พ่อค้ากล้วยทอด ระบุได้แต่ทำใจเพราะก๊าซหุงต้มแพงขึ้นต่อเนื่อง ถ้าแนะให้ร้านปรับตัวคงทำอะไรไม่ได้ เปลี่ยนรัฐบาลใหม่จะง่ายกว่า และราคาก๊าซควรอยู่ที่ถังละ 400 บาทถึงจะเหมาะสม

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 1 มี.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. ครั้งล่าสุด ได้ประกาศปรับราคาขายปลีกก๊าซหุงต้มครัวเรือน หรือ แอลพีจี เพิ่มอีก 15 บาทต่อถัง 15 กก. โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ ซึ่งจะทำให้ราคาขายปลีกก๊าซหุงต้มขยับราคาขึ้นเป็น 423 บาทต่อถัง 15 กก. โดยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจการจำหน่ายสินค้าในประเภทต่างๆหลังพบว่ามีการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มขึ้น

โดยจากการลงพื้นที่สำรวจและพูดคุยกับร้านกล้วยทอด ริม ถ.รื่นรมย์ เขตเทศบาลนครขอนแก่น พบว่าได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มอย่างมาก ซึ่งพ่อค้าระบุว่าราคาที่ปรับขึ้นเช่นนี้ร้านคงทำอะไรไม่ได้นอกจากทำใจ และอยากให้รัฐบาลคนเก่งๆกว่านี้มาบริหารใครก็ได้ที่ไม่ใช่คนปัจจุบัน

นายพงษ์ศักดิ์ ศิริกุล เจ้าของร้านขายกล้วยทอดขอนแก่น อายุ 45 ปี กล่าวว่า เป็นข่าวดีของรัฐบาลแต่เป็นข่าวร้ายของประชาชนเพราะในเมื่อรัฐบาลประกาศปรับราคาขึ้นประชาชนจะทำอะไรได้นอกจากทำใจ ทั้งที่ทุกคนอยากให้มีการตรึงราคาช่วยออกไปอีก เพราะตอนนี้ราคาก็แพงมากอยู่แล้ว

“ส่วนน้ำมันปาล์มที่เคยแพงตอนนี้ลดลงแล้ว แต่ที่แพงขึ้นเรื่อยๆตอนนี้คือก๊าซหุงต้ม ดังนั้นถามว่าร้านต้องปรับตัวใดๆหรือไม่นั้น การปรับตัวคงไม่ต้องปรับอะไรไม่ได้แล้ว ได้แต่ทำใจอย่างเดียว แต่สิ่งที่ต้องปรับ คือเป็นการปรับเปลี่ยนรัฐบาลมากกว่าโดยให้คนอื่นมาทำ ซึ่งขณะนี้ ใกล้ยุบสภาถือว่าเป็นข่าวดีของประชาชน โดยส่วนตัวผมว่าให้คนอื่นมาทำเถอะ 8 ปีแล้ว ผมว่ารัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะเข้ามาทำได้แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นใคร ไม่รู้ว่าเป็นพรรคเพื่อไทย ก้าวไกล ภูมิใจไทยหรือพรรคอื่นๆ คิดว่าพรรคเหล่านี้ทำได้แต่ว่าถ้าเป็นรัฐบาลชุดปัจจุบันผมว่าทำไม่ได้แน่นอน”

นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า อยากจะฝากถึงรัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะได้รับเลือกตั้ง คืออยากจะให้ลงมาดูเรื่องความเป็นอยู่ของประชาชนให้มากขึ้น การค้าขายของพ่อค้า แม่ค้า เรื่องอุปโภคบริโภค ให้มีราคาถูกลง ส่วนของที่มีผลกระทบกับประชาชนโดยตรงอย่างก๊าซหุงต้มอยากให้มีการตรึงราคาไว้ถ้าไม่เกินถังละ 400 บาท ยังพอรับไหวแต่ถ้าเกินนี้แพงเกินไป

“ร้านใช้ก๊าซหุงต้มสัปดาห์ละ 3 ถัง ขายของยังไงถึงจะได้ทุนได้กำไร เพราะที่ปรับใหม่ 423 บาท มันแพงไปมันไม่สมดุลกับราคาสิ่งของที่ขาย ขายต่ำสุดราคา 20 บาท ไม่มีการปรับราคาขึ้นแต่อย่างใด กำไรน้อยลง สงสารผู้บริโภคสงสารลูกค้ายอมกำไรน้อยลงเราพอมีลูกค้าเดิมอยู่แล้วเพราะขายมาแล้ว 17 ปี จึงคิดว่าคนที่หนักกว่านี้ก็มี สิ่งที่ปรับขึ้นราคามามันเยอะสำหรับคนหาเช้ากินค่ำ จะให้เปลี่ยนไปใช้ถ่านคงเป็นไปไม่ได้เพราะไม่สามารถควบคุมไฟได้ ของให้ปรับมาอยู่ที่ ถังละ 400 บาท ก็ยังดี อยากให้คนเก่งๆกว่านี้มาบริหารใครก็ได้ที่ไม่ใช่คนปัจจุบันอย่าเอาน้ำลายทำงาน ถ้าเอาน้ำลายทำไม่มีทางสำเร็จ”