ครูบาไก่โพสต์เฟซบุ๊กเป็นพระธรรมดาที่คนนำไปพูดว่าเป็นผู้วิเศษ วอนขอหยุดพูดให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นผู้วิเศษ เสี่ยงเข้าข่ายอวดอุตริ ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เผยหลักฐานที่มียังไม่สามารถเอาผิดครูบาไก่ทางพระวินัยได้ พร้อมสั่งการนำเรื่องขุดพระพุทธรูปตรวจสอบดำเนินการตามกฎหมายแล้ว ชี้มีศรัทธาต้องมีปัญญาคู่ หากมีแต่ศรัทธาจะกลายเป็นงมงาย
จากกรณีอิคคิวและบุ๋มพร้อมพวกร้องเรียนครูบาไก่ ประธานที่พักสงฆ์ป่าเทวารามล่าสุด นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวถึงการดำเนินการร้องเรียนเกี่ยวกับ พระสุวิทย์ ชินวโร หรือครูบาไก่ ประธานที่พักสงฆ์ป่าปฐมเทวาราม ว่าขณะนี้ได้สอบถามไปยังทางสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัด ทราบว่าหลังจากที่มีคนมาร้องเรียนถึงครูบาไก่ ทางเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่นฝ่ายธรรมยุต ก็ได้มีการตรวจสอบหลักฐานทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่เข้าข่ายที่จะเอาผิดทางวินัยสงฆ์ได้ นอกจากนี้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเรื่องที่ร้องเรียนทั้งหมด ตั้งแต่เรื่องเงินบริจาควัด เรื่องบุกรุกที่สาธารณะ เรื่องวินัยสงฆ์ ที่มีการเผยแพร่ภาพครูบาไก่ตามที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ รวมถึงภาพลับของครูบาไก่ ขณะนี้ทางตำรวจกองปราบปราม อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์หลักฐาน
ส่วนพระพุทธรูปโบราณที่พระไก่กับพวกขุดขึ้นมา เป็นของปลอม เป็นพระเก๊ ไม่ได้มีอายุ500-700 ปี ตามที่กล่าวอ้าง ทำไมเรื่องจึงหยุดแค่การแจ้งผล ทำไมไม่มีการตั้งคำถามหรือดำเนินคดีใดๆ กับครูบาไก่และพรรคพวก ขณะนี้จังหวัดขอนแก่น ได้ส่งรายงานข้อมูลของสำนักศิลปากรที่ 9 และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น ที่สันนิษฐานว่าพระพุทธรูปที่ขุดพบ เป็นศิลปวัตถุที่สร้างขึ้นมาในช่วงเวลาปัจจุบัน โดยเลียนแบบโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุในยุคสมัยต่างๆ ไปให้ตำรวจภูธรภาค 4 วัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น นายอำเภอมัญจาคีรี ไปรวบรวมหลักฐานแล้วรายงานกลับมายังจังหวัดอีกครั้ง
ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวต่อไปว่า อยากให้พี่น้องประชาชนได้มีพิจารณญาณ ว่า ศาสนาพุทธได้สอนเรื่องศรัทธาไปควบคุมกับปัญญา มีศรัทธาอย่างเดียวไม่มีปัญญาก็ถือว่า งมงาย เพราะศรัทธาจะน้อมนำให้เปิดปัญญาศาสนาพุทธนั้น สอนให้คนรู้จักการพึ่งตนเอง ไม่ใช่การไปพึ่งคนอื่น ซึ่งไม่มีหลักประกันว่าไปขอคนอื่นแล้วคนอื่นจะให้เรา พระพุทธเจ้าสอนให้พึ่งตนเอง
ขณะที่เฟซบุ๊กครูบาไก่โพสต์ข้อความในเรื่องของการอวดอุตริว่า “ท่านทั้งหลายพึ่งระวังคำพูดตนเอง ใครที่ยังศรัทธาเราอย่าไปพูดสรรเสริญเยินยอว่าเราเป็นผู้วิเศษเลย เราไม่ใช่พระโพธิสัตว์ เราไม่ใช่พระอรหันต์ เราไม่ใช่ผู้มีญาณหูทิพย์ตาทิพย์ เราก็เป็นพระธรรมดาเหมือนพระรูปอื่นทั่วไปทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคมเท่าที่ทำได้ อย่าไปพูดให้สังคมต้องเข้าใจว่าเราเป็นผู้วิเศษ เราก็เป็นคนดีเมื่อเวลาทำดี เราก็เป็นคนชั่วในเวลาที่เพ้อทำ ไม่ต่างอะไรกับชีวิตของทุกสิ่งที่มีลมหายใจ ให้ว่าเราเป็นผู้ทำดีก็พอไม่ต้องว่าเราเป็นยังงั้นอย่างนี้หรอก ชั่วก็บอกว่าชั่วดีก็บอกว่าดี”
Leave a Response