จากกรณีในโลกโซเชียลมีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ไฟไหม้ในค่ายลูกเสือในพื้นที่อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งกำลังมีกิจกรรมรอบกองไฟของค่ายลูกเสือโรงเรียนแห่งหนึ่ง ทำให้มีเด็กนักเรียนถูกไฟคลอก ได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 ราย โดยเหตุดังกล่าวเกิดเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. ของวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา

ซึ่งก่อนเกิดเหตุโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภูได้จัดให้มีกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือของนักเรียนชั้นมัธยม 2 จำนวน 205 คน ตั้งแต่วันที่ 3 – 4 ก.พ. 2566 โดยในช่วงค่ำมีกิจกรรมการเล่นรอบกองไฟในคืนวันที่ 3 ต่อวันที่ 4 แต่มาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นก่อนทางโรงเรียนจึงได้สั่งยกเลิกกิจกรรมทั้งหมด

ทั้งนี้ เด็กนักเรียนรายหนึ่งที่เข้าร่วมกิจกรรมรอบกองไฟ เปิดเผยว่าในช่วงก่อนเกิดเหตุหลังจากประธานกล่าวเปิดงาน ได้มีกลุ่มลูกเสือที่แต่งตัวเป็นซูลู ประมาณ 7 คน เต้นถือคบไฟมาจุดที่กองไม้ที่เตรียมไว้ แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าเหตุใดจึงทำให้เกิดไฟลุกขึ้นท่วมร่าง

สำหรับเด็กผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย ถูกนำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลศรีนครินทร์จ.ขอนแก่น 1 ราย อาการสาหัส ไฟคลอกร่างกาย กว่า 90% ส่วนอีก 1 ราย ส่งรักษาตัวโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ไฟคลอกร่างกาย 50 – 60%

ขณะที่อีก 3 ราย ส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี , โรงพยาบาลอำเภอโนนสังและอีก 1 ราย ทำแผลแล้วกลับบ้านได้

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. 5 ก.พ. 66 จากกรณีดังกล่าวผู้สื่อข่าวได้ติดตามอาการของน้องทั้งสองรายที่ถูกส่งต่อมารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์และโรงพยาบาลขอนแก่นตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา

โดยผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง โรงพยาบาลขอนแก่น ถึงอาการของ เด็กชาย อนุพงศ์ แนวหาญ นักเรียนของโรงเรียนโนนสังวิทยาคารอีกรายที่ได้รับบาดเจ็บถูกไฟคลอก โดยได้ส่งต่อโรงพยาบาลขอนแก่น ด้วยอาการถูกไฟคลอก 50-60% ซึ่งทีมแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่นได้ทำการล้างแผล และทำการรักษา โดยอาการล่าสุดขณะนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังโรงพยาบาลขอนแก่นทราบว่าอาการของน้องอนุพงษ์นั้น ครั้งแรกที่รับการรักษาส่งต่อจากทางหนองบัวลำภูมาด้วยอาการถูกไฟคลอก 50% พอทางแพทย์ได้ทำการล้างแผลแล้วพบว่าตามร่างกายถูกไฟคลอก 16% ไม่มีแผลลึกไม่เป็นอันตรายผิวหนังบวมเล็กน้อยทางแพทย์ต้องรักษาตามอาการเพื่อไม่ให้แพ้ติดเชื้อโดยทำการรักษาภายในห้องปลอดเชื้อของโรงพยาบาลขอนแก่น พร้อมทั้งใส่ออกซิเจน โดยรวมอาการดีขึ้นตามลำดับซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการสมานแผลของทางคนไข้เอง และบาดแผลที่ถูกไฟไหม้ผิวหนัง ซึ่งเหลืออยู่ 16% ที่เป็นรอยไหม้ แผนก็จะทำการล้างแผลและให้ยาเพื่อป้องกันการติดเชื้อภายในห้องปลอดเชื้อและประเมินอาการอีกครั้งหากอาการดีขึ้นสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แพทย์ก็จะอนุญาตให้รับน้องกลับไปดูแลที่บ้านที่จังหวัดหนองบัวลำภูต่อไป

