แม่แรงงานไทย ไปทำงานที่อิสราเอล วอนทางการช่วยเหลือลูกชายกลับบ้าน ไปทำงานได้ไม่นานต้องมาเจอสถานการณ์ที่โหดร้าย ตอนนี้ยังไม่รู้ชะตากรรมของลูกอดคิดไม่ได้ว่าลูกตายไปแล้ว

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 10 ตุลาตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 43 ม.6 บ้านโคกสูง ม.6 ต.โนนธาตุ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของ นางหมวย นาจันทร์ อายุ 57 ปี แม่ของนายนายสุรศักดิ์หรือนายสด นาจันทร์ อายุ 27 ปี ซึ่งไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลและขาดการติดต่อจากเหตุการณ์สู้รบ ซึ่งยังไม่รู้ชะตากรรมว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร ขณะเดียวกันชาวบ้านในหมู่บ้านที่ทราบข่าวต่างเดินทาง มาถามไถ่และให้กำลังใจ

แม่นายสด ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า  ลูกชายคนเล็กที่ขาดการติดต่อ ไปนั้น ไปทำงานเป็นแรงงานที่อิสราเอลเกี่ยวกับการเกษตร เมื่อวันที่ 26 ต.ค.65 ก่อนจะเปลี่ยนมาทำฟาร์มวัว ซึ่งทุกวันที่ลูกไปทำงานตนเองและลูกชายมีการติดต่อพูดคุยกันตลอด ซึ่งลูกชายก็เล่าให้ฟังว่าไปแบบถูกกฎหมาย เจ้าหน้าที่ออกใบรับรอง ออกวีซ่าให้ถูกต้องทั้งหมดเลย และช่วงวันหยุดก็จะนั่งรถไฟฟ้าไปหาพี่ชาย ซึ่งทำงานอยู่อีกที่ กระทั่ง ช่วง15.00-16.00 น.วันศุกร์ที่ 6 ต.ค.66 ที่ผ่านมา เป็นการพูดคุยกันครั้งสุดท้ายก่อนจะติดต่อกันไม่ได้อีกเลยจนถึงขณะนี้ ถามลูกชายคนโตก็ติดต่อไม่ได้เช่นกัน ทราบเพียงว่าติดต่อน้องชายได้ล่าสุดคือวันเสาร์แล้วก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย มำให้ในหมู่บ้านเริ่มมีการถามไถ่กันว่าเห็นลูกของแต่ละคนไหมเพราะในหมู่บ้าน มีคนไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลรวม 8 คน ติดต่อได้แล้ว 4 คน เหลืออีก 4 คนยังไม่รู้ชะตากรรม ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีลูกชายของตนเองด้วย ซึ่งทำงานอยู่ใกล้กับฉนวนกาซ่าที่มีการสู้รบกัน

“หลังจากติดต่อกับลูกชายไม่ได้ จึงรีบเดินทางไปที่แรงงานจังหวัด ที่ตัวเมืองขอนแก่นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา อยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือตามหาลูกชาย เพราะว่าติดต่อไม่ได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่แรงงานจังหวัด ก็ได้รับเรื่องและจะติดต่อกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในการติดต่อประสานงานหาลูกชายให้ ในใจอดคิดไม่ได้ว่าลูกจะได้รับอันตรายจากเหตุการณ์ถึงขั้นเสียชีวิต เพราะไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย แต่ก็ภาวนาขอให้ร้ายกลายเป็นดี ขอให้ลูกได้หลบในบังเกอร์หลุมหลบภัย และไม่เกิดเรื่องร้ายๆกับลูก”

ลูกชายคนโตเดินทางไปทำงานที่อิสราเอลช่วงเดือน พ.ย.65 เล่าให้ฟังว่า ติดต่อสื่อสารกับน้องได้ล่าสุดวันเสาร์ ก่อนจะขาดการติดต่อไป และทางการ ที่ประเทศอิสราเอลนั้นมีความเข้มงวดอย่างมาก ไม่อนุญาตให้ใครออกมาหรือขับรถอย่างเด็ดขาด แม้จะอยู่ห่างจากจุดที่มีการสู้รบกันออกมาอีก และไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปในพื้นที่ใกล้กับฉนวนกาซ่า นอกจากนี้การหลบภัยของลูกชายคนโตก็ยังเป็นไปด้วยความยากลำบากเช่นกัน ตอนนี้ได้แต่ภาวนาให้ลูกทั้งสองปลอดภัยโดยเฉพาะลูกคนเล็กที่ยังติดต่อไม่ได้ไม่รู้ชะตากรรมเป็นอย่างไรในขณะนี้ ถ้าลูกมีชีวิตมีชีวิตอยู่รอดปลอดภัยเรื่องการทำงานคงให้ลูกเป็นคนตัดสินใจว่าจะทำงานต่อหรือไม่ทำ