ลูกสาววัย 22 ปี ของผู้เสียชีวิตชาวจังหวัดขอนแก่นจากเหตุความรุนแรงในอิสราเอล เผยเรื่องราวสุดเศร้า ผู้เป็นพ่อถูกกลุ่มฮามาสฆ่าตายในวันครบรอบวันคล้ายวันเกิดของตนเอง วันเกิดเหตุโทรศัพท์หาพ่อเพื่อขอพรวันเกิด แต่ติดต่อพ่อไม่ได้ กระทั้งมาทราบว่าพ่อเสียชีวิต
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 ที่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 9 บ้านโนนทัน ต.ดอนดั่ง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนายพิทักษ์ โทแหล่ง อายุ 54 ปี ชาว อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น แรงงานไทยที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความรุนแรงในประเทศอิสราเอล นางสาวอรนภา โทแหล่ง หรือ เปรี้ยว อายุ 22 ปี ลูกสาวของนายพิทักษ์ ผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวกรณีการเสียชีวิตของผู้เป็นพ่อ ว่าขณะนี้ตนเองและญาติพี่น้องยังเศร้าโศกเสียใจกับการสูญเสียในครั้งนี้ โดยเฉพาะสภาพจิตใจของตนเองก็ยังไม่เข้มแข็งมากพอ เพราะการจากไปของพ่อตรงกับวันครบรอบวันคล้ายวันเกิดปีที่ 22 ของตนเอง ซึ่งตั้งใจเอาไว้ว่าจะโทรไปหาพ่อเพื่อขอพรวันเกิด ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนเองจะทำเป็นประจำทุกปีในวันครบรอบวันเกิด แต่ก็ไม่สามารถติดต่อพ่อได้ และเพื่อนของพ่อก็โทรมาหาตนเองว่า โทรหาพ่อไม่ติดเช่นกัน และยังบอกให้ตนเองรู้ว่า มีระเบิดลงในพื้นที่ที่พ่ออาศัยอยู่ จึงบอกให้ตนเองพยายามโทรหาพ่อ แต่ไม่ว่าจะโทรหาอย่างไรก็ติดต่อพ่อไม่ได้ จนกระทั้งวันที่ 9 ต.ค. จึงได้สอบถามไปที่นายจ้างของพ่อ ก็ได้รับคำตอบว่า พ่อเสียชีวิตแล้ว อีกทั้งมีคนส่งภาพที่คนนอนเสียชีวิตที่หน้าโรงงานที่พ่อทำงานอยู่มาให้ให้ดูโดยยืนยันว่า ผู้เสียชีวิตในภาพของพ่อของตนเอง แต่ตอนนั้นตนเองยังไม่เชื่อ จึงขอนายจ้างของพ่อว่า หากมีคนไปเก็บศพช่วยถ่ายภาพใบหน้ามาให้ดูได้ด้วย เพื่อจะได้รู้ว่าผู้เสียชีวิตนั้นเป็นพ่อของตนเองจริงหรือไม่ ซึ่งตอนแรกคนที่ถ่ายภาพมา ไม่ยอมส่งภาพมาให้เพราะกลัวว่าตนเองจะรับไม่ได้ แต่ท้ายที่สุดตนเองก็ขอว่า ให้ส่งมาให้ดูเถอะ เพราะจะได้รู้ว่าผู้เสียชีวิตเป็นพ่อจริงหรือไม่ เมื่อตนเองได้เห็นภาพนั้น ก็รับรู้ได้ทันทีว่า ผู้เสียชีวิตคือพ่อของตนเองจริงๆ
นางสาวอรนภา กล่าวต่อว่า ตนเองและญาติพี่น้อง ได้อยู่กับพ่อครั้งสุดท้ายเมื่อเดือน มิ.ย.2565 เนื่องจากพ่อกลับมาเยี่ยมบ้านที่ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น โดยมาอยู่ประมาณ 10 วัน หลังจากที่พ่อกลับไปทำงานที่อิสราเอลก็ยังโทรศัพท์หา วีดีโอคอลหาพูดคุยกันอยู่ตลอด กระทั้งพ่อมาจากไป ซึ่งหลังจากทราบแน่ชัดว่าพ่อเสียชีวิต ตนเองก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะนำศพของพ่อกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด เริ่มตั้งแต่เข้าไปดูเพื่อนในเฟซบุ๊คของพ่อ แล้วส่งภาพพ่อไปสอบถามว่า พบเจอร่างของพ่อบ้างไหม ตอนนี้ร่างพ่อถูกนำไปเก็บไว้ที่ไหนแต่ก็ไม่มีใครทราบ ตนเองจึงติดต่อไปยัง “น้องจีมี่” ซึ่งเป็นน้องสาวต่างมารดาของตนเอง ที่อาศัยอยู่ที่ประเทศอิสราเอลกับคุณยายชื่อ “ออรี่” โดยได้พูดคุยกันและบอกกับน้องสาวว่า ให้ช่วยพาร่างพ่อกลับมาเมืองไทยได้หรือไม่ น้องสาวก็รับปากว่า จะพาร่างพ่อกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่เมืองไทยให้ได้
สำหรับนายพิทักษ์ โทแหล่ง อายุ 54 ปี เป็นชาว จ.ขอนแก่น รายที่ 4 ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความรุนแรงในอิสราเอล โดยถูกกลุ่มฮามาสยิงเสียชีวิตขณะกำลังขับรถยนต์ไปทำงาน ซึ่งนายพิทักษ์ ได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลนานกว่า 20 ปี และได้แต่งงานมีครอบครัวใหม่ และยังเป็นบุคคลที่มี 2 สัญชาติ ก่อนจะเสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ ได้เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดที่อำเภอหนองสองห้อง เมื่อปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ โดยทางครอบครัวจะมีการประกอบพิธีสวดอภิธรรมศพ 2 คืน ก่อนจะมีการฌาปนกิจศพส่งดวงวิญญาณเป็นครั้งสุดท้ายที่วัดในหมู่บ้าน
Leave a Response