การมีลูกยังคงเป็นความต้องการของหลายคู่รักเพื่อเติมเต็มชีวิตครอบครัว ทว่าบางคนพยายามมีลูกเท่าไหร่แต่ก็ยังไม่สำเร็จสักที นั่นอาจเป็นปัญหาจากตัวบุคคลเกี่ยวกับการมีบุตรก็เป็นได้ ซึ่งสัญญาณของภาวะมีบุตรยากของฝ่ายหญิงและฝ่ายชายมีอะไรบ้าง ถ้าอยากมีลูกต้องทำอย่างไร ใช้บริการคลินิกผู้มีบุตรยากที่มีความน่าเชื่อถือดีไหม ลองมาศึกษากันเลย

สัญญาณของภาวะมีบุตรยากของฝ่ายหญิงและฝ่ายชายมีอะไรบ้าง

ก่อนอื่นขออธิบายเกี่ยวกับภาวะมีบุตรยากให้ได้เข้าใจ โดยภาวะนี้เกิดขึ้นเมื่อคู่สมรสมีการร่วมรักสม่ำเสมอ อย่างน้อย 2 – 3 ครั้งโดยไม่คุมกำเนิดติดต่อกันมามากกว่า 1 ปี แต่ก็ยังไม่ตั้งครรภ์ หรือผู้หญิงที่อายุมากกว่า 40 ปีแล้ว ยังไม่มีลูก ก็จะเข้าสู่ภาวะมีบุตรยากได้ ซึ่งสัญญาณของภาวะมีบุตรยากของทั้งทางผู้หญิง และผู้ชายมีดังนี้

1. สัญญาณภาวะมีบุตรยากที่เกิดขึ้นในผู้หญิง

• มีอาการเจ็บปวดขณะที่กำลังมีเพศสัมพันธ์
• ปวดท้องน้อยเวลามีประจำเดือน
• ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มาไม่ปกติ หรือหมดก่อนวัยอันควร
• มีประวัติการแท้งบุตรมาก่อน
• เคยผ่าตัดที่บริเวณอุ้งเชิงกรานมาก่อน
• มีการติดเชื้อที่อุ้งเชิงกราน มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด ซึ่งส่งผลต่อท่อนำไข่อุดตันได้โดยไม่รู้ตัวมาก่อน
• มีปัญหาเคยติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์มาก่อน เช่น โรคหนองใน แล้วไม่ได้รับการรักษาจนเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปวดท้องน้อยเรื้อรัง เกิดการอักเสบที่อุ้งเชิงกราน ทำให้มีลูกยากมากขึ้น

2. สัญญาณภาวะมีบุตรยากที่เกิดขึ้นในผู้ชาย

• มีปัญหาอวัยวะเพศอ่อน หรือไม่แข็งตัวเลย
• น้ำอสุจิที่ควรมีมากกลับน้อย หรือการหลั่งน้ำอสุจิมีปัญหา
• เคยมีปัญหาติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ อย่างโรคติดเชื้อคลาไมเดีย หนองในแท้ ทำให้เกิดปัญหาช่องทางเดินอสุจิตีบแคบ ไม่สามารถส่งต่อมายังช่องคลอดได้อย่างที่ควรเป็น

สัญญาณของการเกิดภาวะมีบุตรยากสังเกตได้จากหลายปัจจัยอย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง ตามที่แนะนำไปทั้งคนที่ความพยายามในการมีลูกมาแล้วมากกว่า 1 ปี แต่ไม่สำเร็จ เคยติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ คนในครอบครัวเคยมีประวัติมีลูกยาก ดังนั้นจึงเป็นภาวะที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั้ง 2 ฝ่าย หากพบว่ากำลังเข้าข่ายปัญหานี้แนะนำให้เลือกใช้บริการคลินิกผู้มีบุตรยากจะดีที่สุด

ถ้าอยากมีลูกต้องทำอย่างไร ใช้บริการคลินิกผู้มีบุตรยากดีไหม?

จริง ๆ แล้วคงไม่ต้องถามเลยว่าใช้บริการคลินิกผู้มีบุตรยากดีไหม? เพราะคำตอบก็ชัดเจนในตัวว่าดีสุด ๆ ถือเป็นอีกทางเลือกที่จะพาทุกคนเข้าสู่การมีบุตรง่ายขึ้น ปกติคลินิกเหล่านี้เองก็จะมีผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาตามวิธีที่เหมาะสม ดังนี้

1. คำแนะนำด้านการดูแลสุขภาพตัวเอง

อย่างแรกที่ต้องทำทั้งผู้หญิงและผู้ชายคือ การดูแลสุขภาพของตนเองให้ดีเสมอ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกาย 30 นาที อย่างน้อย 3 ครั้ง/สัปดาห์ เลือกทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ นอนหลับพักผ่อนให้ได้อย่างน้อย 6 – 8 ชม. ควบคุมการทานของไม่ดีต่อสุขภาพ ทำน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน อย่าเครียดง่าย หากิจกรรมที่ชอบทำ เลี่ยงสารพิษ สารเคมีต่าง ๆ เช่น สารตะกั่ว ควันบุหรี่ เพราะส่งผลต่อการทำงานของอัณฑะ และรังไข่

2. ใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เข้าช่วย

เป็นอีกวิธีที่คลินิกผู้มีบุตรยากจะแนะนำให้เข้ารับการรักษาโดยอาศัยตัวช่วยทางเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น การนำเอาเซลล์สืบพันธุ์มาช่วยทำให้ผู้หญิงเกิดการตั้งครรภ์ได้ เป็นการเลี้ยงเซลล์สืบพันธุ์ของทั้ง 2 ฝ่ายภายนอกก่อน จากนั้นจึงผสมตัวอ่อนกลับไปที่โพรงมดลูกผู้หญิง โดยมีให้เลือกหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น

• การฉีดอสุจิเข้าไปที่โพรงมดลูกโดยตรง หรือผสมเทียม (IUI) คือการคัดเชื้ออสุจิที่ดีที่สุดมาฉีดที่โพรงมดลูกของผู้หญิงในช่วงตกไข่ ค่าใช้จ่ายไม่แพงมาก แต่ใช้ได้ผลดีในผู้หญิงที่อายุน้อย โอกาสตั้งครรภ์สูง 15 – 20%
• การทำเด็กหลอดแก้ว หรือการปฏิสนธิภายนอกร่างกาย (IVF) คือการเก็บไข่จากผู้หญิง และเก็บอสุจิจากผู้ชาย แล้วนำมาผสมกันในหลอดทดลอง เกิดเป็นตัวอ่อน จากนั้นจึงย้ายไปที่โพรงมดลูกผู้หญิง เหมาะกับผู้หญิงที่อายุต่ำกว่า 38 ปี โอกาสติด 30 – 50% ส่วนผู้หญิงที่อายุมากกว่า 38 ปี โอกาสติดต่ำกว่า 30%
• การทำกิ๊ฟท์ (GIFT) จะกระตุ้นไข่ก่อนจนถึงวันไข่ตกแล้วเก็บเอาอสุจิมาผสมกับไข่ จากนั้นก็ใส่ในหลอดเล็ก ๆ แล้วใส่กลับไปที่ท่อนำไข่ของผู้หญิง เพิ่มโอกาสการปฏิสนธิได้ช่วงท่อนำรังไข่ ไข่ที่ผสมและเจริญเติบโตก็จะเป็นตัวอ่อน เดินทางไปฝังบริเวณโพรงมดลูก โอกาสตั้งครรภ์ 20 – 30% ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของอสุจิผู้ชายด้วย

หากคุณเป็นคนที่มีบุตรยาก พยายามมานานกว่า 1 ปี ไม่ได้คุมกำเนิดก็ยังไม่ติด แนะนำให้ใช้บริการที่คลินิกผู้มีบุตรยากเลย โดยเลือกแหล่งที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีความน่าเชื่อถือ ราคามาตรฐาน และให้คำปรึกษาได้อย่างเข้าใจเพื่อเข้ารับการดูแลอย่างเหมาะสม เท่านี้ความฝันในการมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป การมีลูกยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นกว่าเดิมของพ่อแม่อีกต่างหาก สังเกตสัญญาณเหล่านี้ดูเลย