ความคืบหน้ากรณีโลกโซเชียลแชร์ภาพครูบาไก่นั่งบนเตียงอยู่ภายในกุฏิ ระบุความเชื่อมโยงว่าภาพของลับนั้น เป็นครูบาไก่ส่งให้ชายชื่อเจนจริง เพราะผ้าห่มผืนเดียวกัน ล่าสุด ครูบาไก่ยังยืนยันว่าภาพของลับไม่ใช่ของตัวเอง แต่ภาพที่นั่งบนเตียงนั้นตัวเองจริงเณรน้อยเป็นคนถ่าย ในส่วนคดีมอบหมายทุกอย่างให้ทนายดำเนินการ ย้ำชัดถูกกลุ่มไม่หวังดีกุภาพมาเชื่อมโยงสร้างความเข้าใจผิด
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังที่พักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม วัดครูบาไก่ บ้านป่าผุ ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น และที่ศาลาบุญภายในพักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม มีญาติโยม สายบุญมาทำบุญและถวายภัตตาหารเช้าแด่ครูบาไก่และพระสงฆ์สามเณรในวัดกันตามปกติ
ภายหลังฉันภัตตาหารเช้าเรียบร้อย พระอาจารย์สุวิทย์ ชินวโร หรือ ครูบาไก่ อายุ 30 ปี ประธานพักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม ก็เดินกลับไปที่กุฏิเขียว ที่อยู่ด้านหลังของวัด พร้อมกับให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพ สรงน้ำในบริเวณน้ำตก ที่มีชายหนุ่มห้อมล้อม รวมถึงภาพนั่งเจ็ตสกี ที่ทะเล และภาพผ้าห่ม ขณะนั่งห่มผ้าในห้องนอน ที่กำลังแชร์ในโซเชียลในขณะนี้
ครูบาไก่ กล่าวว่า เห็นภาพที่ที่มีการแชร์ในโซเชียลแล้ว ไม่ได้ตกใจ แต่คิดว่าภาพทั้งหมดนั้น เกิดจากโยม 2 คน ที่ชื่ออิคคิวและบุ๋ม เพราะสองคนนี้เคยมาอยู่ที่วัด และติดตามไปด้วยทุกที่ ที่มีกิจนิมนต์ต่างจังหวัด ภาพถ่ายที่มีผู้ชายหลายคนรายล้อมนั้น สองคนนั้นถ่ายไว้เมื่อครั้งไปกิจนิมนต์ไปที่จังหวัดกำแพงเพชร และที่พักอยู่ใกล้กับน้ำตกคลองลาน ลูกหลานจึงชวนลงเล่นน้ำในน้ำตก จึงลงไปสรงน้ำด้วย แต่ตอนนั้นไม่คิดอะไร เห็นสองคนนั้นถ่ายรูปไว้จำนวนมาก ก็ไม่คิดอะไร รวมถึงเมื่อครั้งรับกิจนิมนต์ไปที่กรุงเทพฯ จึงนั่งเครื่องบินไปเจอกับคณะของทางวัดที่กรุงเทพฯและถูกนิมนต์ให้พาเด็กวัดไปเที่ยวที่จังหวัดชายทะเล ซึ่งสองคนนั้นก็ติดตามไปด้วย
โดยมีการถ่ายรูปตอนนั่งเจ็ตสกี แต่ตอนนั้นไม่คิดอะไร คิดเพียงว่า ให้เด็กวัดและคนติดตามได้เล่นน้ำทะเลกัน ได้สนุกสนานกัน ซึ่งอิคคิวและบุ๋มก็ถ่ายภาพเก็บไว้จำนวนมาก และไม่คิดว่าจะนำภาพเหล่านั้นมาทำร้ายในวันนี้ ส่วนภาพผ้าห่มที่ถ่ายออกมาและแชร์กันนั้น ก็ยอมรับว่าเป็นผ่าห่มที่ห่มจริงๆ แต่การห่มผ้าและการถ่ายภาพในห้องนั้น เป็นเรื่องปกติที่ลูกศิษย์คนใกล้ชิดสามารถเข้าออกห้องได้ และเป็นภาพที่ถ่ายในช่วงที่อิคคิวและบุ๋ม นำหลานชายมาบวชที่วัด จึงให้ครูบาดูแลหลานและพามานอนในห้องด้วยและไม่ได้ตกใจกับภาพต่างๆที่ถูกสองคนนั้นนำออกมาปล่อย เพราะรู้อยู่แล้วว่า ถ้าหาเรื่องทำร้ายกันได้ ภาพต่างๆ เรื่องต่างๆก็จะตามมาอีกเรื่อยๆ และยังยืนยันว่าภาพที่ระบุว่าเป็นของลับของตัวเองนั้นไม่ใช่อย่างแน่นอน”
ครูบาไก่ กล่าวอีกว่า เรื่องการถ่ายภาพในลักษณะดังกล่าว หากมองถึงความเหมาะสม ในทางพระสงฆ์ก็ต้องยอมรับว่าไม่เหมาะ แต่ก็ไม่ได้ผิดมากมาย เพราะทุกอย่างที่ถ่ายออกมาก็อยู่กับลูกหลานที่มาอยู่ในวัด บางคนก็เป็นสายเลือดเดียวกันเพราะเป็นลูกพี่สาวที่มาอยู่ดูแลในวัด จึงไม่ได้ตกใจ และไม่มีอะไรที่ปิดบังซ่อนเร้น โดยส่วนตัวจึงไม่มีความเคียดแค้นกับสองคนนั้น ส่วนทางกฎหมายนั้น ก็ให้เป็นหน้าที่ของทนายความที่จะดำเนินการ จึงอยากจะบอกว่า ยังมีภาพอะไรเรื่องอะไรที่ยังไม่พูด ให้รีบนำออกมาพูด จะได้ชี้แจงจะได้เคลียร์ให้มันจบๆ
Leave a Response