ผู้ช่วยวิศวกรโครงการรถไฟความเร็วสูง ไม่ไปทำงาน หายออกจากบ้าน กลายเป็นศพเน่าเฟะในโกดังร้าง ญาติไม่ติดใจการตาย คาดเกิดหน้ามืด ล้มลง ใบหน้ากระแทกพื้น สลบไม่ได้สติและเสียชีวิต

 เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 2 พฤศจิกายน 2566  ร.ต.ท.มนัส ประจันตเสน รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านแฮด รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า มีชาวบ้านพบศพคนเสียชีวิต ในโกดังร้าง ด้านทิศเหนือของบ้านหนองแวงโอ่ง ตำบลในเมือง อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น และญาติคนตายยืนยันว่า คนตายคือคนคนเดียวกับคนที่ญาติแจ้งความคนหายไว้ที่สภ.บ้านแฮด เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ขอให้ไปตรวจที่เกิดเหตุและชันสูตรศพด้วย

จากนั้นจึงได้ไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ โสภา ผกก.สภ.บ้านแฮด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเข้าไปดูในจุดที่พบศพคนตาย แต่พบรถจักรยานยนต์  ยี่ห้อ ฮอนด้า สกูปปี้ไอ สีฟ้า ทะเบียน ขขน-285 กาฬสินธุ์ จอดอยู่บริเวณทางเข้าโกดัง  เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเข้าไปในโกดัง ก็พบศพคนตาย เป็นชาย สภาพศพคว่ำหน้ากับพื้นดิน นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ ใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีขาว ที่เท้ายังใส่ร้องเท้าอยู่ ที่นิ้วมือนิ้วกลางข้างซ้าย ยังสวมแหวนอยู่   เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้หน่วยกู้ภัยพุทธญาณสมาคม เต็กก่า จีเยี้ยงเกาะ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ทำการพลิกศพขึ้นมา  ก็ไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้าย มีเพียงหนอนที่ไต่ยั้วเยี้ยะทั่วตัว

ซึ่งเมื่อพี่สาวเห็นศพ เห็นเสื้อผ้า เห็นแหวนที่นิ้วมือ ก็ยืนยันว่าคนตายคือ นายภาวิต  แสงฉลวย อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 530 ท.1 ต.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ปัจจุบันทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รถไฟ ที่สถานีรถไฟโนนศิลาและเพิ่งถูกย้ายไปประจำอยู่ที่สถานีรถไฟปากช่อง จ.นครราชสีมา

ทางด้าน นายพลวุฒิ นาตะวันดี หัวหน้าสถานีรถไฟปากช่อง เปิดเผยว่า นายภาวิต ปฏิบัติงานเป็นผู้ช่วยวิศวกรโครงการรถไฟความเร็วสูง มีความขยันทำงานและไม่พบว่ามีความเครียดในเรื่องงานแต่อย่างใดและชอบออกกำลังกายเป็นปกติเหมือนคนวัยทำงานทั่วไป แต่การทำงานไม่ค่อยเป็นเวลาทำให้ไม่ได้ออกกำลังกายตามปกติ แต่ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้นายภาวิต เครียด  และในช่วง ปลายเดือนตุลาคม ที่ผ่านมานายภาวิต ไม่ได้ไปทำงานก็มาตามหาที่บ้าน ที่อำเภอบ้านไผ่ แต่ก็มะบ จนกระทั่งทราบจากญาติว่าเสียชีวิตแล้ว จึงเดินทางมาดูศพ ซึ่งก็ใช่นายภาวิตจริง

พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ โสภา ผกก.สภ.บ้านแฮด  กล่าวภายหลังตรวจที่เกิดเหตุว่า  จากการสอบสวนพี่สาวคนตาย  ทราบว่า นายภาวิต เป็นคนขยันทำงาน และรับผิดชอบต่อครอบครัว เรื่องหนี้สินอะไรก็ไม่มี  แต่เมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา นายภาวิต บ่นเรื่องอาการปวดแสบทางสายตา และอาการป่วยต่อมลูกหมาก อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คิดมาก  ในช่วงเวลาพัก จึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ที่โกดังร้าง แล้วเกิดหน้ามืด ล้มลง ใบหน้ากระแทกพื้น สลบไม่ได้สติและเสียชีวิตก็เป็นได้

ส่วนเรื่องอื่นๆญาติยืนยันว่าก็ไม่มี หนี้สินก็ไม่มี  ครอบครัว และเพื่อนร่วมงานทุกคน ก็รักใคร่กันดี ญาติจึงไม่ติดใจการตาย และไม่คิดว่าจะถูกฆาตกรรม  ซึ่งเมื่อญาติไม่ติดใจเอาความ และขอรับศพกลับบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงร่วมกับแพทย์ร่วมกันชันสูตรศพผู้ตาย  ตายมาแล้วประมาณ 6-7 วัน จึงมอบศพให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี