โจรใจบาปตีเนียนแอบย่องเข้าวัดขโมยของใจเย็น

KKL Team Size News.00_00_41_22.Still056

วงจรปิดจับภาพ โจรใจบาป ขับรถจักรยานยนต์มาก่อเหตุที่วัดในอำเภอพล จังหวัดขอนแก่น ก่อนตีเนียนปะปนกับชาวบ้านเข้าออกวัดหาขโมยเอาของมีค่า พร้อมเปิดตู้เย็นหน้ากุฏิพระดื่มน้ำดับกระหายเดินทั่ววัดได้ทรัพย์สินปัจจัยญาติโยมและกุญแจรถยนต์พระไป

นี่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดของวัดศรีสระเกษ บ้านตำแย หมู่ 2 ต.เมืองพล อ.พล จ.ขอนแก่น บันทึกภาพเหตุการณ์คนร้ายเป็นชายรูปร่างสูง สวมเสื้อเชิตสีน้ำเงินแขนยาว กางเกงยีนสีน้ำเงิน รองเท้าผ้าใบ สวมหมวกแก๊ปสีน้ำตาลดึงหน้ากาอนามัยสีดำลงมาไว้ที่คาง ดับเครื่องยนต์รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เข้ามาจอดที่ข้างห้องครัวของวัด ซึ่งอยู่ข้างกุฏิเจ้าอาวาส ก่อนจะเดินผ่านหน้าห้องน้ำวัดไปที่กุฏิพระลูกวัดซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับห้องน้ำ แล้วเดินไปเปิดตู้เย็นที่อยู่หน้ากุฏิหยิบน้ำดื่มไป 1 ขวด ก่อนจะดื่มไปด้วย ดูลาดเลาไปด้วย ก่อนจะเอาขวดน้ำมาวางที่ตะกร้าหน้ารถ แล้วเดินย้อนกลับไปเข้าห้องน้ำ หลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จก็เข็นรถมาจอดที่หน้ากุฏิเจ้าอาวาส แล้วเดินไปกุฏิพระลูกวัดใกล้กุฏิเจ้าอาวาส แล้วเปิดประตูกระจกเข้าไปเพื่อหาทรัพย์สิน แต่มีพระอยู่ด้านบนทำให้คนร้ายรีบออกมาแล้วเดินไปกุฏิพระลูกวัดอีกหลังใกล้ๆกันอยู่ทางด้านหลัง เมื่อไปถึงคนร้ายมองเห็นหน้าต่างมีรูพัง จึงเข้าเอื้อมมือปลดกลอนกุญแจออกแล้วเข้าไปหาทรัพย์สิน โดยในกุฏินี้มีพระสงฆ์กำลังจำวัดอยู่ และไม่รู้สึกตัวขึ้นมา ก่อนที่คนร้ายจะออกมาพร้อมกับปัจจัยที่ญาติโยมที่ทำบุญอยู่ในซอง 500 บาท และกุญแจรถยนต์กระบะของวัดก็ถูกคนร้ายหยิบไปด้วย ก่อนที่คนร้ายจะออกมาและเดินตระเวนหาจุดที่คิดว่าจะมีทรัพย์สินของมีค่าในวัดและเข้าไปนับเงินในห้องน้ำ ก่อนจะไปที่จุดจอดรถยนต์ห่างออกไป แต่เนื่องจากมีคนและช่างก่อสร้างพลุกพล่านทำให้คนร้ายเปลี่ยนใจขับหลบหนีออกจากวัดไป โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.48 น. วันที่ 6 ก.พ.2566 ที่ผ่านมา โดย นายณรงค์ วงษ์หาแก้ว นายก อบต.เมืองพล นำคลิปวงจรปิดและรูปพรรณของคนร้ายมาโพสต์ในโซเชียลให้ประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมของทางตำรวจ เพราะมีเบาะแสว่าก่อเหตุที่วัดอื่นอีก กลัวว่าจะมีวัดอื่นๆได้รับความเดือดร้อนอีกจึงนำมาโพสต์เพื่อหาเบาะแสและเตือนภัย

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 12 ก.พ.2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ วัดศรีสระเกษ บ้านตำแย หมู่ 2 ต.เมืองพล อ.พล จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นวัดที่เกิดเหตุ โดยได้พบกับ นายณรงค์ วงษ์หาแก้ว นายก อบต.เมืองพล พร้อมด้วย นาย เวชสันต์ บุญญพัฒนากูล กำนันต.เมืองพล ลงพื้นที่มาพบกับ พระวุฒิชัย ธรรมธโร เจ้าอาวาสวัดศรีสระเกษ และชาวบ้าน กำลังช่วยกันหาเบาะแสป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ของคนร้ายรายนี้ที่ขับขี่มาก่อเหตุขโมยทรัพย์สินภายในวัดอย่างไม่เกรงกลัวต่อบาป เนื่องจากทาง นายก.อบต.และทางผู้นำชุมชน ไม่อยากปล่อยผ่านให้เป็นภัยสังคมไปก่อเหตุที่อื่นๆอีก จึงได้พูดคุยกับเจ้าอาวาสและกรรมการวัด เพื่อแจ้งความกับทางตำรวจ สภ.พล ให้ช่วยติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดี แต่เนื่องจากหลักฐานที่มีไม่ชัดเจนในเรื่องป้ายทะเบียน ทางตำรวจจึงให้ทางวัดที่แจ้งความหาเบาะแสข้อมูลป้ายทะเบียนของคนร้ายที่ใช้ขับมาก่อเหตุ แต่จากการตรวจสอบก็ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าหมายเลขทะเบียนอะไรและหมวดอักษรอะไร เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นเป็นช่วงเที่ยงทำให้แสดงแดดสะท้อนป้ายด้วย

