ลุงบิลลี่ คนดังในโซเชียล เข็นรถเก็บขยะในพื้นที่อำเภอเขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น พูดอังกฤษเป๊ะเวอร์ เจ้าตัวเปิดใจขอเก็บขยะขายต่อไป ร่างกายแข็งแรงไม่มีโรคประจำตัวพร้อมเล่าประสบการณ์เข้าไปช่วยคลี่คลายปัญหาเรื่องการสื่อสารพ่อค้าแม่ค้าไก่ย่างกับลูกค้าชาวต่างชาติ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 30 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับตาเบิ้มหรือตาวิลลี่นายกฤษฏา ทรัพย์กมล อายุ 83 ปี อยู่บ้านเลขที่ 320 ม.10 บ้านจอมพล ต.คำม่วงอ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น หลังจากโซเชียลแชร์คลิปลุง เก็บขวดขาย พูดภาษาอังกฤษเป๊ะ ซึ่งก็พบตาวิลลี่ ที่กำลังเดินเข็นรถกลับจากเก็บขยะกลับมาที่บ้าน ตาวิลลี่น่าตายิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา ทั้งยังสื่อสารกับผู้สื่อข่าวด้วยภาษาอังกฤษที่ชัดเจนเหมือนเจ้าของภาษากันเลยทีเดียวและมีท่าทางคล่องแคล่วไม่เหมือนคนแก่วัย 83 ปี
ตาวิลลี่หรือ นายกฤษฏา ทรัพย์กมล กล่าวว่า ตอนหนุ่มๆไปทำงานที่ต่างประเทศทั้งที่เยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลี ซึ่งแต่ละประเทศมีภาษาแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่ที่ใช้สื่อสารคือภาษาอังกฤษ เมื่อไปมาหลายประเทศ ทำให้พูดภาษาอังกฤษได้และพูดเยอรมัน ฝรั่งเศส และอิตาลี ได้ด้วยเช่นกัน นอกจากพูดคุยกับผู้สื่อข่าวแล้ว ตาวิลลี่ ยังพูดภาษาอังกฤษเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมากินไก่ย่างที่เขาสวนกวางด้วย
“สิ่งของที่เก็บมาไม่ใช่ของเก่า แต่เป็นขยะ การเก็บขยะก็พบเจอกับชาวต่างชาติ มีโอกาสคุยกับคนต่างชาติบ่อยครั้ง เพราะจะมีกรุ๊ปทัวร์มาท่องเที่ยวที่สวนสัตว์ มาแวะรับประทานอาหาร มากินไก่ย่าง แต่ไม่มีใครพูดไทยได้ และคนขับรถก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ จึงเสนอตัวเข้าไปพูดช่วยบ่อยครั้ง และล่าสุดเมื่อ2วันที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวมากันหนึ่งคันรถ มาเดินวนไปวนมาอยู่หน้าร้านขายไก่ย่าง จนแม่ค้าตะโกนถามว่าจะทำอะไรต้องการอะไร ตนเองก็ได้เข้าไปพูดช่วยด้วยภาษาอังกฤษ ทำให้คลี่คลายปัญหาการสื่อสารแม่คนคนไทยกับลูกค้าชาวต่างชาติได้”
