“ปะจัน” โดย “เขี้ยวจัน”
ที่นี่….ไม่ใช่คอลัมน์ร้องทุกข์ แต่เป็น การสังคมอุดมปัญญา ลุกขึ้นมา “ทวงสิทธิ” ของการเป็นพลเมืองผู้ตื่นรู้ เจ้าของคะแนนเสียงที่เลือก “ตัวแทน” ในทุกระดับ ของการปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารบ้านเมือง ด้วยข้าราชการ “ตัวแทน” จากส่วนกลาง ทุกกระทรวง ทบวง กรม…[ หน้ารวมบทความ ปะจัน ]
พลัน เมื่อ “ยุบสภา” ประเทศถูกกดปุ่ม เข้าสู่โหมดเลือกตั้งทันทีและทุกสื่อให้น้ำหนัก ให้ความสำคัญกับข่าวการเมือง สปอตไลต์ฉาดฉาย ไปยังนักการเมือง ทั้งในระดับท้องถิ่น ติดบ้านตัวเอง และการตามข่าวของนักการเมืองระดับประเทศ
เมื่อเป็นนักการเมือง คือ การเป็น “บุคคลสาธารณะ” ที่จะถูกพูดถึง เขียนถึง ถามถึง จึงเป็นเรื่องปกติ ใครทนไม่ได้ รับไม่ได้ คงต้องเปลี่ยนอาชีพ
Pain Point หรือ “จุดเจ็บ” ของชาวบ้าน ที่นักการเมือง หยิบขึ้นมา เป็นจั่วหัวเรื่องใหญ่ ชูเป็น “จุดขาย” อาสาเข้ามาเยียวยา ล้วนเป็นเรื่อง “ปากท้อง” หรือ ด้านเศรษฐกิจ ที่เป็นเรื่องใกล้ตัว แบบโดนๆ ท้องอิ่ม ย่อมอารมณ์ดี หิวโหย คงคุยกันไม่รู้เรื่อง
แต่ละพรรค จึงต้องขน ขุนพลทางเศรษฐกิจออกมาโชว์ หน้าตาและนโยบาย แต่ละค่าย “บิ๊กเนม” ว่ากันว่า ฐานเสียงในตลาดหุ้น คะเนว่า มากกว่า 3 ล้านคน–ไม่รวมครอบครัว และเครือข่าย
เมื่อ เสาร์ที่ 25 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา สภาธุรกิจตลาดทุนไทย จัดสัมมนา หัวข้อ “ นโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และตลาดทุนไทย ภายใต้รัฐบาล หลังการเลือกตั้ง” โดยการเชิญหัวหน้าพรรค หรือตัวแทน มาขึ้นเวที ที่อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อเล่าถึงนโยบายของพรรค ให้ประชากร ชาวหุ้น ได้รับฟัง เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ 9 พรรค ที่ตอบรับมา ใครเป็นใคร รับฟังกันได้ แต่ “ใครกับใคร” มาดูกัน……
วรภพ วิริยะโรจน์ –พรรคก้าวไกล หนึ่งในเจ็ดคน ของทีมเศรษฐกิจ มาด ดุดัน ตามสไตล์ของพรรค
ผศ. ดร. สันติ กีระนันท์–พรรคชาติไทยพัฒนา อดีตอาจารย์ นักวิชาการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผันตัวเอง สู่ภาคธุรกิจ เคยทำงานที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ลาออก เข้าวงการ การเมืองตามคำชวนของ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” เป็นหนึ่งในทีมสี่กุมาร ของพลังประชารัฐ แต่เมื่อก๊วนแตก ตั้งพรรคใหม่ไม่สำเร็จ จึงต่างเก็บกระเป๋าแยกย้าย วันนี้ ใส่หมวกทีมของ “เดอะท้อป–ค่ายบรรหารบุรี ” เป็นอีกคนที่หลงกลิ่นการเมือง จนถอนตัวไม่ขึ้น
กรณ์ จาติกวณิช–พรรคชาติพัฒนากล้า อดีตนักการเงิน มือดี ที่หันไปเล่นการเมืองในคราวที่ชื่อเสียงสุกงอม เคยนั่งเก้าอี้ “ขุนคลัง” เซ็นต์ชื่อในธนบัตร อำลาค่าย “พระแม่ธรณีบีบมวยผม” ไปตั้งพรรคใหม่ แต่สุดท้าย คงคลิ๊ก ลงตัวกับนักการเมืองรุ่นเก๋าส์ –“สุวัฒน์ “ แห่งเมืองย่าโม
สุพันธุ์ มงคลสุธี–พรรคไทยสร้างไทย นักธุรกิจระดับหมื่นล้าน เพิ่งก้าวลงจากตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ คะเนว่า คงสนิทสนม กับ “หญิงหน่อย” จึงสลัดคราบนักธุรกิจ เป็นนักการเมืองทันที
ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม–พรรคประชาธิปัตย์ มือเก่า ที่เก๋าส์ เสมอมา ของค่ายสีฟ้า เขาอยู่กับพรรคมาเนิ่นนาน จนน่าจะเป็นหนึ่งในโลโก้ ของพรรค ไปอีกคน นอกเหนือจาก “ชวน หลีกภัย”
ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล–พรรคพลังประชารัฐ อดีตคนแบงค์ชาติ ที่ก้าวออกมารับตำแหน่งเลขาธิการ สนง.ก.ล.ต. และลุกขึ้นไปรับเก้าอี้ รัฐมนตรี กระทรวงการคลัง ตามฝัน–ที่เป็นจริง เปลี่ยนฟอร์มเป็น คนปากกล้า เป็นคนในข่าว ที่วิพากษ์เดือดดาล มาวันนี้กลับขั้ว มาอยู่กับ “ลุงป้อม”
ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล–พรรคเพื่อไทย อดีตข้าราชการ ของ สนง.เศรษฐกิจการคลัง กระทรวง การคลัง ลาออกมา ตามฝันของตัวเอง ตามคำชวนของ “ภูมิธรรม เวชยชัย”
พุทธิพงศ์ ปุณณกันต์–พรรคภูมิใจไทย นักกิจกรรมที่โด่งดังตามน้องชาย–บรุ๊ค เมื่อชีวิตพ้นพงหนาม และไม่ได้รับการเหลียวแล จึงต้องดุ่มเดิน ออกไปอยู่กับชายคา “บ้านเสี่ยหนู–อนุทิน” รับเป็นแม่ทัพ ปักธง ลง กทม.
หม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร–พรรครวมไทยสร้างชาติ จากค่าย ปตท. และ ได้รับแต่งตั้งจาก ”รัฐบาลประยุทธ” ให้เป็นผู้แทนการค้าไทย คนแรก ของรัฐบาลประยุทธ เมื่อปี 2564 จึงเป็นคนคุ้นเคยที่ทำงานกันมานานแรมปี เป็นนักการเงินฝีมือดี ผ่านงานจาก “เจพีมอร์แกน” และเป็นกรรมการของเครือ ปตท. ถอดโงวเฮ้ง จากชื่อ แปลว่า “รุ่งเรืองด้วยชัยชนะ” บุตรชายของ “หม่อมราชวงศ์ยงสวัสดิ์” อดีตรองผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นน้องชายของ หม่อมหลวงปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี จึงเป็น น้าชาย ของ “ตั๊น–จิตต์ภัส” รอยยิ้มและวงแว่น เก๋ จริงๆ
ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า ช่วงฤดูกาลเลือกตั้ง จากนี้ไปจนถึง 14 พฤษภาคม 2566 –วันเลือกตั้ง คาดว่าจะมีเงินสะพัด มากกว่า หนึ่งแสนล้านบาท โอววว…
ฟังนโยบาย จากนักการเมือง เคลิ้มๆ เหมือนขายฝัน สะดุ้งตื่น…ฝันสลาย ไปเสียสิ้น…..
Leave a Response