พระวุฒิชัย ธรรมธโร เจ้าอาวาสวัดศรีสระเกษ กล่าวว่า เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 6 ก.พ.66 ที่ผ่านมา ชายดังกล่าวมาที่วัดแล้วลงจากรถจักรยานยนต์เดินรอบห้องครัว แล้วไปเข้ากุฏิพระแล้วหยิบน้ำดื่มมากิน 1 ขวดแล้วมาที่ รถจักรยานยนต์ก่อนจะไปเข้าห้องน้ำ พอออกจากห้องน้ำก็เดินจูงรถจักรยานยนต์ไปตามทางมาจอดที่ด้านหน้ากุฏิเจ้าอาวาส แล้วลงมาจากรถไปเข้ากุฏิหลังใหญ่ข้างๆ โดยมีพระสงฆ์กำลังทำความสะอาดอยู่ด้านบน ก็เดินสวนกับพระสงฆ์พอดี ชายดังกล่าวจึงไปกุฏิพระอีกหลังที่อยู่ด้านหลังกุฏิหลังใหญ่นี้ พอเดินอ้อมไปด้านหลังจึงมองเห็นช่องวางที่หน้าแตกมีรอยแตก จึงเอื้อมมือไปปลดกลอนแล้วไปก่อเหตุขณะที่มีพระสงฆ์สงฆ์อยู่ด้านใน แต่จำวัดอยู่ ซึ่งเชื่อว่าชายต้องสงสัยรายนี้จะเคยมาดูลาดเลาเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เพราะนิ่งมาก ตีเนียนมากับประชาชนทั่วไป เพราะปกติที่วัดไม่ได้มีการปิดประตูหรือจำกัดการเข้าออกอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถทำได้ และปกติจะมีโรงงานอยู่ใกล้ๆ ก็จะมีคนงานมากินข้าวข้างวัด มาเข้าห้องน้ำ และมีการก่อสร้าง ทำให้ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าใครเป็นใคร หลังเกิดเหตุในส่วนของพระก็ปล่อยไปตามเวรตามกรรม แต่ทางผู้นำชุมชนและทางนายก อบต.ฯเห็นว่าควรดำเนินคดีตามกฎหมาย ทางวัดจึงไม่ขัดข้องก็ให้ทาง นายกฯและผู้นำรวมทั้งกรรมการวัดดำเนินคดีตามกฎหมายตามที่เห็นสมควร

เรื่องที่จะป้องกันนั้นเป็นไปได้ยาก เพราะวัดสร้างมาคู่กับชุมชน หากจะให้ปิดเป็นเวลาหรือเข้าออกเป็นเวลาคงทำไม่ได้ ในส่วนการดำเนินคดีนั้น ทางตำรวจบอกว่าภาพไม่ชัด ความชัดเจนยังไม่เพียงพอในเรื่องของป้ายทะเบียน ก็ต้องตรวจสอบหาเบาะแสให้กับตำรวจในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ส่วนความเสียหายก็ไม่ได้เยอะ แต่หากปล่อยไปแล้วไปก่อเหตุที่อื่นอีก หากวัดไม่แจ้งความก็จะเป็นการไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ จึงให้ทางนายก อบต.และทางกำนันเป็นผู้ดำเนินการตามกฎหมาย

ด้าน นายก กล่าวว่า เมื่อวานที่ผ่านมาได้เข้าไปพบกับทางตำรวจ โดยทางตำรวจได้ส่งชุดสืบสวนมาที่เกิดเหตุที่วัด มาตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด แต่พบว่ากล้องยังไม่ชัดเจน อยากให้ทางพระสงฆ์ดูใหม่ให้ชัดเจนแล้วจึงส่งให้กับทางตำรวจ ตนเองจึงนำภาพชุดนี้โพสต์ลงในโซเชียลให้ประชาชนรับรู้เพื่อเตือนภัย และแจ้งเบาะแสมาทางเจ้าหน้าที่หากมีใครพบเห็นหรือทราบว่ารถคันดังกล่าวป้ายทะเบียนอะไรหรือชายดังกล่าวเป็นใคร ซึ่งหลังจากโพสต์ไปแล้ว กด็มีเบาะแสเข้ามาว่าที่วัดบ้านโคกกุงก็ถูกคนร้ายรายนี้เข้าไปก่อเหตุขโมยเงินพระสงฆ์ไป 2 ครั้งแล้ว ทางผู้แจ้งจึงฝากไว้หากจับได้ทางพระที่วัดก็จะไปชี้ตัวให้ เพราะยืนยันว่าเป็นคนร้ายรายเดียวกัน

ขณะที่ กำนัน กล่าวว่า ในส่วนของหมู่บ้านเองก็จะมีไลน์กลุ่มกันอยู่แล้ว ซึ่งจะได้มีการประชาสัมพันธ์ไปทางผู้นำชุมชนและอสม.เพื่อช่วยกันสอดส่องดูและหาเบาะแสคนร้าย เพื่อช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้กับทางเจ้าหน้าที่ได้จับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง