุ 45 ปี อยู่ ม.12 ซอยสาธารณสุข ถนนริมทางรถไฟ บ้านไชยพลสินธุ์ ต.โจดหนองแก อ.พล จ.ขอนแก่น นำภาพจากกล้องวงจรปิด ที่บันทึกภาพตำรวจสายตรวจรถยนต์ประจำ สภ.พล บุกรุก เข้าไปในบริเวณบ้านในยามวิกาล แล้วมีพฤติกรรมน่าสงสัย ใช้เป็นหลักฐาน เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ภูเบศ ศรีเปี้ย สว.(สอบสวน) สภ.พล จ.ขอนแก่น เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ และให้ดำเนินคดีกับตำรวจที่ปรากฏตามภาพในวงจรปิดตามกฎหมายนั้น

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 26 กันยายน 2565 ที่ ศปก.สภ.พล พ.ต.ท.สราวุฒิ จันทศิลา รองผกก.ป.สภ.พล พร้อมด้วย ร.ต.อ.สมพร ประสาวะนัง รอง สวป.สภ.พล และ ด.ต.ทวนทอง ทุ่งเทือง ผบ.หมู่(ป.) สภ.พล ปฏิบัติหน้าที่พลขับ และ ส.ต.ท.กมลชัย บุตรดี ผบ.หมู่(ป) สภ.พล ปฏิบัติหน้าที่สายตรวจประจำรถยนต์ ได้เข้าพูดคุยทำความเข้าใจกับนางสาว กชกร อายุ 45 ปี และนายปกาญจน์ นพศรี อายุ 57 ปี ประธานสภาทนายความศาลจังหวัดพล ที่เข้าแจ้งความจับตำรวจสายตรวจ ที่บุกรุกเข้าไปในบริเวณบ้านแล้วท่าทางมีพิรุธไม่น่าไว้วางใจ

ซึ่งการพูดคุยนานนับชั่วโมง ทั้งสองฝ่ายก็เข้าใจกัน โดย พ.ต.ท.สราวุฒิ กล่าวว่า ในกรณีที่ประชาชนมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษตำรวจสายตรวจ สภ.พลนั้น ผกก.สภ.พล ได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในเบื้องต้นพบว่า ในวันดังกล่าว ร.ต.อ.สมพร ประสาวะนัง รอง สวป.สภ.พลปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวร 20 พร้อมด้วย ด.ต.ทวนทอง ทุ่งเทือง ผบ.หมู่(ป.) สภ.พล ปฏิบัติหน้าที่พลขับ และส.ต.ท.กมลชัย บุตรดี ผบ.หมู่(ป) สภ.พล ปฏิบัติหน้าที่สายตรวจประจำรถยนต์ 20 ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ สภ.พล ว่า มีเหตุทะเลาะวิวาทและมีอาวุธปืนที่บริเวณร้านอาหารฤกษ์เหล้า ถนนสายพล-แวงน้อย จึงได้เดินทางไปทำการตรวจสอบ เมื่อเดินทางถึงพบว่าผู้ก่อเหตุได้มีการขับรถหลบหนีไปแล้ว จึงได้สอบถามผู้ที่อยู่บริเวณร้านทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือนายยืนส์ (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง)ใช้รถยนต์เก๋งสีดำเป็นพาหนะขับหลบหนีไป ร้อยเวร 20 พร้อมด้วยสายตรวจรถจักรยานยนต์ จึงร่วมกันออกสืบสวนและติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ

“เนื่องจากมีอาวุธปืนเกรงว่าจะใช้อาวุธปืนทำการก่อเหตุที่รุนแรงในพื้นที่ จนกระทั่งทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายยีนส์ มีบ้านพักอยู่ในซอยที่เกิดเหตุ จึงเข้าไปทำการตรวจสอบพบว่าเป็นซอยตัน เมื่อถึงจุดเกิดเหตุประตูรั้วเปิดอยู่ลักษณะคล้ายที่จอดรถหอพัก จึงได้ใช้ไฟฉายส่องเข้าไปเพื่อตรวจดูและขณะกำลังจะถอยรถกลับแสงไฟหน้ารถได้สาดเข้าไปภายในรั้วหน้าบ้านมองเห็นรถยนต์เก๋งสีดำจอดอยู่ จึงเกิดความสงสัยและต้องการแสวงหาข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่การจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ จึงได้ขยับรถเดินหน้ามาจอดที่เดิมอีกครั้ง”

ร้อยเวรสั่งให้ ส.ต.ท.กมลชัย ลงรถเข้าไปตรวจสอบที่ปลายท่อไอเสียรถยนต์คันดังกล่าวว่ามีความอุ่นหรือร้อนหรือไม่ เพื่อจะดูว่ารถกันดังกล่าวเพิ่งขับเข้ามาหรือไม่อย่างไร เมื่อพบว่าท่อไอเสียรถเย็นจึงได้พากันเดินทางออกตรวจในพื้นที่ต่อไป ในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวได้กระทำไปเนื่องด้วยมีเหตุเกิดขึ้นและผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืน จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องสืบสวนติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้มีการก่อเหตุที่รุนแรงเกิดขึ้นในพื้นที่ โดยมิได้มีเจตนาที่จะเข้าไปบุกรุกตามที่ถูกกล่าวหา หรือเข้าไป ตรวจค้น หรือมีการไปกระทำในสิ่งที่มิชอบด้วยกฎหมายแต่อย่างใด

ทางด้าน นางสาว กชกร กล่าวภายหลังฟังข้อเท็จจริงจากตำรวจว่าตอนนี้เข้าใจแล้วว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ และไม่ติดใจอะไรอีกแล้ว และก็จะถอนแจ้งความ ถือว่าจบกันไป

ในส่วนของนายปกาญจน์ นพศรี ทนายความของกชกร กล่าวว่า หลังจากทราบรายละเอียดของตำรวจแล้ว ก็ได้ทำการตรวจสอบที่ร้านอาหารตามที่ตำรวจกล่าวถึงก็ทราบว่า ในคืนดังกล่าวมีเหตุทะเลาะวิวาทกันจริง และตำรวจสายตรวจก็ไปที่เกิดเหตุจริง จากนั้นก็ปฏิบัติหน้าที่ติดตามคนร้ายอย่างต่อเนื่อง ก็เข้าใจแล้วว่าตำรวจปฏิบัติหน้าที่ เมื่อเจ้าของบ้านไม่ติดใจและยอมถอนแจ้งความก็ถือว่าจบเรื่อง ไม่ติดใจเอาความกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สาวเมืองพลแจ้งจับตำรวจ บุกรุกกลางคืนท่าทางมีพิรุธ (มีวงจรปิด)