หดหู่ ลูกสาว 4 ขวบ ร้องขอโทรศัพท์จากแม่ ขอโทรหาพ่อที่ไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล โดยที่หนูน้อยยังไม่รู้ว่าพ่อถูกกลุ่มฮามาสยิงเสียชีวิตแล้ว ภรรยาต้องเข้มแข็ง ยังทำใจไม่ได้ที่จะบอกลูกว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว ทำได้แค่บอกว่าพ่อไม่ว่าง ให้รอก่อน ส่วนศพยังอยู่ระหว่างการตรวจอัตตลักษณ์ของทางการอิสราเอลเพื่อนำร่างกลับไทย

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 19 ต.ค.2566 นางสาวขวัญชนก ชมชื่น อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 188 ม.1 ต.หลวงใต้ อ.งาว จ.ลำปาง พร้อมด้วยน้องเมจิ ลูกสาววัย 4 ขวบ ภรรยาและลูกสาวของนาย อภิชาต กุสะรัมย์ อายุ 29 ปี ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุสงครามในประเทศอิสราเอล เดินทางมาที่บ้านสามี ในพื้นที่บ้านโคกสูง หมู่ 6 ต.โนนธาตุ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น พร้อมกับลูกสาวเพื่อช่วยจัดเตรียมงานศพพี่ชายสามี คือนาย พงษ์เทพ กุสะรัมย์ อายุ 26 ปี ลูกชายของนายลำเพยอีกคนที่ไปทำงานและเสียชีวิตพร้อมกัน ซึ่งทางหน่วยงานราชการจะนำศพกลับมาประเทศไทย ก่อนจะนำศพกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านโดยจะถึงในวันพรุ่งนี้

ในขณะที่ภรรยานายอภิชาต ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวอยู่นั้น น้องเมจิ ลูกสาววัย 4 ขวบ ขออยู่กับแม่ตลอดเวลา และขอโทรศัพท์จากแม่บอกว่าขอโทรหาพ่อ ซึ่งน้องเมจินั้น ยังไม่ทราบการเสียชีวิตของพ่อ โดยแม่ต้องบอกลูกสาวว่าพ่อไม่ว่าง พ่อทำงานอยู่ ถ้าพ่อว่างเดี๋ยวพ่อจะโทรกลับมา

นางสาวขวัญชนก ภรรยานายอภิชาต กล่าวว่า อยู่กินกับสามีและสร้างครอบครัวมาด้วยกัน  ซึ่งสามีบอกว่าจะไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลกับน้องชาย เพื่อเก็บเงินสร้างบ้าน และเมื่อสามีเดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลก็จะโทรศัพท์มาหาตนกับลูกทุกวัน

“ช่วงเช้าวันที่ 7 ตุลาคม 2566 สามีแชทมา บอกว่า มีเหตุสู้รบกันในพื้นที่อย่างรุนแรง แล้วสามีก็เงียบหายไป ติดต่อกลับก็ติดต่อไม่ได้ กระทั่งวันที่ 9 จึงทราบข่าวว่า สามีและน้องชายถูกยิงตาย ก็รู้สึกเสียใจ คิดถึง แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร สงสารลูกหลังจากพ่อหายเงียบไป ลูกก็ให้ติดต่อหาพ่อทุกวัน จึงบอกลูกได้เพียงว่า พ่อทำงาน พ่อไม่ว่างคุยโทรศัพท์ เพราะลูกสาววัยเพียง 4 ขวบ จึงยังไม่ได้บอกความจริงเรื่องพ่อ”

นางสาวขวัญชนก  กล่าวอีกว่า ได้โทรศัพท์คุยกับปู่ตลอด ซึ่งพ่อก็ทราบข่าวเรื่องลูกเสียชีวิตทั้ง 2 คน จึงพาลูกสาวมาหาพ่อปู่ที่ขอนแก่น และจะอยู่รอช่วยจัดงานศพให้น้องชาย และอยู่กับพ่อ รอรับศพสามี เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาให้เรียบร้อย จึงจะพาลูกสาวเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดลำปาง