“ปะจัน” โดย “เขี้ยวจัน”

ที่นี่….ไม่ใช่คอลัมน์ร้องทุกข์ แต่เป็น การสังคมอุดมปัญญา ลุกขึ้นมา “ทวงสิทธิ” ของการเป็นพลเมืองผู้ตื่นรู้ เจ้าของคะแนนเสียงที่เลือก “ตัวแทน” ในทุกระดับ ของการปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารบ้านเมือง ด้วยข้าราชการ “ตัวแทน” จากส่วนกลาง ทุกกระทรวง ทบวง กรม…[ หน้ารวมบทความ ประจัน ]

โจร หมายถึง ผู้ลัก ผู้ขโมย ผู้ปล้น มิจฉาชีพ

พอเติมท้าย ด้วย อีกคำ ก็จะมีคำแปล ไปตามลักษณะนาม ตามนั้น

โจรกระจอก-โจร ตัวเล็ก ตัวน้อย ไม่มีพิษ อะไร ไม่เห็นจะน่ากลัว เชอะ…

โจรธรรมดา-ปล้น ขโมย เงินทอง ทรัพย์สินทั่วไป จะเลือกเหยื่อ มองๆว่าเป็นคนมีกะตังค์ เหยื่อรุดเข้าแจ้งความ ให้ตำรวจตามจับโจร

โจรเสื้อนอก-มาดดูดี รวย ดูไม่ออกว่า เป็นโจร เพราะซ่อนรูป ใต้หน้ากากผู้ดี แกะรอยยาก ปล้นแบบมีแผน กฎหมายเอื้อมมือไม่ถึง ตำรวจรับจ้างเป็นบอดี้การ์ด

โจรการเมือง-ปล้นด้วยคำหวาน ให้ได้มาซึ่งอำนาจ และนำอำนาจนั้นไปใช้ ในการขโมยอนาคต อาชีพ งาน ภาษี สุขภาพ การศึกษา ล้วนเป็นการปล้นผ่านนโยบายในการบริหารประเทศ ผ่านกระทรวง กรม ต่างๆ มีตำรวจเดินตามเพื่ออารักขา และที่สำคัญ ประชาชน เลือก โจรพวกนี้มาเองกับมือ เมื่อเข้าคูหา “กากบาท”………

……………………………

ตัดกลับมา ที่ป้ายหาเสียงของพรรคการเมือง ที่กระจายติดตามเสาไฟฟ้า ก่อนที่จะมีประกาศเลือกตั้ง เพราะไม่งั้น ต้องถูกนำมาคำนวณเป็นงบในการหาเสียง หากเกินเพดาน เป็นอันหมดอนาคตกันพอดี…

ข้อความ ที่บางพรรค ติดหรา ดูเป็นความหวัง กลบแผลเดิมว่า “ยกเลิกการตรวจเครดิตบูโร”

โอวววว…..ทำไปได้อย่างไร….

“ข้อมูลเครดิต” เป็นข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการชำระหนี้ของลูกหนี้รายบุคคล ซึ่งถูกจัดเก็บไว้ในระบบฐานข้อมูลของ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (www.ncb.co.th)  เป็นหน่วยงานภาครัฐ ที่มีหน้าที่ ตามกฎหมาย ซึ่งจัดเก็บ ข้อมูล 2 ส่วน คือ ข้อมูลที่บ่งชี้ถึงตัวตนลูกค้า และข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติและประวัติการชำระ อาทิ เคยทำบัตรเครดิตมากี่ใบ ขอสินเชื่อรถกี่คัน ขอสินเชื่อบ้านกี่หลัง อยู่ระหว่างใช้งาน ผ่อนชำระ หรือปิดบัญชีไปแล้ว  ข้อมูลที่ถูกบันทึก จะคล้ายกับสมุดพกรายงานข้อมูลทางด้านการเงิน พฤติกรรมการใช้และการชำระสินเชื่อของแต่ละคนนั่นเอง

ลูกหนี้ ที่ขยันสร้างหนี้ จึงกลัว เมื่อต้องเช็คข้อมูลเหล่านี้ หากพบความผิดปกติ การขอกู้ ครั้ง ต่อๆไป ไม่ผ่าน และถูกปฏิเสธทันที

เรื่องนี้ นับเป็นแนวป้องกัน ให้เกิดวินัยทางการเงิน ไม่ก่อหนี้ จนหมักหมมกลายเป็น หนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น จากการบริโภคนิยม นำเงินกู้ เงินในอนาคตมาใช้ล่วงหน้า พันๆตัวกลายเป็นหนี้ทั่วหน้า  อย่างที่เราหนักใจกัน

การมี “เครดิตบูโร”  จึงมีประโยชน์ มากกว่า ข้อเสีย นักการเมืองจะมายกเลิก เพื่อเอาใจ ถูกใจ ฐานคะแนนเสียง ให้ได้มาซึ่งอำนาจ ได้อย่างไรกัน

แบบนี้ ต้องย้อนขึ้นไปอ่านบรรทัดบน ว่า ใช่เข้าข่าย “โจรการเมือง”  ไหม ?? …หุหุ…..