ตาวิลลี่ กล่าวอีกว่า ในเรื่องเก็บขยะขายนั้น เป็นความสุขและตั้งใจจะทำไปเรื่อยๆ ถือว่าได้ออกกำลังกายด้วย ส่วนเรื่องโรคภัยไข้เจ็บต่างๆห่างไกลโรงพยาบาลมานาน เพราะมียาดีและร่างกายแข็งจากการเดินเข็นรถเข็นเก็บขยะ และขยะต่างๆตนเองก็จะเลือกเอาที่ปลอดภัยและเป็นขยะจากอาหารคือขวด กระป๋องต่างๆ รวมทั้งได้มาจะนำมาล้างให้สะอาดด้วย ถ้าขยะกลุ่มไหนมีกลิ่นก็จะไม่ไปยุ่งจะปล่อยให้รถเก็บ ส่วนตนเองจะเก็บขยะที่ไม่มีกลิ่นเน่าเหม็น เก็บมาล้างใส่รถไว้ พร้อมทั้งเก็บกวาดพื้นให้สะอาดจนแม่ค้าบางคนอายไม่กล้าทิ้งขยะลงพื้นอีก ซึ่งตนเองก็มองว่าการเก็บขยะของตนนั้นนอกจากได้ออกกำลังกายแล้วยังช่วยให้ตลาดสะอาดน่ามาใช้บริการด้วย และแม่ค้าพ่อค้าแต่ละคนต่างมีน้ำใจกับตนเองมาก มีการต่อคิวเพื่อขอให้อาหารเครื่องดื่มในแต่ละมื้อด้วย ตนเองก็ไม่ได้ต้องการอยากให้คนนำมาให้ แต่ก็ต้องรับเพื่อให้คนที่ให้ได้สำเร็จในสิ่งที่พวกเค้าอยากแสดงน้ำใจกับเรา แต่ละวันขยะที่เก็บมานั้น ไม่ได้มีมูลค่ามากมายเต็มรถอย่างมากก็ไม่เกิน 20 บาท แต่สิ่งที่ได้รับมันมีค่ามากกว่าเงินจากการขายขยะเหล่านี้
ขณะที่นางหนู ทรัพย์กมล อายุ 78 ปี อดีตภรรยาตาวิลลี่ กล่าวว่า ตาวิลลี่เป็นชาวอ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี อยู่กินเป็นสามีภรรยากันตั้งแต่ตนอายุ 17ปี ตาวิลลี่ 21 ปี จากนั้นก็พากันมาอยู่ที่บ้านที่อ.เขาสวนกวาง ยึดอาชีพขายไก่ย่างไม้ละ 10 บาท มีลูกด้วยกัน 2 คน จากนั้นลุงก็ไปทำงานที่ต่างประเทศบ่อยครั้ง จนมีเรื่องไม่เข้าใจกันก็หย่ากัน ห่างกันไปหลายปี ตาวิลลี่ก็กลับมาอยู่ที่บ้านด้วยอีกครั้ง ซึ่งอยู่กันเหมือนเพื่อนพี่น้องมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนลูกก็มีครอบครัวกันหมดแล้ว
ป้าหนู กล่าวอีกว่า ตาวิลลี่ชอบพูดภาษาอังกฤษ และทักทายเพื่อนบ้านเป็นภาษาอังกฤษแต่ทุกคนคุยด้วยไม่ได้ จึงบอกให้ลุงพูดภาษา แต่ถ้ามีชาวต่างชาติมากินไก่ย่างที่ร้านขายไก่ย่างเขาสวนกวางริมทาง แต่สื่อสารกับทางร้านไม่ได้ ลุงก็จะเข้าไปช่วยพูดสื่อสารให้สองฝ่ายเข้าใจแลให้บริการกันได้ และลุงทำเช่นนี้มาร่วม 3 ปีแล้ว ส่วนการเก็บขยะหรือของเก่านั้น ลุงอยากทำเอง ไม่อยากอยู่เฉยๆ ครอบครัวจึงไม่ห้ามและทำติดต่อกันมาหลายปีแล้ว
ทางด้านนายดอน นารีจันทร์ อายุ 48 ปี เพื่อนบ้านกล่าวว่า ตาเบิ้ม หรือตาวิลลี่นั้น เป็นคนอัทธยาศัยดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น และในทุกๆวัน ลุงจะออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืดเพื่อไปเก็ยขยะและของเก่ามาขาย จากนั้นก็จะกลับมาที่บ้านในช่วงเที่ยง เพื่อมาล้างและคัดแยกสิ่งของก่อนนำไปขาย เมื่อขายเสร็จลุงก็จะออกไปเก็บขยะช่วงบ่ายอีกครั้งคนในพื้นที่จะชินกับการที่ลุงสื่อสารกับนักท่องเที่ยวที่สัญจรผ่าน เพราะลุงมักจะเป็นตัวแทนร้านค้าที่ขายไก่ย่าง สื่อสารกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
Leave a Response