สองหน่วยกู้ชีพ กู้ภัย ประกาศหยุดให้การช่วยเหลือทางการแพทย์จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น หลังไม่ได้รับเงินอุดหนุนจากสถานบันการแพทย์ฉุกเฉิน หรือ สพฉ.มานานหลายเดือน ทำให้ไม่มีเงินเติมน้ำมันรถออกช่วยเหลือเหตุ ซึ่งที่ผ่านมาต้องช่วยกันออกเงินเป็นค่าน้ำมันกันไปก่อน

คลิป

วันที่ 3 ก.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยกู้ภัยทางหลวงขอนแก่น ได้ออกหนังสือประกาศระงับการออกเหตุฉุกเฉินชั่วคราวจนกว่าสถานณการณ์จะดีขึ้น ทำให้รถกู้ภัยต้องจอดไว้มานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ภายหลังไม่สามารถออกให้บริการทางการแทพย์ฉุกเฉินได้เนื่องจากไม่ได้รับเงินอุดหนุนจากสถานบันการแพทย์ฉุกเฉิน หรือ สพฉ.มานานหลายเดือน ทำให้ไม่มีน้ำมันที่จะเติมให้กับรถกู้ภัย ที่มีประจำจุดไว้จำนวน 1 คันทำให้ต้องจอดรถทิ้งไว้ไม่สามารถออกช่วยเหลือ ตามคำขอจากศูนย์รับแจ้งเหตุและประสานงานการแพทย์ฉุกเฉินจังหวัดขอนแก่น (สายด่วน1669) ได้เหมือนเดิม

นายนิรันดร์ อุดมแก้ว ประธานหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงขอนแก่น บอกว่า หน่วยกู้ภัยทางหลวงขอนแก่น เป็นหน่วยงานที่ได้ขึ้นทะเบียนถูกต้องกับระบบสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินให้ออกเหตุช่วยเหลือประชาชน ทั้งด้านเจ็บป่วยฉุกเฉินและอุบัติเหตุบนท้องถนนตามคำสั่งของศูนย์ปฏิบัติการ 1669 เพื่อนำสงโรงพยาบาลให้ทันท่วงทีต่อการรักษาโดยทางหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงขอนแก่น จะได้รับเงินสนับสนุนในการออกรับเคสแต่ละครั้งจากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อนำมาเป็นคำใช้จ่ายในการเดิมน้ำมันเชื่อเพลิง ซื้อเวชภัณฑ์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ

แต่ขณะนี้ ทางสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินไม่ได้จัดสรรเงินดังกล่าวออกมา ให้กับหน่วยกู้ภัยทางหลวงขอนแก่น เป็นระยะเวลานานหลายเดือน จึงทำให้ขาดสภาพคล่องกับค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการออกเหตุช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะเงินที่นำไปเติมน้ำมัน โดยตนเองจะนำเงินส่วนตัว สำรองในหน่วยงานได้หมดลงและค่าใช้จ่ายติดลบ ทำให้ทางคณะกรรมการ หน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงขอนแก่นจึงได้ประชุมปรึกษาหารือ กันและมีความเห็นตรงกันว่า ให้อาสาสมัครและเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงขอนแก่นหยุดการออกเหตุช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน และผู้ประสบเหตุจากอุบัติเหตุไปก่อนตั้งแต่วันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น เพราะที่ผ่านมาทางหน่วยกู้ภัยทางหลวงขอนแก่น ได้ทำเรื่องเบิกกับทาง รพ.ขอนแก่น ตามปกติทุกเดือน แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบจาก สพฉ. แต่อย่างใด

พร้อมกันนี้ นายไพบูรณ์ นามโสม ประธานมูลนิธิเทพสิทธิมุณี ซึ่งได้มาให้ข้อมูลกับนักข่าว ว่า ทางมูลนิธิฯ ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ก่อนหน้านี้ก็หยุดให้บริการและให้บริการบ้าง เพราะตนเองก็ต้องหาเงินมาเติมน้ำมันรถ และจ่ายให้กับลูกน้องที่มาเข้าเวรคนละ300 บาท จำนวน 2 คน ทำให้เตรียมที่จะเรียกประชุมคณะกรรมการมูลนิธิฯ เพื่อเตรียมที่จะหยุดให้บริการ จนกว่าจะได้รับเงินอุดหนุน เพราะการแก้ปัญหาอยากให้ทาง สพฉ. ได้ลงมาดูในระดับล่างด้วย เพราะ ขณะหากไม่มีรถกู้ภัยที่กระจายครอบคลุมทั่วพื้นที่แล้ว จะกระทบกับการให้บริการ ซึ่งขณะนี้ มีเพียงมูลนิธิไม่กี่แห่งที่ยังสามารถให้บริการได้ อยากฝากไปยังว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ได้ลงมาแก้ไขปัญหานี้ด้วยพร้อมกับลงมาดูว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยของมูลนิธิหรือหน่วยกู้ภัยต่างๆว่ามีความเป็นอยู่ยังไงบ้าง