เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 14 ก.พ.2566  ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดขอนแก่น  นายปัญญา ศรีปัญญา และนายพัฒนา นุศรีอัน  ว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคพลังประชารัฐ จ.ขอนแก่น   นำโลงศพสีดำ ที่มีข้อความว่ากกต.ขอนแก่น มรณะ 14 ก.พ.2566 มาวางไว้ที่ด้านหน้าสำนักงาน กกต. พร้อมยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อนายวัชระ สีสาร ผอ.กกต.ขอนแก่น เรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง ของ จ.ขอนแก่น ทั้ง 3 เขตที่ไม่เป็นธรรม

นายปัญญา ศรีปัญญา ว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า จากที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดขอนแก่นได้แบ่งเขตการเลือกตั้งโดยไม่ยึดหลัก ความเป็นธรรม แบ่งเขตการเลือกตั้งไม่ครอบคลุมพื้นที่ หรือตามหลักเกณฑ์ที่เคยปฏิบัติมาก่อน  ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนในการใช้สิทธิเลือกตั้ง  ซึ่งการแบ่งเขตครั้งนี้  สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้กำหนดเขตการเลือกตั้งออกเป็น 3  แบบมีตัวหนังสือ แบบ ก.  แบบ ข.  และแบบ ค. เมื่อพิจารณาแล้วทั้งสามแบบเหมือนกันทั้งหมด จะมีแตกต่างเพียงเขตที่ 9 เขตที่ 10 และเขตที่ 11 ซึ่งไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริงของการแบ่งเขตครั้งนี้

“การแบ่งเขตครั้งนี้ขอนแก่น มี สส.เพิ่มเป็น 11 เขต ซึ่ง กกต. ได้แบ่ง อ.น้ำพอง ออกเป็น2 เขต รวมกับ อ.กระนวน  อ.ซำสูง และ อ.เขาสวนกวาง ส่วนอีก 7 ตำบล รวมกับอ.อุบลรัตน์ และ  อ.เขาสวนกวาง   ทำให้เชื่อว่าการแบ่งเขตครั้งนี้เป็นการแบ่งเขตเพื่อเอื้อประโยชค์ให้กับพรรคการเมืองหนึ่งกับว่าที่ผู้สมัคร สส.เนื่องจากมีการติดป้ายโฆษณาหาเสียงตั้งแต่ยังไม่มีการแบ่งเขตการเลือก นอกจากนี้ได้นำรูปแบบการแบ่งเขตมาเสนอต่อ ผอ.กกต. ซึ่งเชื่อว่าการแบ่งเขตที่นำเสนอไปนั้นผู้สมัครจากทุกพรรค ทุกคนได้รับประโยชน์จากการแบ่งเขตครั้งนี้ด้วย”

ขณะที่นายพัฒนา นุศรีอัน ว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า มาขอความเป็นธรรมในการแบ่งเขตเลือกตั้ง ซึ่ง กกต. กำหนดออกมาใน 3 รูปแบบ โดยเขต 1-8 เหมือนกันไม่มีอะไรแตกต่าง จึงมาขอความเป็นธรรมกับ ผอ.กกต. ไม่อยากจะให้มีความขัดแย้งในพื้นที่ ระฆังยังไม่ตีเหมือนกับไปอำนวยความสะดวกให้กับพรรคการเมืองบางพรรคหรือไม่ ซึ่งการแบ่งเขตแบบนี้ทำให้เรารู้สึกไม่มีส่วนร่วมในการนำเสนอข้อมูลซึ่งทางเราได้ทำโมเดลขึ้นมาเสนออีกหนึ่งโมเดลที่เคยใช้ในพื้นที่ขอนแก่นมาก่อนนำมาเสนอให้ทาง ผอ.กกต. ได้เสนอส่วนกลางต่อไป

 “สำหรับโลงศพจำลองที่นำมาด้วยนั้น แสดงเชิงสัญลักษณ์ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งทางลุงป้อมได้กำชับแล้วว่า อย่าทำความรุนแรง  ให้ก้าวข้ามความขัดแย้ง ให้พูดคุยกันก่อน“