ความคืบหน้ากรณี มีญาติโยมออกมาเปิดเผยกล่าวหาว่า ครูบาไก่ ส่งภาพของลับให้กับชายหนุ่มวัยรุ่นชื่อเจน ล่าสุดครูบาไก่โพสต์ Facebookเตรียมเปิดวาจาบ่ายนี้ซึ่งยังไม่ระบุว่าเป็นเรื่องอะไรพร้อมเชิญชวนญาติโยมร่วมทำบุญที่วัด
ความคืบหน้ากรณีเพจเฟซบุ๊กชื่อ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part5.2 แจ้งเรื่องมายังผู้สื่อข่าวว่ามีอดีตโยมอุปัฏฐากพระเกจิชื่อดังจังหวัดขอนแก่น ส่งภาพของลับผู้ชายที่ระบุว่าเป็นพระเกจิดังกล่าวส่งไปให้ผู้ชายที่คบหากันเป็นแฟน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนช่วยตรวจสอบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรและเพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาด้วย และหากเป็นจริงก็ไม่อยากให้พุทธศาสนาต้องมัวหมอง เพราะพระเกจิดังกล่าวมีลูกศิษย์ลูกหาอยู่ทั่วประเทศ
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่วัดป่าปฐมเทวาราม อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ภายหลังจากมี Facebook ชื่อ “ครูบาไก่ วัดป่าปฐม” โพสต์คลิป ครูบาไก่นั่งสมาธิที่ถ้ำแห่งหนึ่ง พร้อมข้อความระบุว่า “แจ้งศิษยานุศิษย์พรุ่งนี้พระครูบาออกรับแขกญาติโยม..บ่ายโมงเด้อ #วัดป่าปฐมเทวาราม ร่วมถวายโรงทานต้อนรับแขกผู้มาเยือนสื่อมวลชน รวมทั้งลูกศิษย์ลูกหาประชาชนทั่วไป”
โดยบรรยากาศพบว่า มีญาติโยมเดินทางมาถวายจังหันพระสงฆ์ที่อยู่ในวัดก่อน จะแยกย้ายกันไปรับประทานอาหารภายหลังจากพระสงฆ์ฉันจังหันเสร็จ แต่ไม่พบครูบาไก่ อยู่บนศาลาทราบว่าลูกศิษย์ลูกหานำภัตตาหารไปถวายที่กุฎิของครูบาไก่ซึ่งอยู่บริเวณด้านหลังวัด โดยลูกศิษย์บอกเพียงว่ายังไม่เปิดเผยรายละเอียดต่างๆกับสื่อมวลชนโดยบอกเพียงให้รอพระครูในช่วงบ่ายตามที่ได้มีการโพสต์ Facebookเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวได้ไปพบกับแม่บัวนาและพลายทองหล่อ ซึ่งเป็นช้างคู่บารมีของครูบาไก่ที่แม่น้ำหนึ่งนำมาถวาย ซึ่งทั้งคู่ต่างยิ้มแย้มรอรับลูกศิษย์ลูกหาและชาวบ้านโดยเฉพาะเด็ก ที่จะมานี่ช้างเล่นทุกๆวันหยุดด้วย โดยพบว่าพลายทองหล่อกำลังวิ่งออกกำลังกายรับแสงแดดยามเช้า ส่วนแม่บัวนานั้นกำลังเอร็ดอร่อยกับการแกะต้นกล้วยเพื่อกินหยวกกล้วยภายในโดยควาญช้างได้นำหยวกกล้วยมาให้กับพลายทองหล่อและพังบัวนาแต่พังบัวนาเลือกกินเฉพาะอยู่กับอ่อนอ่อนที่อยู่ภายในส่วนเปลือกหุ้มอื่นๆควาญช้างบอกว่า นำไปให้ฝ่ายทองหล่อเพราะแม่บัวนาจะเลือกกินเฉพาะส่วนที่อร่อยและเหลือส่วนที่ไม่อร่อยเท่าที่แม่บัวนากิน ให้กับพลายทองหล่อแทน ซึ่งเป็นบรรยากาศที่เรียกเสียงหัวเราะให้กับญาติโยมที่มาทำบุญที่วัด ได้อย่างมาก ไม่ว่าคนหรือสัตว์ก็ย่อมยอมให้กลับสุภาพสตรีทั้งนั้น
พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ทิดอั้ม อายุ 23 ปี ว่า ตัวเองเคยไปบวชอยู่ที่วัดครูบาไก่บวช โดยได้ประมาณเกือบหกเดือน โดยบวชช่วงเดือนธันวาคม 2565 ซึ่งบรรยากาศช่วงที่บวชนั้นก็เป็นปกติเหมือนทุกวัด มีพระสงฆ์ มีสามเณร มีญาติโยมมาทำบุญที่วัดทั่วไปเหมือนวัดอื่นๆ ช่วงที่บวชอยู่วัดนั้น ครูบาไก่เคยเรียกตนเองไปนวดให้ที่กุฎิ นวดแข้ง นวดขา นวดตัว ภายในกุฎิของครูบาไก่ ในช่วงที่นวดนั้นครูบาไก่ก็จะบอกให้มานวดใกล้ใกล้อวัยวะเพศ แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะว่าก็ไม่ได้มีอะไรเกินเลย และไม่ได้ให้จับอวัยวะเพศแต่อย่างใด กับสิ่งที่เกิดขึ้นตามข่าวนั่น ถ้าเป็นความจริงก็คงหมดศรัทธา แต่ในภาพที่มีการเผยแพร่ในข่าวนั้น ยืนยันได้ว่า เป็นที่กุฎิของครูบาไก่อย่างแน่นอน เป็นผ้าห่มที่ตัวเองจำได้ และในภาพเป็นบริเวณในกุฎิที่จำได้แม่น เพราะไปบวชอยู่ที่นั่น ในเรื่องการรักสวยรักงามของครูบาไก่นั้นก็รู้สึกเหมือนจะมีบ้าง อย่างเช่นบางครั้งก็เห็นเดินทางไปกรุงเทพคนเดียว โดยไม่ให้ใครติดตามไป แต่กลับมาผมว่าขาวขึ้นก็เลยเป็นเพียงข้อสงสัยว่าไปฉีดไปอะไรมาหรือเปล่า แต่ก็เป็นเพียงข้อสงสัยเท่านั้น ตนเองนั้นไม่ได้อยู่ใกล้ชิดแต่ก็จะ มีลูกศิษย์ลูกหาที่หนุ่มหนุ่มมาคอยรับใช้ เข้าไปในห้อง ไปในกุฎิแต่ก็ไม่รู้ว่าทำอะไรบ้าง ส่วนในเรื่องที่เป็นข่าวที่มีคนคบหาที่ชื่อเจนนั้นตนเองไม่ทราบ มาทราบจากข่าวทั้งหมด
ทิดอั้ม บอกอีกว่า ภาพที่มีการเผยแพร่เป็นข่าวนั้นมีพระรูปหนึ่งที่รู้จักกันส่งมาให้ และพระรูปนั้นพูดเหมือนเตือนว่า อย่าไปบวชวัดนั้น โดยบอกว่าอย่าไปบวชวัดอีไก่ ก่อนจะส่งภาพมาให้ดูซึ่งในภาพก็ยังไม่มีรอยสักเพราะว่าเป็นภาพที่คาดว่านานแล้ว ซึ่งรอยสักนั้นสักทีหลังตนเองเพราะ ตนเองสักประมาณวันที่ 19 ไม่ก็ 20 ธันวาคม ปี 2564 โดยมีสำนักสักอยู่ในวัดคนสักชื่อว่าบอส ภาพนั้นที่มีการออกข่าวเป็นภาพอันเดียวกันกับที่มีพระสงฆ์ส่งให้ตนเองก่อนที่จะเกิดเรื่องทั้งในกุฎิผ้าห่มผิวพรรณยืนยันได้ว่าเป็นครูบาไก่ที่ตนเองเคยเห็นอย่างแน่นอน
ส่วนรอยสักของครูบาไก่นั้นยืนยันได้ว่าสักในปี 2565 ตนเองก็นั่งดูตอนสักด้วยมีทั้งพระเณรอยู่หลายรูป คนสักชื่อบอสเปิดสำนักสักอยู่ที่วัดครูบาไก่ ซึ่งสักให้ครูบาไก่เป็นรูปกำไลพญานาค โดยสักเป็นวงรอบขา และตอนสักมีทั้งพระ สามเณร ทั้งญาติโยมด้วย และเห็นตอนที่ครูบาไก่สักทั้งหมดโดยคนสักชื่อบอสเป็นคนสักให้ ในส่วนที่มีคนมาโต้แย้งว่าสักเมื่อ 5 ปีก่อนนั้นยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเพราะตนเองอยู่ในเหตุการณ์ที่ครูบาไก่สักตั้งแต่ต้น ช่วงที่สักนั้นก็ไม่ได้มีใครถ่ายภาพอะไรเอาไว้เพราะไม่คิดว่าจะกลายเป็นเรื่องราวแบบนี้
ตนเองหลังจากส่งน้ำก็มานั่งเล่นกับครูบาไก่และญาติโยมรวมทั้งเณรและพระลูกวัดที่กำลังสักให้ครูบาไก่อยู่ภายในสำนัก ส่วนตัวกับเรื่องดังกล่าวก็คิดว่าอาจจะชอบผู้ชายแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากตอนที่ตนเองบวชอยู่ที่วัดท่านก็เคยมาลูบมาคลำก้นแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้นหากถามว่ายังศรัทธาอยากไปทำบุญที่วัดอยู่ไหมก็ตอบได้ไม่เต็มปาก ความรู้สึกไม่เต็ม 100% แล้ว
Leave a Response