ขอนแก่น ผวาเป๋49ปี คลั่งรักสาว16ปี มุดรั้วงัดบ้านจู่โจมห้องนอน

202310-012

ผวาเป๋คลั่งรักเยาวชน 16 ปี มุดรั้วเข้าไปงัดบ้าน จู่โจมห้องนอน แต่ไม่สำเร็จ ยายเผย เคยแจ้งกำนันช่วยเรียกมาคุยตกลงห้ามยุ่งเกี่ยวกัน คนก่อเหตุสารภาพรักต่อหน้าครอบครัว ก่อเหตุมาแล้ว 2 ครั้ง ก่อนก่อเหตุซ้ำล่าสุดเป็นครั้งที่3 พฤติกรรมหนักขึ้นหวั่นเป็นภัยอันตราย วอนตำรวจเร่งล่าตัวดำเนินคดี

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 16 ตุลาคม 2566 นางลักษณ์  อายุ 60 ปี อยู่บ้านกุดนางทุย ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ภายหลังเดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.กฤติเดช จันทร์ลา รองสว.สอบสวนสภ.บ้านเป็ด ว่า มีนายสุพจน์  อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 ม.9 บ้านกุดนางทุย บุกรุกและงัดบ้าน เข้าไปในบ้าน จำนวน 3 ครั้งแล้ว ครั้งแรกไม่มีหลักฐาน แต่ครั้งที่ 2-3 มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด จึงอยากให้ตำรวจทำการจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ด้วย

โดยที่เกิดเหตุบ้านของผู้เสียหาย เป็นบ้านปูนชั้นเดียว 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ห้องนอนยายอยู่ห้องที่ 1 หลานสาวอยู่ห้องที่ 2 ส่วนน้าสาวอยู่ห้องที่ 3 มีรั้วติดกับบ้านของผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ทาสีเขียว แต่ไม่พบตัวคนก่อเหตุ

นางนงลักษณ์  อายุ 60 ปี เจ้าของบ้านและเป็นยายของหลานสาววัย 16 ปี ที่มีห้องนอนอยุ่ตรงกลางของบ้าน พาผู้สื่อข่าวเดินดูรั้วที่อยู่ติดกับบ้านของผู้ก่อเหตุ เป็นรั้วปูน ที่มีลวดหนามขั้นระหว่างกลาง แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้น ยายได้เอาสังกะสีเก่ามาปิดทับรั้วลวดหนาม เพื่อไม่ให้คนก่อเหตุ ปีนเข้ามาอีก

นางนงลักษณ์ กล่าวว่า หลานสาววัย 16 ปีนั้น เลี้ยงมาตั้งแต่เกิดเพราะพ่อแม่เลิกกัน หลานสาวเป็นคนไม่สุงสิงกับใคร และไม่เคยคุยกับคนก่อเหตุ กระทั่งวันที่ 3 กันยายน 2566 นายพจน์ได้มุดรั้วเข้ามาในบ้านในช่วงเวลา 5 ทุ่มกว่า มางัดหน้าต่างห้องหลานสาว เรียกให้หลานสาวตื่นมาคุย หลานสาวตกใจ ตะโกนให้ย่ากับน้าสาวมาช่วย และเป็นเรื่องที่ครอบครัวไม่ยอม นำเรื่องแจ้งกำนันให้ทราบ กำนันเรียกคุยกัน ฝ่ายนายสุพจน์ ยอมรับว่า มุดรั้วเข้าไปหาหลานสาวจริง เพราะเป็นเรื่องปกติที่ผู้ชายเห็นสาวๆก็รักก็ชอบ แต่จะไม่เข้าไปอีก และขอจ่ายค่าทำขวัญให้5000 บาท ทุกอย่างก็จบไป และไม่มีการแจ้งความ

ต่อมาวันที่ 13 กันยายน 2566 นายพจน์ก็ปีนรั้วเข้ามาในบ้านในตอนกลางคืนอีก หลานก็ตะโกนขอความช่วยเหลืออีก ซึ่งครั้งที่ 2 นั้น มีวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้ จึงไม่เจรจา แต่นำภาพเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.บ้านเป็ด ให้จับกุมนายสุพจน์ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

นางนงลักษณ์ กล่าวอีกว่า หลังแจ้งความก็ไม่มีความคืบหน้า ส่วนนายสุพจน์ก็ชอบมานั่งมอง ยืนมองที่ข้างรั้ว เห็นหลานสาวในบ้าน ก็จะช่วยตัวเองสำเร็จความใคร่อยู่ข้างรั้วประจำ แต่ไม่สนใจ เพราะไม่อยากยุ่งด้วย กระทั่งล่าสุดวันที่ 12 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ช่วงประมาณตีหนึ่ง หลานสาวตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครได้ยิน จึงโทรศัพท์มาบอกว่า มีคนเข้ามาในบ้าน และพยายามงัดประตูห้อง จึงรีบถืออาวุธมีดออกจากห้อง เข้าไปดูในบ้าน แต่ไม่พบคนร้าย จึงให้ลูกสาวเปิดดูกล้องวงจรปิด ก็เห็นภาพนายสุพจน์ งัดประตูเข้าไปในบ้าน จึงนำหลักฐานไปให้ตำรวจเพิ่มเติม เพื่อเป็นหลักฐานในการจับกุมตัวนายสุพจน์มาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ไม่มีความปลอดภัยกับหลานสาว เพราะนายสุพจน์ บอกว่า รักและชอบหลานสาวมาก ตามประสาผู้ชายรักผู้หญิงที่เด็กและสาว จึงคิดว่านายสุพจน์คลั่งรักหลานสาว อาจจะก่อเหตุร้ายขึ้นก็ได้

ทางด้าน พ.ต.อ.ณชรต แก้วเพชร ผกก.สภ.บ้านเป็ด กล่าวถึงกรณีเหตุบุกรุกที่เกิดขึ้นในครอบครัวของนางลักษณ์ ศรศักดิ์ดา ชาวบ้านกุดนางทุย ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น ที่ว่าคนก่อเหตุ หลงรักหลานสาว จนมุดรั้ว ปีนกำแพงเข้าไปในบ้าน ในยามวิกาลว่า ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุ และตรวจสอบหาตัวคนก่อเหตุแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่พบตัว จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับนายสุพจน์ พรมโสดา ในข้อหา บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน ส่วนข้อหาอื่นๆหากจับกุมตัวได้ก็จะนำตัวมาสอบสวน และตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย และถ้ามีสารเสพติดก็จะแจ้งข้หาเพิ่มและควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฏหมาย

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง