“ปะจัน” โดย “เขี้ยวจัน”
ที่นี่….ไม่ใช่คอลัมน์ร้องทุกข์ แต่เป็น การสังคมอุดมปัญญา ลุกขึ้นมา “ทวงสิทธิ” ของการเป็นพลเมืองผู้ตื่นรู้ เจ้าของคะแนนเสียงที่เลือก “ตัวแทน” ในทุกระดับ ของการปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารบ้านเมือง ด้วยข้าราชการ “ตัวแทน” จากส่วนกลาง ทุกกระทรวง ทบวง กรม…[ หน้ารวมบทความ ประจัน ]
เมื่อวันอังคารที่ 24 มกราคม 2566 ที่ประชุม ครม.อนุมัติ งบประมาณ เพื่อการเลือกตั้ง ปี 2566 จำนวน 5,945 ล้านบาท โอววววว….
เมื่อ วันเสาร์ที่ 28 มกราคม 2566 ราชกิจจานุเบกษา ประกาศ พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 และ พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 กฎหมายลูก…มาแล้ว….ปลดล็อค ทางการเมือง ได้ทันที….จะยุบสภา….จะปล่อยให้ครบวาระ ก็ได้……
“ประชาธิปไตย” ต้องใช้เงิน และเงินล้วนมาจาก “ภาษี” ของคนไทยทุกคน คนทั้งประเทศ
วันที่ 23 มีนาคม 2566 รัฐบาลชุดนี้ ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี คนที่ 29 กำลังจะหมดวาระลง และต้องมีการเลือกตั้ง ครั้งต่อไป….
ปี่กลองเลือกตั้ง เชิดฉิ่ง…ขึ้นแล้ว หน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลการเลือกตั้ง คือ สำนักงานคณะกรรมการ การเลือกตั้ง-กกต. เสนองบประมาณ เพื่อใช้ในการเลือกตั้ง ปี 2566 จำนวน 5,945 ล้านบาท เพื่อให้ได้มา ซึ่ง สส.จำนวน 500 คน เป็น สส.จากเขตเลือกตั้ง 400 คน และ สส.บัญชีรายชื่อ 100 คน…… ฉายาสภาฯ 500 จึงเกิดจาก เลขนี้แหละ…
เรามาคลี่ ตัวเลข ของเงินก้อนนี้ และอีกหลายก้อน ที่จะใช้ในการบริหารประเทศผ่านกลุ่มคนที่เรียกว่าเป็น”ตัวแทน” ของพี่น้องประชาชน ตามระบอบประชาธิปไตยกันหน่อยนะ………..
งบเลือกตั้ง โตขึ้น 41 %
เบื้องหน้า มองเห็น งบฯ ที่ใช้จัดการ การเลือกตั้ง 5,945 ล้านบาท หันหลังเมื่อเทียบกับงบฯการเลือกตั้ง เมื่อ 4 ปี ก่อน ( 2562-4,220 ล้านบาท) พบว่า เพิ่มขึ้น 1,724 ล้านบาท หรือ 41 % โอวววว….แม่เจ้า…..
มีคำอธิบาย จากไส้ใน ไว้ว่า จากงบฯ นี้ มี 13 ภารกิจ แจกกระจายไปยังกลุ่มงาน ต่างๆ อาทิ การจัดตั้งการเลือกตั้ง/การตรวจสอบ/การติดตาม/บุคลากร วิทยากร/การสนับสนุน/องค์กรเอกชน/การสอดส่อง สืบสวน/ประเมินผล/อำนวยการสนับสนุน/รายงาน/อุดหนุน/ควบคุม/รักษาความสงบ
มีตัวเลข ที่น่าสนใจ คือ งบฯ การสื่อสาร 51 ล้านบาท, งบฯค่าไฟฟ้า 25 ล้านบาท,งบฯสำหรับไปรษณีย์ 160 และ งบฯ ประชาสัมพันธ์ 167 ล้านบาท
ไหนๆ มามองกลับย้อนไป ของงบประมาณการเลือกตั้ง เมื่อ 7 ครั้งที่ผ่านมา เราใช้เงินเพื่อให้ได้มา ซึ่ง “ผู้แทนราษฎร” มากน้อย เพียงใด
ปี 2544-2548-2549-2550-2554-2557-2562 มีการใช้งบประมาณเพื่อการเลือกตั้ง ไล่เรียง กัน ตามปี คือ 2,000-1,500-2,159-2,521-3,300-3,885-4,220 ล้านบาท
เห็นกันยัง ? ? เลือกตั้งแต่ละครั้งใช้เงินมากโข….
สส.รับเงินเดือน 113,560 มีผู้ช่วยฯ 7 คน รับรวมกัน 129,000 บาท
เมื่อได้ตัว สส. ทั้ง 500 คน มาแล้ว จะมีค่าจ้าง รายเดือนและสวัสดิการ อีกเพียบๆ สส.รับเงินเดือนกัน เดือนละ 71,230 บาท เงินเพิ่ม เดือนละ 42,330 บาท รวมมีเงินเข้ากระเป๋า 113,560 บาท ต่อเดือน
ยัง..ยังมีอีก ท่าน สส.ยังมีผู้ช่วยได้อีก 7 คน เรียกให้ต่างกัน ว่า ผู้ช่วย สส.,ผู้ชำนาญการ,ผู้เชี่ยวชาญ ได้รับเงินเดือนรวมกัน 129,000 บาท
รวม สส. หนึ่งคน ใช้เงินงบฯ 242,560 ต่อเดือน และยังไม่รวม ค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก
ขึ้นเครื่องบิน ฟรี พักโรงแรม เบิกคืนละ 4,500 บาท
เมื่อต้องมีการเดินทาง ทางบก ทางอากาศ เบิกได้ทั้งจำนวน ระบุว่า มีการทำข้อตกลงไว้กับ 9 บริษัท ทั้งสายการบิน รถทัวร์ เข้าใจกันง่ายๆว่าเดินทาง ฟรี และ เมื่อต้องพักค้างแรม เบิกได้ คืนละ 4,500 บาท
เบี้ยประชุม ครั้งละ 1,500 บาท
การเป็นกรรมาธิการในแต่ชุด จะมีค่าเบี้ยประชุม ครั้งละ 1,500 บาท
ดูๆแล้ว รับ รับทรัพย์ อาชีพ “นักการเมือง” จึงเป็นอาชีพที่หลายคนหลงใหล มีเงิน มีอำนาจ เข้าไปบริหารจัดการ วางนโยบายให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติ เพราะนี่ คือ “ปิรามิดประชาธิปไตย”
เงินค่าจ้างที่เป็นตัวเงิน สส.รายคน ราว 2.9 ล้านบาท ต่อปี หรือ 12 ล้านบาท ต่อคน ต่อวาระ ( 4 ปี)
แต่…ฟังอีกเสียง ของ สส. พวกเขาบอกว่า ต้องมีการ “รักษาฐานเสียง” เงินเดือนไม่พอใช้ดอกนะ ต้องใส่ซอง มี “ภาษีสังคม” เกือบทุกวัน งานบวช งานศพ งานบุญ งานแต่ง วนๆกันไปแบบนี้ หลายคน ถูกจริต
ส่วนประชาชน เจ้าของเสียง ต้องเสียเงินเองทุกเม็ด แถมเวลา มีเรื่องร้องทุกข์ ยังต้องรอคิวเข้าพบ ไหว้ท่าน สส. และเป็นบุญคุณเหลือล้น เมื่อได้รับความช่วยเหลือ ทั้งที่พวกเขาอาสาเข้ามาทำงานให้พี่น้องประชาชน …แปลกแต่จริง….
Leave a Response