“ปะจัน” โดย “เขี้ยวจัน”
ที่นี่….ไม่ใช่คอลัมน์ร้องทุกข์ แต่เป็น การสังคมอุดมปัญญา ลุกขึ้นมา “ทวงสิทธิ” ของการเป็นพลเมืองผู้ตื่นรู้ เจ้าของคะแนนเสียงที่เลือก “ตัวแทน” ในทุกระดับ ของการปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารบ้านเมือง ด้วยข้าราชการ “ตัวแทน” จากส่วนกลาง ทุกกระทรวง ทบวง กรม…[ หน้ารวมบทความ ประจัน ]
…..เลือกตั้ง ปี 2562 : มี 77 พรรค รับ 117 ล้านบาท
….(จะ) เลือกตั้ง ปี 2566 : มี 64 พรรค รับ 111 ล้านบาท
การตั้งพรรคการเมือง รู้กันว่า ต้องใช้เงินมาก จึงมีคำว่า “นายทุนพรรค” แต่เมื่อพลิกข้อกฎหมาย ที่ กกต.กำกับดูแลอยู่ ตามอำนาจและหน้าที่โดยตรงนั้น พบว่า รัฐบาลจัดสรรเงินให้พรรคการเมือง ด้วยนะ รู้กันยัง…..
สำนักงาน คณะกรรมการการเลือกตั้ง- กกต. เป็นผู้กำกับดูแล “กองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมือง” โดยระบุว่า เพื่อให้พรรคการเมืองสามารถดำรง คงอยู่ได้ จึงเปิดโอกาสให้พรรคการเมือง มีรายได้เพื่อทำกิจกรรมทางการเมือง ได้ 2 ช่องทาง คือ
1 จากภาคเอกชน เช่น เอกชนบริจาค-ที่มีการจัดเลี้ยง ขายโต๊ะจีน และการบริจาคที่ประชาชนมอบให้ ในแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี
2 รัฐบาล จัดสรรให้ ผ่าน กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง เงินส่วนนี้ จะมีกรอบการใช้จ่ายชัดเจน เช่น เพื่อสรรหาผู้สมัคร กิจกรรมทางการเมือง การตั้งสาขา ระบบสารสนเทศ การจัดประชุมใหญ่ การส่งเสริมความรู้แก่สมาชิก ต้องส่งรายงาน กลับมายัง กองทุนฯ หาก เหลือใช้ หรือไม่ทำกิจกรรม ต้องส่งคืนเงิน ซึ่งมีหลายพรรคการเมือง ต้องส่งคืนเงินก้อนนี้มามาแล้ว
อำนาจหน้าที่ ของกองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมือง เด็ดๆ ที่มองเห็นการ คือ จัดสรรเงิน การตรวจสอบ-ควบคุมค่าใช้จ่ายเงิน การกวดขันการต้องส่งงบการเงิน จากนั้นจะรายงาน ให้ กกต. รับทราบ หากมีตุกติก เข้าข่ายความผิด มีสิทธิ ถูกยุบพรรคได้เชียวนะ….
มาดูกันว่า การ (จะ) เลือกตั้งในปี 2566 นี้ แต่ละพรรคการเมือง ได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนกันอย่างไร บ้าง ( มีรายละเอียดของแต่ละพรรค ในเอกสารประกอบ )
พรรคดัง ที่คั่วกันแบบดุเดือด ชิงพื้นที่ เปิดตัวคาราวานหาเสียงกัน หนักๆ คือ พื้นที่อีสาน เพราะ หากคว้า เสียง 1 ใน 3 ของ จำนวน สส.ได้ ก็ปาดน้ำลาย รอตั้งรัฐบาล คว้าอำนาจ กันเลยล่ะ
1)พรรคก้าวไกล แชมป์ การได้รับเงินอุดหนุน เป็นไปตามเกณฑ์ คือ ราว 47 ล้านบาท ตามด้วย 2) พรรคประชาธิปัตย์ รับราว 10 ล้านบาท 3-4) พรรคเพื่อไทย และพรรคกล้า รับราว 6 ล้านบาท 5) พรรคภูมิใจไทย เกือบ 4 ล้านบาท 6)พรรคพลังประชารัฐ เกือบ 4 ล้าน 7-8) พรรคไทยภักดีและพรรคเสรีรวมไทย เกือบ 3 ล้านบาท 9-10)พรรคไทยธรรมและพรรคประชาธิปไตยใหม่ เกือบ 2 ล้านบาท
พรรคไทยสร้างไทย-นำโดย “หญิงหน่อย” ได้รับ 1.4 ล้านบาท
พรรคชาติพัฒนากล้า-นำโดย “กรณ์” ชื่อเดิม คือ พรรคชาติพัฒนา ได้รับ 7 แสนบาทเศษ
ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ-นำโดย “บิ๊กตู่” ไม่พบข้อมูลการได้รับเงินอุดหนุน แต่อย่างใด….
เทียบ ตัวเลข ครั้งการเลือกตั้ง เมื่อ 4 ปีก่อน-ปี 2562 มีพรรคการเมือง จำนวน 77 พรรค รับเงินอุดหนุน รวมกัน ราว 117 ล้านบาท มองได้ว่า บางพรรคอาจถูกยุบพรรค และ หากไม่ทำกิจกรรม ก็จะไม่ได้รับการจัดสรร ปี 2566 จึงเหลือเป็น 64 พรรค
แชมป์ ปี 2562 คือ พรรคประชาธิปัตย์ รับราว 17 ล้านบาท-รวมเงินจากบริจาค จากภาษีส่วนบุคคล ก็ได้รับมากสุด เช่นกัน ราว 4 ล้านบาท, พรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทย ได้รับใกล้เคียงกัน ราว 13 ล้านบาท ตามด้วย พรรคไทยรักธรรม ราว 11 ล้านบาม และพรรคเสรีรวมไทย ราว 5 ล้านบาท
เห็นกันแล้ว…ตาสว่าง…สว่างคาตา…ว่า… การบริหารจัดการบ้านเมือง ล้วนมาจากเงินในกระเป๋า ของทุกคนในชาติ เวลาเลือก “คน” เข้าไปบริหาร อำนาจอยู่ในมือเรา คิดได้-ทำเป็น-เจ็บเอง- ช้ำเอง-เจ็บแล้วจำ ว่าใครทำบ้านเมืองไว้อย่างไร ?
และอย่าลืม อีกเรื่อง การได้มา ซึ่ง สส. ต้องใช้เงินของพวกเรา อีกเช่นกัน ราว 12 ล้านบาท ต่อ สส. 1 คน
“ประชาธิปไตย” ต้องใช้เงินทั้งนั้นนะ เวลา 4 ปี จึงจะแสดงพลัง ในคูหาได้ สักครั้ง นะ….สู้ว้อย….
แหล่งข้อมูล : กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง สำนักงาน คณะกรรมการ การเลือกตั้ง (กกต.)
…………………………………………………………………………………………
Leave a Response