“ครูใหญ่-เซฟ-ไนซ์” ผนึกพลังคนขอนแก่น จัดคาร์ม็อบนับร้อยคัน ขับไล่ลุงรอบเมือง แกนนำเผยถึงเวลาที่ทุกคนต้องช่วยกัน กดดัน “บิ๊กตู่” ลาออก หลังพบการบริหารล้มเหลวผิดพลาด พร้อม งง วัคซีนยังไม่มา แต่เรือดำน้ำมาได้ไง

        เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 17 ก.ค.2564 ที่บริเวณด้านข้างบึงสีฐาน ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ พร้อมด้วยนายวชิรวิทย์ เทศศรีเมือง หรือเซฟ และนายภาณุพงศ์ ศรีธนานุวัฒน์ หรือ ไนซ์ แกนนำกลุ่มขอนแก่นพอกันที นำสมาชิกคณะราษฎรขอนแก่น,กลุ่มคนเสื้อแดง และ กลุ่ม นปช.ขอนแก่น,กลุ่มดาวดิน,กลุ่มขอนแก่นพอกันที และประชาชนชาวขอนแก่น ร่วมกันจัดกรรมคาร์ม็อบ ขับไล่ลุง จากบริเวณบึงสีฐาน ไปโดยรอบเขตเทศบาลนครขอนแก่น ผ่านอนุสาวรีย์จอมพลสฤษดิ์ ธนรัชต์ ผ่านโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน ผ่าน สภ.เมืองขอนแก่น ผ่าน รร.กัลยาณวัตร ผ่าน รร.แก่นนครวิทยาลัย และสุดท้ายคือการร่วมอ่านแถลงการณ์และจุดยืนของการชุมนุม ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองทั้งในและนอกเครื่องแบบที่วางกำลังในจุดที่ผู้ชุมนุมขับรถผ่าน เพื่อป้องกันการเกิดเหตุกาณ์ความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้

        โดยเมื่อถึงเวลานัดหมาย เหล่าบรรดาแกนนำได้มารวมตัวกันด้านหน้าขบวน พร้อมชูสัญลักษณ์ 3 นิ้วตามข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ก่อนที่จะแจ้งไปยังผู้ที่มาร่วมชุมนุมทุกคนได้เปิดไฟหน้าและไฟกระพริบเพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่ามาร่วมกิจกรรมคาร์ม็อบขับไล่ลุง ในครั้งนี้ ทั้งนี้กลุ่มผู้ร่วมชุมนุมได้มีการทำป้ายข้อความต่าวๆมาติดที่รถ เพื่อโจมตีการทำงานของรัฐบาล ทั้งเรื่องของวัคซีน การบริหารจัดการสถานการณ์โควิด การบริหารฝานด้านต่างๆที่ผิดพลาด รวมไปถึงการต้อนรับกลับบ้านของอดีตนายกรัฐมนตรี 2 คน

        นายวชิรวิทย์ เทศศรีเมือง หรือเซฟ แกนนำกลุ่มขอนแก่นพอกันที บอกว่าการจัดกิจกรรมคาร์ม็อบเป็นกิจกรรมที่รวมตัวกันชุมนุมในห้วงที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดในรูปแบบใหม่โดยที่เป็นการนำแคมเปญของ บก. ลายจุด มาจัดกิจกรรมในพื้นที่ว่าคนขอนแก่นทุกคนไม่ได้หยุดนิ่ง ก่อนที่จะเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ร่วมกันในวันพรุ่งนี้ (18 ก.ค.) โดยในการชุมนุมครั้งนี้มีเป้าหมายชัดเจนในการเรียกร้องกดดันพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีต้องลาออก โดยเน้นไปที่พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งผู้ชุมนุมทุกคนจะไปรวมกันที่บริเวณที่หน้าที่ทำการของนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะแกนนำหลักของพรรคในภาคอีสาน ว่าเมื่อบ้านเมืองเป็นแบบนี้พรรคจะยังให้การสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ต่อไปทำไม รวมไปถึงพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคจะต้องมาแสดงพลังกดดัน พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลาออกจากตำแหน่งได้แล้ว

        “ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากซึ่งรัฐบาลบริหารสถานการณ์แผ่นดินให้มีการเสียชีวิตมากขนาดนี้ได้อย่างไรและมีผู้ติดเชื้อสูงขนาดนี้ได้อย่างไรในขณะที่ประเทศอื่นนั้นเขาเริ่มที่จะถอดหน้ากากอนามัยกันแล้วแต่เรากลับรณรงค์ในการใส่หน้ากากอนามัย และที่สำคัญ งบประมาณที่มาจากภาษีของคยไทยทุกคน ยังมาทะเลาะกันเรื่องวัคซีน ยังต้องมาเร่งหาอุปกรณ์ป้องกัน และยังไม่มีอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันในการปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ แต่อยู่ๆเรือดำน้ำ ก็โผล่มาอีกในงบประมาณปี 65 ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องจึงขอให้คนไทยทั้งประเทศได้ออกมากดดันขับไล่รัฐบาลชุดนี้กันอย่างแพร่หลายกันได้แล้ว”

        นายวชิรวิทย์ กล่าวต่ออีกว่า เมื่อพรรคฝ่ายค้านขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแต่กลับถูกพรรครัฐบาล ต่อต้านไม่ให้เปิดประชุม ทั้งที่เป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องถูกนำมาแก้ไขประเทศในภาพรวม แต่ ส.ส.อันทรงเกียรติกลับกลัวในเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งจะกลัวทำไม ในเมื่อวัคซีนชิโนแวค ยังมีอยู่ และยังมีประชาชนรอฉีดวัคซีนกันอีกกว่าครึ่งประเทศ อย่างไรก็ตามขณะนี้มีสัญญาณที่ชัดเจนว่าทุกคนเริ่มไม่ทน เริ่มมาแสดงพลังขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งที่เดิมหลายคน ให้การสนับสนุนรัฐบาลและให้การสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเรื่องนี้ก็ชัดเจนมากขึ้นทุกวันแต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม รัฐบาลยังทนอยู่ได้ถึงขนาดนี้