เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 5 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจคันดินพนังกั้นลำน้ำชีขาด ในพื้นที่บ้านท่างาม ม.6 ต.พระบุ อ.พระยืน จ.ขอนแก่น ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่า มีน้ำเอ่อท่วมทุ่งนาของชาวบ้านในพื้นที่บ้านท่างามและพื้นที่ใกล้เคียงหลายพันไร่

นอกจากนี้ยังพบว่า น้ำได้ท่วมถนนสายบ้านท่างามไปบ้านโนนสมบูรณ์บ้านขาม สูงประมาณ 60 ซม. และน้ำก็กัดเซาะถนนขาดเป็นทางยาวประมาณ 20 เมตร ในขณะที่คันดิน ที่เป็นพนังกั้นน้ำชี ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่ถนนขาดไปประมาณ 200 เมตร คันดินขาดยาวร่วม 100 เมตร น้ำชีเอ่อเข้าท่วมที่นาและพื้นที่ทางการเกษตร ท่วมถนน และกำลังเอ่อเข้าท่วมพื้นที่หมู่บ้าน

นายมนตรี ราชพลแสน อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 ม.6 บ้านท่างาม ต.พระบุ อ.พระยืน จ.ขอนแก่น กล่าวว่า คันดินที่เป็นพนัวกั้นน้ำชี ในพื้นที่ขาดมาได้ 3 วันแล้ว และนำชีก็ทะลักเข้าท่วมที่นา เสียหายไปหลายพันไร่ แล้วน้ำยังกัดเซาะถนนขาดเป็นทางยาว ชาวบ้านไม่สามารถสัญจรไปมาหาสู่กันได้ เพราะถนนที่ขาดเป็นถนนสายหลักจากบ้านท่างาม อ.พระยืน ไปบ้านโนนสมบูรณ์ อ.บ้านแฮด

“ถนนสายนี้เพิ่มทำเสร็จประมาน 1 เดือน ก็เปิดใช้งาน ก็มาประสบปัญหาในเรื่องของคันดินที่เป็นพนังกั้นน้ำชีขาด น้ำทะลักกัดถนนขาด ทั้งยังเอ่อเป็นวงกว้าง เกรงว่าจะเข้าท่วมในหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงต้องบรรจุทรายใส่กระสอบมาเปิดกั้นน้ำเอาไว้รอบหมู่บ้าน แต่ถ้าน้ำจากชัยภูมิมาเร็วมาผสมกับน้ำชี ก็เชื่อว่าจะเอาไม้อยู่น่าจะท่วมในพื้นที่ทั้งหมด”

ทางด้าน นางไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า คันดินที่เป็นพนังกั้นลำน้ำชีขาด ทำให้ถนนที่สัญจรไปมาขาดไปด้วยนั้น จังหวัดได้รับรายงานจากทางนานอำเภอพระยืนแล้ว และได้ให้ทางอำเภอประสานไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ อบต.พระบุ ทำการปิดกั้นถนน ติดสัญญาณไฟ เขียนป้ายติดให้ชัดเจน ห้ามใช้ชาวบ้านสัญจรไปมา เพราะจะเกิดอันตรายได้ และจะทำการประสานรหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำสะพานสะพานแบริ่ง มาติดตั้งให้ชาวบ้านได้ใช้สัญจรไปมาชั่วคราว ส่วนชาวบ้านที่ประสบปัญหาน้ำท่วม ทางจังหวัดก็จะนำถุงยังชีพไปมอบให้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นไปก่อน