ผู้ค้ายาหัวใส เปิดบริษัทโลจิสติกส์ ขนส่งยาเสพติดโดยเฉพาะ

ตำรวจ ปปส.นำร่องจับกุมเครือข่ายภูตน้ำโขงกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ได้ผู้ต้องหา 3 รายเปิด 2 บริษัท โลจิสติกส์ ขนส่งยาเสพติดโดยเฉพาะ ตบตาเจ้าหน้าที่ส่งยาเสพติดสำเร็จกว่าปีละ 400 เที่ยว ยึดทรัพย์ญาติพี่น้องตามกฎหมายใหม่ เส้นทางการเงินถึงใครโดนทั้งหมด ไม่มีจ่ายต้องเป็นหนี้หลวงจนกว่าจะจ่ายครบพบมูลค่ากว่า 2,400 ล้านบาท

ขอนแก่น – เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 14 ธันวาคม 2565 ที่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 4 พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.(กม.)ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส.พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส. 2 และ นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ คือ นางสาวรวิวรรณ  อายุ 39 ปี อยู่ ม.12 ต.วานรนิวาส อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 569/2565 ลงวันที่ 20 ตุลาคม 2565 และ นาย จักรพงษ์ อายุ 40 ปี อยู่ ม.3 ต.บ้านเสียว อ.นาหว้า จ.นครพนม ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 463/2565 ลงวันที่ 9 สิงหาคม 2565 ข้อหา ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยฝ่าฝืนกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระพทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และได้มีการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน พร้อมยึดทรัพย์ เป็นรถบรรทุกหัวลาก จำนวน 13 คัน รถบรรทุกพ่วง 13 คัน รถเก๋ง 2 คัน รถกระบะ 2 คัน ที่ดิน 17 แปลง 81 ไร่ บ้านพักอาศัย จำนวน 6 หลังสมุดบัญชีธนาคารอีกจำนวน 6 เล่ม โฉนดที่ดิน 17 ฉบับ อาวุธปืนลูกซอง พร้อมเครื่องกระสุน

พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส. 2 กล่าวถึงการจับกุมและยึดทรัพย์ของขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญในครั้งนี้ว่า สืบเนื่องจากในปี 2561 เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาได้ 6 คนพร้อมยาเสพติด เป็นยาไอซ์ 400 กิโลกรัม เฮโรอีน 22 แท่ง รวม 77 กิโลกรัม สอบสวนขยายผลทราบว่าเกี่ยวข้องกับนายสมพงษ์ สามีของนางสาวรวิวรรณ วรรณฟัก แต่เนื่องจากช่วงที่ออกหมายจับและเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมนั้น นายสมพงษ์ได้หลบหนีไปอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน จึงหลุดรอดการจับกุมไปได้

ต่อมา วันที่ 14 มิ.ย. 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.2 ได้จับกุมนายวัฒนา พร้อมของกลางยาบ้า 1,976,000 เม็ด ที่ด่านตรวจยานพาหนะสีคิ้ว ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จว.นครราชสีมา ทำการสืบสวนขยายผล จนทราบว่า มีผู้เกี่ยวข้องในการสั่งการและลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามายังประเทศไทยและส่งต่อไปยังจังหวัดต่างๆ รวมทั้งส่งออกนอกประเทศด้วย มี 3 คน คือ นางสาวรวิวรรณ เป็นผู้บริหารจัดการ และนายจักรพงษ์ และนายมนตรี  ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอส่องดาว จ.สกลนคร ขณะนี้หลบหนีไปอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งสองคนนี้ทำหน้าที่ร่วมกันจัดหารถขนส่งยาเสพติด เมื่อสอบสวนขยายผลเสร็จสิ้นและรู้ว่าใครเกี่ยวข้องกับการนำเข้าและขนส่งยาเสพติด จากประเทศเพื่อนเข้ามาในประเทศไทยบ้าง โดยมีพยานหลักฐานชัดเจนว่า เป็นผู้ร่วมเครือข่ายที่ลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านทางภาคอีสานสู่ภาคใต้ โดยมีการแฝงธุรกิจรับจ้างขนส่งสินค้าทั่วไประหว่างประเทศและในประเทศ จึงรวบรวมหลักฐานของศาลอาญาออกหมายจับนางสาวรวิวรรณ และนายจักรพงษ์ และนายมนตรี  ในข้อหาเดียวกัน