ด้านนางเสาร์  ไชยยะ อยู่บ้านเลขที่ 64 บ้านหนองตานา ต.โคกใหญ่ อ.โนนสังข์ ซึ่งเป็นแม่ของ ด.ช.สุวัฒชัย  หงส์ทอง หรือน้องคิว อายุ 11 ปี  ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผสข.ว่า ในวันเกิดเหตุ ลูกชายตนได้เดินทางมาเข้าค่ายลูกเสือ และจะมีการละเล่นรอบกองไฟ  ตนก็เลยถามครูว่ามันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้อย่างไรทำไมถึงเป็นมากขนาดนี้  ครูก็ตอบว่าน้องจะเล่นลูซู  ซึ่งขณะนั้นมีนักเรียนอีกกลุ่มหนึ่งไปจุดไฟไปก่อนที่ลูกชายของตนจะไปถึง แต่ว่าไฟมันไม่ติด  ครูก็เลยบอกให้กลุ่มของลูกชายเป็นคนไปจุดอีก โดยลูกชายของตนเป็นคนถือไฟจะไปจุด พอลูกชายตนไปถึงกองฟืนไฟก็พุ่งออกมาทันทีแบบตั้งตัวไม่ทัน ทำให้ไฟลุกไหม้เด็กกลุ่มนี้ทันที จำนวน 5 คน

ส่วนอาการของลูกตนขณะนี้อาการยังไม่ปลอดภัย 100% ยังหายใจเองไม่ได้ เพราะว่าทางเดินหายใจของน้องมันพองอยู่และต้องสอดท่อหายใจข้าไป โดยถูกไฟไหม้ทั้งตัวไม่มีตรงไหนที่จะไม่เป็นแผล คือไม่ประมาณ 90% สำหรับคนเจ็บมีทั้งหมด 5 คน โดยกลับบ้านได้แล้ว 1 คน อยู่ รพ.อ.โนนสังข์ 1 คน อยู่ ราพ.ที่ ขอนแก่น 2 คน อยู่ รพ.อุดร 1 คน แต่ว่าลูกชายของตนเจ็บมากกว่าเพื่อนๆ ทุกคน

ส่วนการรับผิดชอบของคณะครูนั้น นางเสาร์ บอกว่า คุณครูก็ยังไม่ได้ว่าอะไรบอกเพียงว่าก็คงจะได้ช่วยเหลือกันต่อไปนะครับคุณแม่  โดยหลังจากที่เกิดเหตุแรก ๆ นั้น ตนก็ยังไม่ได้เห็นลูกชายเลย ตนจึงได้ตามไปที่ รพ.ศรีนครินทร์ ขอนแก่น โดยหมอได้พาน้องเข้าไปในห้องฉุกเฉินแล้ว ตนจึงขอหมอเข้าไปดู ซึ่งหมอก็ได้วางยาสลบให้ลูกชายแล้วแต่คุณหมอก็ได้เปิดผ้าออกให้ดู ตนเห็นแล้วมันเป็นมากเกินกว่าที่ตนเองจะรับได้ เพราะบาดแผลมีทั้งลึกทั้งตื้น ดูแล้วเป็นการไหม้ทั้งตัวเลย

ขณะที่อาการล่าสุดของน้องคิว อายุ 11 ปี นักเรียนชายโรงเรียนโนนสังวิทยาคารจังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งถูกไฟคลอกตามร่างกายถึง 90% ส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์จังหวัดขอนแก่น โดยอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และในเวลา15.30 น. วันนี้ทีมงานของคุณกัน จอมพลัง จะลงพื้นที่มาพบกับครอบครัวของน้องคิวที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ เพื่อเยี่ยมอาการบาดเจ็บของน้องคิวและพูดคุยกับแม่ของน้องคิวด้วยซึ่งความคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง///