คืบหน้า หนุ่มคลั่งยา จี้เมียเป็นตัวประกัน อ้างโกรธให้เมียที่หนีไปทำแท้ง เช่ารถพร้อมคนขับมารับเมียที่ขอนแก่นหวังพากลับไปพัทยา คนขับตั้งสติใจดีสู้เสือแวะปั๊มเติมน้ำมันแล้วใช้อุบายไปกดเงินให้พลเมืองดีเรียกตำรวจให้ กระทั่งตำรวจเข้าระงับเหตุควบคุมตัวได้อย่างรวดเร็วโดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ตรวจสอบพบยาบ้า 8 เม็ด นอนคุกทั้งคู่

เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 8 มีนาคม 2566 ร.ต.อ.สมร สืบพันธุ์ รองสว.สอบสวนสภ.ท่าพระรับแจ้งจากศูนย์วิทยุ  191 ว่า มีเหตุผู้ชายสวมใส่เสื้อสีเหลือง ฉุดผู้หญิงลงจากรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า สี บรอนด์เงินทะเบียน ขก-8953 ชลบุรี ที่กำลังจอดเติมน้ำมันในปั้มปตท.หนองแวง ต.ท่าพระ

  หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.อ.ภูมี อีคะละ ผกก.สภ.ท่าพระ พ.ต.ท.สุรัตน์ วันทะมาตร รองผกก.สืบสวนสภ.ท่าพระ พ.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขเสริม สวป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่อีกหลายนายรุดไปที่ปั้มจุดที่เกิดเหตุ

 เมื่อไปถึงพบเพียงรถเก๋งจอดอยู่พร้อมคนขับรถ ทราบชื่อว่านายพงษ์ศักดิ์ สร้อยอาภรณ์ อายุ 55 ปี ยืนอยู่ข้างรถ  จึงทำการสอบสวน และกระจายกำลังกันออกตามหาหญิงที่ถูกฉุดลงจากรถ จนกระทั่งมีพลเมืองดี แจ้งว่า พบชายหญิงกำลังเดินอยู่ที่ตลาดท่าพระ 100 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไประงับเหตุและสามารถช่วยเหลือหญิงสาวรายดังกล่าวเอาไว้ได้อย่างปลอดภัย  ทราบชื่อว่า นางสาวมนัสมล จันทร์ชิรัตน์อายุ 26 ปีอยู่บ้านเลขที่ 210 ม.3 ต.กุดน้ำใส อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ส่วนฝ่ายชายที่เป็นคนก่อเหตุทราบชื่อว่า นายนเรศ จันทรัตน์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ซอยลาดปลาเค้า 55ต.จระเข้บัว ลาดพร้าว กทม. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวทั้งสองไปสอบสวนที่สภ.ท่าพระ

นายพงษ์ศักดิ์ สร้อยอาภรณ์ อายุ 55 ปี  กล่าวว่า มีอาชีพวิ่งรถรับจ้างอยู่ที่พัทยา และช่วงเช้าที่ผ่านมา ถูกนายนเรศเหมารถ มารับภรรยาที่อ.น้ำพอง ในราคา 6,500 บาทจ่ายล่วงหน้า 2,000 บาท จึงขับรถพานายนเรศมาหาภรรยาที่หมู่บ้านในอ.น้ำพอง  เมื่อเจอตัวภรรยา นายนเรศก็ฉุดขึ้นรถ และสั่งให้ขับรถกลับไปที่พัทยาทันที ตลอดเวลาที่นั่งในรถ  ก็จะได้ยินนายนเรศ ข่มขู่ ฆ่าและทำร้ายร่างกายภรรยาตลอดเวลา ภรรยาก็ร้องไห้ พร้อมกับร้องขอความช่วยเหลือ  พยายามจะจอดกรถตามตู้ยามตำรวจริมถนนมิตรภาพ แต่นายนเรศไม่ให้จอด กระทั่งน้ำมันรถจะหมด ขับต่อไม่ได้ จึงขอเข้าไปเติมน้ำมันที่ปั้ม ปตท. ขณะกำลังเติมน้ำมัน จึงออกอุบายว่า ไม่มีเงินสด ต้องไปกดเอทีเอ็มเอาเงินมาจ่ายค่าน้ำมัน  จากนั้นจึงลงจากรถเดินเข้าไปในร้านสะดวก และขอความช่วยเหลือจากพนักงานขาย  กระทั่งมีการแจ้งตำรวจมาช่วยเหลือหญิงสาวรายดังกล่าวเอาไว้ได้

นางสาว จารุวรรณ พลคุมพล อายุ 25 ปี พนักงานเสมียนปั๊ม เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตอนเกิดเหตุนั้นตนเองนั่งอยู่ในออฟฟิศ เห็นความผิดปกติที่ด้านนอก เหมือนมีเหตุวุ่นวายจึงมองส่องดูเห็นชายเสื้อเหลือก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ลักษณะเหมือนจูงมือแฟนสาวออกจากปั๊มไป โดยลักษณะไม่ใช่การจี้ ก่อนที่จะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุควบคุมตัวเอาไว้ได้อย่างรวดเร็ว ตนเองและพนักงานคนอื่นๆจึงได้ออกมาดูเหตุการณ์ ซึ่งก็อยู่ในความสงบแล้ว ก่อนที่ตำรวจจะควบคุมตัวผู้ก่อเหตุพร้อมแฟนสาว และคนขับรถคันที่ผู้ก่อเหตุนั่งมาไปที่โรงพัก

ทางด้าน พ.ต.อ.ภูมี อีคะละ ผกก.สภ.ท่าพระ กล่าวว่า เมื่อนำตัวชายหญิงมาถึงสภ.ท่าพระ  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ทำการสอบสวนนายนเรศ ทราบว่า เป็นแฟนกับฝ่ายหญิง และอยู่ด้วยกันที่พัทยา จนฝ่ายหญิงท้องแล้วหนีกลับมาที่บ้านในอ.น้ำพองและทราบว่าฝ่ายหญิงทำแท้งเอาลูกออก จึงเสียใจมาก และมาง้อภรรยา เพื้อจะเอาภรรยากลับไปอยู่ด้วยกัน แต่ภรรยาไม่ยอมและคุยกันไม่เข้าใจ ฝ่ายชายจึงข่มขู่ฝ่ายหญิง ฝ่ายหญิงจึงวิ่งหนีลงจากรถ ฝ่ายชายจึงวิ่งตามไป กระทั่งถูกตำรวจตามตัวเจอ

นอกจากนี้ยังได้ทำการตรวจค้นในตัวฝ่ายหญิง พบยาบ้าในเสื้อยกทรงจำนวน 8 เม็ด และฝ่ายหญิงยังรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับแฟนหนุ่มเสพยาบ้า และยาบ้าที่พบก็เป็นยาบ้าที่เตรียมไว้เสพด้วยกัน  จึงทำการตรวจปัสสาวะ พบเป็นสีม่วงทั้ง 2 คน จึงแจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพคิดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฏหมาย และข้อหาเสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฏหมาย และควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป///////////////