วินาทีเมียนายทุนโหด ใช้โทรโข่งเกลี้ยกล่อมทิ้งอาวุธมอบตัว หลังก่อเหตุยิงลูกหนี้ได้รับบาดเจ็บ ฉุนทวงดอกเบี้ยไม่ยอมจ่าย โดยใช้เวลากว่า 2 ชม.จึงยอมทิ้งปืนเดินออกจากป่า ก่อนควบคุมตัวดำเนินคดี 3 ข้อหา เตรียมส่งฟ้องศาลฝากขังพรุ่งนี้ โดยตำรวจคัดค้านการประกันตัวทั้งในชั้นตำรวจและในชั้นศาล
นี่เป็นคลิปที่ภรรยาของนายนุ อายุ 36 ปี ทุนเงินกู้ ใช้โทรโข่งของตำรวจเกลี้ยกล่อมให้สามีทิ้งปืนออกมา ขอให้ตั้งสติมีสติกลับมาเจอลูกเมีย ยืนยันว่าตำรวจจะไม่ทำอะไร ก่อนจะใช้เวลาพูดคุยเกลี้ยกล่อมอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมง จึงยอมทิ้งปืนลงพื้น และยกมือขึ้นเดินออกจากป่าที่นายนุหลบหนีมา ก่อนที่ทางตำรวจชุดสืบสวนจะเข้าควบคุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 16 ต.ค.2566 ที่ สภ.บ้านเป็ด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้ากรณีนายทุนเงินกู้โหด บุกบ้านยิงลูกหนี้ ฉุนไม่จ่ายดอกเบี้ย เหตุเกิดที่บ้านม่วงโป้ หมู่ 4 ตำบลสาวะถี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น มีนางอุทัยทิพย์ ไมล์โพธิ์ อายุ 49 ปีพี่สาวเจ้าของบ้าน ถูกยิงที่บริเวณไหล่ ด้านหน้าข้างขวาจำนวน 1 นัด และ ใต้รักแร้ขวา จำนวน 1 นัด ญาติพี่น้องนำคนเจ็บส่งรพ. ส่วนมือปืนที่ยิง เป็นนายทุนเงินกู้ ชื่อว่านายอนุ หรือนุ นั้น
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ผู้สื่อข่าว ได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.ณชรต แก้วเพชร ผกก.สภ.บ้านเป็ด ถึงการสืบสวนจับกุม นายอนุ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ม.15 บ้านหินขาว ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น มือปืนที่ยิงลูกหนี้บาดเจ็บว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเย็นวันที่ 15 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด รับแจ้งเหตุ มีเหตุคนถูกยิงบาดเจ็บในบ้านไม่มีเลขที่ บ้านม่วงโป้ ม.4 ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น
จึงลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุ พบรอยเลือดกระจายเต็มพื้นบ้านภายในบ้านไม่มีเลขที่ เป็นบ้านของ นางสาวเสาร์พล พุมซะ อายุ 47 ปี น้องสาวคนเจ็บ ส่วนคนเจ็บทราบชื่อว่า นางอุทัยทิพย์ ไมล์โพธิ์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 ม.24 ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น ญาติพี่น้องได้นำคนเจ็บไปส่ง รพ.ก่อนที่ตำรวจจะไปถึง ส่วนคนก่อเหตุทราบชื่อว่านายนุ หลังเกิดเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ คาวาซากิ Z-900 สีเทาแดง ทะเบียน 2 กบ-6336 ขอนแก่น หนีไปทางบ้านป่าหวายนั่ง อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ห่างจากที่เกิดเหตุไปประมาณ 10 กม.
จากนั้น พ.ต.ท.สุทัศน์ ไพบูลย์ รองผกก.สืบสวน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านเป็ด จึงติดตามหาตัวผู้ต้องหาไป ประมาณ 10 กม.พบรถจักยานยนต์จอดอยู่ริมถนน มีป่าหญ้าและป่าต้นยูคาลิปตัส เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอกำลังเสริมและให้พ่อตาพร้อมภรรยา เข้ามาเกลี้ยกล่อม ประมาณ 2 ชม.จึงยอมวางปืน แล้วเดินออกมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวเอาไว้ นำตัวไปสอบสวน พร้อมอาวุธปืนขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก มีกระสุนปืนในรังเพลิง 3 นัด และกระสุนปืนขนาด .38 ในกระเป๋าสะพายอีก 8 นัด
ผกก.กล่าวอีกว่า จากการสอบสวน นายอนุ ให้การรับสารภาพว่า ได้เสพยาบ้าเข้าไป จากนั้นก็ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน ขณะขี่ผ่านบ้านนางสาวเสาร์พล พุมซะ อายุ 47 ปี น้องสาว นางอุทัยทิพย์ ไมล์โพธิ์ อายุ 49 ปี ก็พบนางอุทัยพิมพ์ นั่งอยู่ในบ้าน จึงจอดรถจักรยานยนต์แล้วทวงถามเอาดอกเบี้ยที่ลูกหนี้ยังไม่จ่าย แต่คุยกันไม่รู้เรื่อง ด้วยความโมโหจึงควักอาวุธปืนที่พกติดตัว ยิงเข้าไปในบ้าน
ผกก.กล่าวอีกว่า มูลเหตุที่เกิดขึ้น เกิดจากเรื่องเงินกู้ เนื่องจากสามีของคนเจ็บหรือสามีของลูกหนี้นั้นเสียชีวิต คนเจ็บไม่มีเงินจัดงานศพให้สามี จึงขอยืมเงินจากนายนุ 10,000 บาท หักดอกเบี้ย 3,000 บาท โดยตกลงกันว่า งานศพสามีเสร็จจะเอาเงินมาคืนให้ครบ ปรากฏว่าคนเจ็บทยอยจ่ายเงินต้นจนครบ 10,000 บาท แต่ไม่ยอมจ่ายดอกเบี้ยรายวันๆละ 400 บาท ตามที่ตกลงกันไว้ จึงมีการทวงถามเอาดอกเบี้ยที่ตกลงกันไว้ แต่คนเจ็บไม่ยอมจ่าย เมื่อนายนุขับขี่รถออกจากบ้านไปเจอลูกหนี้ จึงทวงถามเอาดอกเบี้ย แต่ลูกหนี้ไม่จ่าย จึงยิงจนบาดเจ็บดังกล่าว
ภายหลังการสอบสวน จึงได้ทำการตรวจปัสสาวะในร่างกาย พบว่าปัสสาวะเป็นสีม่วง จึงแจ้งข้อหา พยายามฆ่า,พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต,ข้อหาบุกรุกเคหสถานและห้อหาเสพยาเสพติดให้โทษโดยผิดกฎหมาย ส่วนการปล่อยเงินกู้นั้น ผู้ต้องหาให้การว่า ได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศใต้หวัน จึงมีเงินก้อน มีเพื่อนบ้านและคนรู้จักมากู้ยืม และผ่อนจ่าย เก็บดอกเบี้ยตามที่ตกลงกัน แต่ไม่ได้ปล่อยเงินกู้รายวัน ส่วนการก่อเหตุในครั้งนี้ ผู้ต้องหายืนยันว่าไม่มีเจตนาหรือตั้งใจไปยิง ซึ่งพนักงานสอบสวนจะนำตัวส่งฟ้องฝากขังที่ศาลในวันที่ 17 ตุลาคม 2566 และคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนและขอคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาลด้วย
Leave a Response