ความคืบหน้ากรณีครูบาไก่ขุดพระพุทธรูปและของโบราณกว่า 500 ชิ้น มาเก็บไว้ภายในศาลาการเปรียญของวัดป่าโสรโยบ้านขุมดิน ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างปกป้อง ยืนยันไม่ใช่คนของครูบาไก่เชื่อในสิ่งที่เห็นและครูบาไก่ไม่เคยอวดอุตริ หากกรมศิลป์หรือหน่วยงานต่างๆจะนำพระไปตรวจสอบ ขอให้ตรวจสอบต่อหน้าชาวบ้านเพราะพระทุกองค์สมบัติทุกชิ้นที่ขุดได้ มีคุณค่าทางจิตใจของชาวบ้านในพื้นที่อย่างมาก
จากกรณีของครูบาไก่ ซึ่งจุดเริ่มต้นมาจากที่อิคคิวและบุ๋ม อดีตโยมอุปัฏากครูบาไก่ประธานที่พักสงฆ์ป่าเทวาราม บ้านป่าผุ ต.สวนหม่อน อ.มัญาจคีรี จ.ขอนแก่น นำหลักฐานข้อความแชทและภาพของลับ กล่าวหาว่าเป็นของลับของครูบาไก่ส่งให้กับชายชื่อเจน ซึ่งเป็นแชทระหว่างครูบาไก่คุยกับเจน โดยที่อิคคิวอ้างว่าได้หลักฐานต่างๆจากเจนกระทั่งนำไปสู่การตรวจสอบทั้งทางด้านกฎหมายทางโลก และทางวินัยของสงฆ์ ซึ่งทางคณะกรรมการที่ทางคณะสงฆ์ตั้งขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงขณะนี้ต้องรอให้ทางศาลตัดสินก่อนจึงจะดำเนินการลงโทษตามพระวินัย และครูบาไก่เองก็ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาโดยยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่จนกว่าจะมีการชี้ชัดจากการตรวจสอบของท่างหน่วยงานต่างๆร่วมกัน แต่ระหว่างที่รอการดำเนินการตามกฎหมายนั้น ก็มีภาพหลักฐานต่างๆออกมาโจมตีครูบาไก่ ในเรื่องของภาพไม่เหมาะสมต่างๆแต่ทางครูบาไก่ก็ได้เข้านำพานขอขมาพระอุปัชฌาย์และคณะสงฆ์อำเภอมัญจาคีรีเพื่อรับคำติเตือนจากพระผู้ใหญ่และทางคณะสงฆ์อำเภอมัญจาคีรีเพื่อปลงอาบัติในเรื่องดังกล่าวแล้ว และจะเข้ากรรมหลังจากที่เสร็จสิ้นกระบวนการทางโลกก่อน ก่อนที่ล่าสุดเมื่อวาน(3 ก.พ.66)ที่ผ่านมาทางวัดของดการให้สัมภาษณ์และงดถ่ายภาพในทุกกรณี
ซึ่งล่าสุดที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดป่าโสรโย บ้านขุมดิน ม.4 ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรีจ.ขอนแก่น โดยได้พบกับชาวบ้าน ลูกศิษย์ลูกหา ที่มาทำบุญที่วัด ต่างศรัทธาและเชื่อว่าพระพุทธรูปที่ครูบาไก่ขุดขึ้นมานั้นคือของจริง และครูบาไก่ไม่สามารถที่จะนำมาซ่อนติดตัวได้ และมีหลายองค์หลายอย่างที่เจ้าของบ้านเป็นคนขุดหาตามที่ครูบาไก่บอกแล้วเจอเอง แต่ที่ครูบาไก่ต้องเลิกรับกิจนิมนต์ของชาวบ้านไปเพราะว่าพระผู้ใหญ่ตำหนิกลัวจะเป็นปัญหาในวันข้างหน้า และก็เกิดเป็นปัญหาขึ้นมาจริงๆ
ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีการร้องเรียนไปยังกรมศิลป์และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องแล้วโดยผู้ที่ไม่เชื่อได้แจ้งร้องเรียนไปทางหน่วยงานต่างๆและกรมศิลป์เองก็ได้มีการลงพื้นที่มาตรวจสอบเสร็จสิ้นไปแล้ว โดยในครั้งนั้นเองก็มีสื่อมวลชนลงพื้นที่ทำข่าวด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นมติร่วมกันของทางวัด ชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ ให้เก็บรักษาพระพุทธรูปและของโบราณต่างๆที่ครูบาไก่ขุดขึ้นมาได้ไว้ภายในวัด เนื่องจากแรงศรัทธาของชาวบ้านมีจำนวนมากที่เชื่อและศรัทธา ทางเจ้าหน้าที่จึงไม่อยากขัดแรงศรัทธาก็ได้ให้ทางวัดและชาวบ้านร่วมกันดูแลและเก็บรักษาภายในศาลาการเปรียญแห่งนี้ ก่อนที่สายบุญจะมีการสร้างตู้กระจกใสให้ชาวบ้านได้กราบไหว้ ได้เห็นและเป็นการเก็บรักษาอย่างดีด้วย
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นางชุติมา แก่นท้าว อายุ 50 ปี ชาวบ้านขุมดิน ม.4 ลูกศิษย์ครูบาไก่ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่ของกรมศิลป์และหน่วยงานอีกหลายหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบที่วัด เนื่องจากมีคนที่ไม่เชื่อส่งเรื่องเข้าร้องเรียน โดยทางเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่มาให้ทางวัดขึ้นทะเบียนเกี่ยวกับพระแต่ละองค์ว่าขุดที่ไหนขุดขึ้นมาเมื่อไหร่ ใครมานิมนต์ โดยมีการทำรายละเอียดไว้ครบทุกองค์ ตนเองก็ได้เป็นคนให้ข้อมูลด้วยเช่นกัน ทางเจ้าหน้าที่ที่มาทั้งกรมศิลป์ฯ และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ได้มาตรวจสอบโดยได้บอกว่า พระบางองค์ที่ขึ้นมาก็มี 100 กว่าปีก็มี 500 กว่าปีก็มี ซึ่งขณะนั้นมีทั้งคนเชื่อและไม่เชื่อ จึงมีการแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ และทางเจ้าหน้าที่กรมศิลป์ยังบอกหลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบอีกว่า ในเมื่อพระพุทธรูปเหล่านี้อยู่กับชาวบ้านแล้วชาวบ้านทำดีอยู่แล้วก็ให้เอาไว้ที่วัดแห่งนี้ได้ เพราะชาวบ้านมีความศรัทธา ให้ชาวบ้านลูกหลานได้กราบไว้ และหากขุดองค์ไหนขึ้นมาได้ก็ให้ลงข้อมูลเอาไว้แบบนี้ด้วย
จากกรณีต่างๆที่เกิดขึ้นที่มีการตรวจสอบครูบาไก่ หากมีหน่วยงานราชการต่างๆที่เกี่ยวข้องขอพระพุทธรูปทั้งหมดนี้ไปตรวจสอบ ทางชาวบ้านเองทุกคนก็ขอตรวจสอบโดยที่ให้ชาวบ้านอยู่ด้วยได้หรือไม่ เพราะสมบัติทุกชิ้นเราหวงแหนมีคุณค่าทางจิตใจของชาวบ้านทุกคน
ครูบาไก่เมื่อครั้งบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดแห่งนี้ ไม่ใช่ว่าท่านอวดอุตริจะไปเอง เพราะกิจของสงฆ์ใครนิมนต์ไปไหนไม่ว่าจะลำบากแค่ไหนก็ต้องไป ซึ่งมีชาวบ้านมานิมนต์ไปที่บ้านเพื่อช่วยจากสิ่งที่มองไม่เห็นตามความเชื่อของชาวบ้าน ท่านก็ต้องไป บางคนป่วยนอนติดเตียงเป็นระยะเวลานาน ได้ยินคำร่ำลือว่ามีเณรน้อยที่วัดป่าบ้านขุมดิน นั่งแล้วเห็นแล้วช่วยคนได้ ซึ่งครูบาขณะเป็นเณรนั้นก็ยังบอกอยู่ว่า จะช่วยชาวบ้านได้จริงๆหรือ แต่ชาวบ้านได้มานิมนต์แล้ว จะได้ไม่ได้ก็ต้องไป เพราะกิจของสงฆ์นิมนต์แล้วต้องไปปฏิเสธไม่ได้ พอชาวบ้านปากต่อปากทราบข่าวว่าเณรไก่จะไปที่บ้านของชาวบ้านที่มานิมนต์ให้ไปช่วยเหลือมีผู้ป่วยติดเตียงอยู่ที่บ้าน ชาวบ้านลูกศิษย์ลูกหาก็พากันตามไปโดยที่ไม่ได้ชักชวนกัน แต่ทุกคนมีความอยากรู้อยากเห็นอยู่แล้วก็พากันไป บางคนไปด้วยความเชื่อ บางคนไปเพราะไม่เชื่ออยากพิสูจน์ ซึ่งก็มีเยอะ ในวันนั้นเองชาวบ้านพากันเดินทางไปที่บ้านของคนที่มานิมนต์ไปที่บ้านเป็นหลักร้อยคน และเพื่อที่จะตามไปปกป้องเณรไก่ด้วยเพราะรักเหมือนลูกเหมือนหลาน ไม่อยากให้ใครมาหาผลประโยชน์
เมื่อไปถึงเณรไก่สมัยนั้นก็เริ่มทำพิธีไหว้ขอขมา ไหว้ 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน 14 ชั้นบาดาลตามพิธีของเณรไก่ โดยมีธูปเทียน หลังจากนั้นครูบาไก่ก็จะนั่งสมาธิ นั่งแล้วจะเขียนรูปเลยว่าบ้านหลังนี้จะมีสิ่งเหล่านี้อยู่ บางที่เป็นพระ บางที่เป็นลูกแล้ว ก่อนที่จะกำหนดจุดขุดให้ทราบ แล้วครูบาไก่ก็จะไปนั่งอีกจุด โดยให้ทางลูกศิษย์และชาวบ้านช่วยกันขุดก่อน
บางที่ได้ไปทุบกระเบื้องกลางบ้าน เพราะพ่อป่วยมานาน พอทุบออกขุดจนลึกและเจอจริงๆ โดยเจ้าของบ้านไปเอาขึ้นเองโดยที่ครูบาไก่ไม่ได้เอาขึ้นมาเองแต่เป็นชาวบ้านขุดขึ้นมา และจากที่ป่วยอยู่ก็เริ่มอาการดีขึ้นและลุกขึ้นได้
ถ้าในเรื่องต่างๆที่ชาวบ้านออกมาพูดนั้นแล้วจะบอกว่าเป็นคนของครูบาไก่มันไม่ใช่เพราะสิ่งที่เราเห็นมันไม่ใช่เราก็บอกไม่ใช่ และถ้ามันใช่เราก็บอกว่าใช่ โดยส่วนตัวตนเองก็ไม่ชอบความไม่ถูกต้อง ทุกวันนี้รักษาศีล 5 จะไม่โกหกเลย หากครูบาไก่นำไปฝังจริงๆ จะเอาเวลาไหนไปฝัง อย่างใต้ถุนบ้านก็เป็นเจ้าของบ้านเป็นคนลงไปเอาขึ้นมาเอง ครูบาไก่ไม่ได้ลงไป ครูบาไก่บอกอยู่ใต้บันได ให้ขุดลงไปเลย ซึ่งก็เป็นญาติพี่น้องครอบครัวของเจ้าของบ้านเองเป็นคนขุด โดยครูบาไก่นั่งดู ซึ่งเจ้าของบ้านก็ขุดขึ้นเองได้
แต่ก็มีบางกรณีที่ครูบาไก่ลงไปขุดเอง แต่ทั้งหมดที่ขุดได้ครูบาไก่ก็จะถามชาวบ้านตลอดว่าจะเก็บเอาไว้เองหรือไม่ ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่จะขอถวายให้ที่วัด เพราะกลัวจะรักษาไม่ดี โดยที่ครูบาไก่ก็ไม่เคยเรียกร้องเป็นเงินหรือเอ่ยปากขอในเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวสักครั้งให้ได้ยิน และเพื่อนำมาเก็บรักษาที่วัดให้ชาวบ้านคนอื่นๆได้กราบไหว้เป็นแรงศรัทธาในพื้นที่ระหว่างชุมชนกับพระพุทธศาสนาต่อไป
อย่างไรก็ตามในเรื่องของการตรวจสอบนั้น ทางจังหวัดเองได้มีการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบพระพุทธรูปและสิ่งของโบราณที่ครูบาไก่นิมิตขุดขึ้นมาได้ รวมทั้งทางตำรวจกองปราบปราม และทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ช่วยตรวจสอบหลักฐานต่างๆเพื่อนำข้อมูลถวายให้กับทางคณะสงฆ์ได้พิจารณาตามพระวินัย ในส่วนของภาพไม่เหมาะสมทั้งสรงน้ำในลำธาร ขี่เจ็ตสกี เล่นบานาน่าโบ๊ต ก็ได้นำข้อมูลถวายคณะสงฆ์พิจารณาความผิดตามพระวินัยไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับทางคณะสงฆ์ในการพิจารณาลงโทษตามพระวินัย
ในส่วนของภาพของลับที่อิคคิวอ้างว่าเป็นของครูบาไก่ส่งให้กับชายชื่อเจนในแชทเฟซบุ๊กระหว่างครูบาไก่กับเจน ในเรื่องนี้ทางคณะสงฆ์ยุติการตรวจสอบชั่วคราวโดยได้สอบถามทั้งครูบาไก่และทนายความเอาไว้ทั้งหมดแล้ว แต่ทางฝ่ายครูบาไก่ปฏิเสธและเข้าแจ้งความเอาผิดอิคคิวกับพวก ใน 3 ข้อหา 3 กรรม 3 วาระ คือ ร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา,นำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ,ใส่ความคณะสงฆ์ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติม 2535 มาตรา 44 ตรี มาตรา 5 ทวิ โดยทางคณะสงฆ์จะต้องรอให้เสร็จสิ้นกระบวนความทางกฎหมายก่อน โดยจะต้องรอศาลตัดสินให้คดีถึงที่สุดซึ่งคือในชั้นฏีกา
นอกจากนี้ทางทนายของครูบาไก่ยังได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.มัญจาคีรีดำเนินคดีกับ เพจอีซ้อขยี้ข่าว2 และเพจสีผึ้งมหาเสน่ สายขาว และรายการทีวีอีก 1 รายการ ตามความผิดพรบ.คอมฯ เพราะภาพที่นำออกมาเผยแพร่นั้น ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของภาพหรือบุคคลในภาพ โดยเป็นความผิดตามมาตรา 14 (1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา
Leave a Response