ต่อมาวันที่ 30 พ.ย. 2565 จึงจับกุมตัว น.ส.รวิวรรณ ได้ที่หน้าโรงเรียนอนุบาลเพ็ญจันทร์ ต.วานรนิวาส อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร และจับกุมตัว นายจักรพงษ์ ได้ที่หน้าหอพักพลอยสุข อ.เมือง จว.นนทบุรี

จากนั้นได้เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น ยึดทรัพย์จากเครือข่ายและญาติพี่น้องของนางสาวรวิวรรณ จำนวน 30 เป้าหมาย ครอบคลุม 8 จังหวัดภาคอีสาน ระหว่างวันที่ 15 พ.ย. – 15 ธ.ค. 2565 โดยได้ตรวจยึด อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องเป็นจำนวนมาก รวมทั้งดำเนินการตามมาตรการตรวจสอบทรัพย์สินตามมูลค่าที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 มาตรา 84 เป็นทรัพย์สินที่เกิดจากเงินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวม 2,480,195,000 บาท

พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส. 2 กล่าวอีกว่า นี่เป็นครั้งแรกที่นำกฎหมายใหม่มาใช้จนสามารถจับกุมเครือข่ายและขยายผลจับตัวการรายใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการขายยาเสพติด โดยใช้รถบรรทุกที่มาจากการจดทะเบียนบริษัทขนส่งในชื่อ บริษัท ทีเค และบริษัท เอสอาร์พี ซึ่งจดทะเบียนตั้งบริษัทโดยนางสาว รวิวรรณ เป็นภรรยาคนที่3 ของนายสมพงษ์ แต่ไม่มีตัวบริษัท เพราะตรวจสอบแล้ว พบเพียงที่ดินเปล่า ซึ่งเป็นการสั่งการของนายสมพงษ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับที่หลบหนีไปอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน เพราะจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า นายสมพงษ์เป็นตัวการใหญ่ของเครือข่ายนี้ เป็นผู้สั่งการให้นางสาว รวิวรรณ ตั้งบริษัทขนส่งขึ้นมา ให้มีรถบรรทุกเป็นพาหนะในการขนส่งยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาในประเทศไทย และส่งต่อไปยังภาคใต้จากนั้นก็ส่งออกต่างประเทศ โดยมีคนขับรถบรรทุกสิบล้อ รับจ้างขับรถขนส่ง และรับเปิดบัญชีม้าให้ด้วย และนางสาวรวิวรรณจะเป็นผู้ควบคุมและทำบัญชี การส่งส่งขายยาเสพติด และจ่ายเงินให้คนที่รับจ้างขับรถ และเปิดบัญชีม้า

แต่นางสาวรวิวรรณ และนายจักรพงษ์ รวมถึงนายมนตรี ถูกออกหมายจับ และจับกุมตัวได้ 2 คน ตรวจค้นและยึดทรัพย์เครือข่าย หลังจากที่ นายวัฒนา  ขับรถบรรทุกเข้าตรวจที่ด่านตรวจยานพาหนะสีคิ้ว ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จว.นครราชสีมาซึ่งจุดตรวจดังกล่าว มีเครื่องสแกน หายาเสพติด จนพบยาบ้าซุกซ่อนในรถที่บรรทุกผลผลิตทางการเกษตร พบยาบ้า 1,976,000 เม็ด โดยมีปลายทางที่จ.นราธิวาส ก็ต้องยอมรับว่าเครื่องสแกนหายาเสพติด ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบหายาเสพติดได้ง่ายขึ้น สามารถสืบสวนหาผู้ร่วมขบวนการได้ง่ายขึ้น แต่เครื่องสแกนหายาเสพติดทั้งประเทศมีเพียง 3 เครื่องเท่านั้น

อย่างไรก็ตามการตรวจยึดทรัพย์ของผู้ต้องหาและเครือข่ายขบวนการนี้ได้แม้จะเพียง 200 ล้านบาทเศษเมื่อเทียบกับมูลค่าของตรวจสอบได้จากการค้ายาเสพติดที่มีมูลค่า 2,400 ล้านบาทเศษ แต่กฎหมายใหม่เปิดกว้างให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามตรวจยึดทรัพย์ผู้ต้องหาและเครือข่ายได้ตลอด 10 ปี ซึ่งจะเป็นตัดวงจรผู้ค้ายาเสพติดได้ และจากการสอบสวนพบว่าเส้นทางการเงินของขบวนการดังกล่าวเชื่อมโยงไปยังผู้เกี่ยวข้องทางภาคใต้ โดยมีการรับยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านทางภาคอีสาน มีเงินหมุนเวียนกว่า 550 ล้านบาท พบบัญชีม้า 14 บัญชี

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง