คืบหน้าสองสาวแสบ หลอกตีเนียนคนแก่ ก่อนลงมือฉกเอาทรัพย์สินไป ล่าสุดขอเข้ามอบตัว ปฏิเสธไม่ได้ขโมยเงิน อ้างมาขอเงินคุณตา เพราะรู้จักกันจากที่คุณตามาซื้อบริการ ตั้งใจหยิบกระเป๋าให้ตาขับตามมาแต่ก็ไม่มา กระทั่งเห็นวงจรปิดตัวเองในสื่อโซเชียลจึงขอมอบตัวแสดงความบริสุทธิ์ ส่วนของคุณยายหยิบกระเป๋าไปจริง แต่ไม่ได้ขโมยเงิน เพื่อนตั้งใจจะหายาหม่องมาดมแก้เมา เดินเข้าไปมั่วหยิบกระเป๋ามาแต่ค้นไม่เจอจึงโยนทิ้ง

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 30 สิงหาคม 2566 ที่สภ.โคกโพธิ์ไชย นางสาวรัชนีกร หรือหมิว อายุ 31 ปี ชาว ต.บ้านโคก อ.โคกโพธิ์ไชย จ.ขอนแก่น และนางสาวสุภาวดี หรืออิง อายุ 28 ปี ชาว ต.บ้านโคก อ ต.โคกโพธิ์ไชย จ.ขอนแก่น เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แสดงตัวเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์และลักทรัพย์คนชรา 2 ราย ในพื้นที่บ้านหินตั้งและบ้านหนองไผ่ทอง ต.ซับสมบูรณ์ อ.โคกโพธิ์ไชย จ.ขอนแก่น หลังจากมีภาพวงจรปิดบันทึกภาพขณะ 2 สาว ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี เป็นหลักฐาน ซึ่งในเบื้องต้น 2 สาว ยอมรับว่า เลิกกับสามี แล้วต้องเลี้ยงลูกคนเดียว ไม่มีงานทำ แต่ต้องการเงินไปเลี้ยงลูก จึงต้องออกหาเงิน โดยเลือกคุยกับคนชราที่เป็นผู้ชาย คนไหนยอมคุยด้วยก็ขอเงิน บางคนขอหลับนอนด้วย ก็ยอมเพื่อจะได้เงินซื้ออาหารเลี้ยงลูก ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นยานพาหนะนั้น ยืมผู้ชายที่เป็นกิ๊กมาใช้

หลังการสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อหา ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ จากนั้น พ.ต.อ.นำชัย ศรีเวียง ผกก.สภ.โคกโพธิ์ไชย และ ร.ต.อ.ไพศาล แสงวันดี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน นำตัว ผู้ต้องหา ไปชี้จุดก่อเหตุ ที่ 2 สาววิ่งราวทรัพย์นายทองสุข อายุ 63 ปี ริมถนนเส้นทางระหว่างหมู่บ้าน หนองหญ้าลังกา มาบ้านบ้านหนองไผ่ทอง และบ้านหินตั้ง ต.ซับสมบูรณ์ อ.โคกโพธิ์ไชย จ.ขอนแก่น และนางสี อายุ 82 ปีที่ที่นาด้านทิศตะวันตกของหมู่บ้านหินตั้ง

พ.ต.อ.นำชัย ศรีเวียง ผกก.สภ.โคกโพธิ์ไชย กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองยอมรับว่า ก่อเหตุจริง แต่ในส่วนขอวนางสีนั้น ผู้ต้องหา ยอมรับว่า เข้าไปหา และขอเข้าห้องน้ำ แล้วอิงก็เข้าไปรื้อค้นหายาหม่องในกระเป๋าผ้าสีขาวของยายในที่นอน แต่ไม่เจอ จึงหยิบเอากระเป๋าไปด้วย โดยที่ไม่มีเงิน 1,700 บาท ตามที่นางสีกล่าวอ้างนั้น เพราะไม่ได้เงินจริงๆ แต่สงสารยาย จะพยายามหาเงินมาให้ยายตามจำนวนดังกล่าว

ในส่วนการวิ่งราวทรัพย์ของนายทองสุข อายุ 63 ปี ที่หน้าปั้มน้ำหยอดเหรียญ ริมถนนเส้นทางระหว่างหมู่บ้าน หนองหญ้าลังกา มาบ้านบ้านหนองไผ่ทองนั้น ผู้ต้องหายอมรับว่า รู้จักกับผู้เสียหายและผู้เสียหายเคยให้เงินใช้ เมื่อเจอหน้ากัน ก็ขี่รถเข้าไปจอด เพื่อจะขอเงิน แต่กลัวคนอื่นได้ยินและเรื่องจะถึงหูภรรยาของนายทองสุข จึงไม่พูด จึงคว้าเอากระเป๋าสะพายที่ห้อยอยู่แฮนรถไป ได้เงิน 600 บาท ส่วนโทรศัพท์มือถือปฏิเสธว่าไม่มี และทำเช่นนั้น หวังให้นายทองสุขขี่รถตามไป แต่นายทองสุขไม่ตาม หลังจากชี้จุดก่อเหตุ พนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่น เพื่อดำเดินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป