เกษตรกรขอนแก่นแฮปปี้ หัวไชเท้าราคาดี พ่อค้ารับซื้อถึงสวน กก.ละ 6 บาท คาดในเร็วๆนี้ราคาทะลุ กก.ละ 10 บาทแน่ วอนหน่วยงานภาครัฐเข้ามาสนับสนุนงานวิชาการเน้นหนักการแปรรูป

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 20 ก.พ.2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจแหล่งปลูกหัวไชเท้ารายใหญ่ของ จ.ขอนแก่น ที่บ้านหนองโง้ง ม.3 และ ม.10 ต.บ้านแฮด อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น ซึ่งพบว่าเกษตรกรในพื้นมี่กำลังเก็บหัวไชเท้ามาล้างและบรรจุใส่ถุงเพื่อเตรียมไว้ให้พ่อค้าที่จะมารับซื้อถึงหน้าสวน โดย ราคาจำหน่ายหน้าสวนในช่วงนี้ ก.ก.ละ 6 บาท และมีแนวโน้มที่ราคาจะสูงขึ้นเป็น ก.ก.ละ 10 บาท

นายทวี ไชยชาติ กำนันตำบลบ้านแฮด กล่าวว่า พื้นที่อำเภอบ้านแฮด เป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับปลูกพื้นระยะสั้นอย่างหัวไชเท้า เนื่องจากพื้นที่ดินทราย ซึ่งพื้นที่ดินทรายจะมีปัญหาเรื่องการปลูกพืช แต่กลับเป็นจุดเด่นให้กับหัวไชเท้าของคนบ้านแฮด เพราะปลูกง่าย หัวใหญ่ หวานและกรอบ จึงทำให้บ้านแฮดเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดในการปลูก มีหัวไชเท้าของจังหวัด โดยจะมีพ่อค้ามารับซื้อถึงหน้าสวน ใน ก.ก.ละ 6 บาท และมีแนวโน้มที่ราคาจะสูงขึ้นเป็น ก.ก.งะ 10 บาท ในเร็วๆนี้

“ปัจจุบันมีเกษตรกรในพื้นที่ 4 หมู่บ้าน ปลูกหัวไชเท้าหลังสิ้นสุดช่วงฤดูทำนาปี คือที่ บ้านหนองไฮ ม.3, บ้านหนองโง้ง ม. 10 และบ้านแฮด โดย มีผลผลิตปีละกว่า 2,000 ตัน และขณะนี้ราคาหัวไชเท้า ถือว่าราคาดี จึงทำให้เกษตรกรอยู่ได้ เป็นพืชระยะสั้นที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้เพียง 45 วัน ซึ่งหัวไชเท้านั้น เป็นพืชกินหัวใต้ดิน ที่นิยมนำมาปรุงอาหารมีทั้งสารอาหาร สรรพคุณรักษาโรคตามตำรับยาพื้นบ้าน ช่วยป้องกันหรือรักษาปัญหาสุขภาพบางประการได้ เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง มะเร็ง แผลในกระเพาะอาหาร ริดสีดวง รวมถึงโรคเกี่ยวกับตับ อีกด้วย

นายทวี กล่าวต่ออีกว่า ในพื้นที่ 1 ไร่ จะ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรอย่างต่ำ 30,000 บาท ซึ่งถือว่าคุ้มกว่าปลูกพืชไร่ชนิดอื่นในช่วงเข้าสู่ฤดูแล้ง แต่ทั้งนี้บางช่วงราคาหัวไชเท้าตกต่ำ จะอยู่ที่ ราคา ก.ก.ละ 1 บาท โดยจะมีโรงงานมารับซื้อเพื่อนำไปแปรรูปเป็นหัวไชโป้วหวาน เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับราคาผลผลิตที่ตกต่ำ ทำให้เกษตรกรในพื้นที่มีการวางแผนในอนาคตว่าหากเป็นไปได้ จะต้องมีการแปรรูปหัวไชเท้า ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น และที่สำคัญยังใช้เป็นของขวัญของฝากของดีบ้านแฮดด้วย

“ต้องการใช้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาสนับสนุน ตั้งโรงงานแปรรูป เพื่อเป็นการต่อยอดให้เกษตรกร สามารถแก้ปัญหาในช่วงผลผลิตราคาตกต่ำได้ ซึ่งอาจจะมีการประกันราคาเกษตรกรสามารถขายได้ในราคาสูงกว่า 1 บาท ทำให้ชาวบ้านไม่ขาดทุน นอกจากนี้ยังวางแผนจัดการเรื่องการจัดการน้ำ หากมีการจัดสรรน้ำที่ดี เป็นระบบ จะทำให้มีการเพาะปลูกที่ได้ผลผลิตตลอดทั้งปี สำหรับตลาดจะส่งขายทั้งขอนแก่น, อุดรธานี, หนองคาย รวมทั้งภาคเหนือ ซึ่งจะมีพ่อค้ามารับซื้อถึงที่”