วัดป่าแสงอรุณ เชิญเที่ยวงานไหว้ “สิมอีสาน” นมัสการ “หลวงพ่อพระขาว” บูชานิโรธเจดีย์ศรีอีสาน มหามงคลในชีวิตครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ระหว่างวันที่ 17-23 พฤศจิกายน 2566 “พงศ์ โปงลางสะออน” นายกเทศมนตรีตำบลบ้านค้อรับหน้าที่ดูแลเรื่องศิลปวัฒนธรรม ระดมนักเรียนจากวงโปงลางของโรงเรียนใน 20 จังหวัดอีสานร่วมแสดงโชว์ตลอด 7 วัน 7 คืน
ที่วัดป่าแสงอรุณ ตำบลพระลับ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น พระพรหมวชิรดิลก ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 9 และเจ้าอาวาสวัดป่าแสงอรุณ ,พระเทพพุทธิมุนี เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น , นายพันธุ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายจักรพงศ์ เพ็ชรแสน นายกเทศมนตรีตำบลบ้านค้อ ตัวแทนจากตำบลพระลับ ร่วมแถลงข่าวการจัด “งานไหว้ สิมอีสาน นมัสการหลวงพ่อพระขาว” ระหว่างวันที่ 17-23 พฤศจิกายน 2566 7 วัน 7 คืน เป็นมหามงคลในชีวิตครั้งแรกในประวัติศาสตร์ พร้อมพลักดันให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วิถีชีวิตชุมชน วัดวาอารามที่สำคัญในตัวเมืองขอนแก่น เชิญชวนท่องเที่ยวมิติทางพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรม สอดรับนโยบายซอฟพาวเวอร์ ของรัฐบาล
พระพรหมวชิรดิลก ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 9 (ธ) เจ้าอาวาสวัดป่าแสงอรุณ กล่าวว่า วัดป่าแสงอรุณเตรียมจัดงานครั้งสำคัญ คือ งานไหว้ สิมอีสาน นมัสการหลวงพ่อพระขาว ซึ่งในวันที่ 17 พ.ย. 2566 เป็นวันมหาพิธีพุทธาภิเษกโดยอาราธนาพระเถระผู้ที่มีความชำนิชำนาญในการอธิษฐานจิตเพื่อความเป็นสิริมงคลมาชุมนุมกันจำนวนหลาย 10 รูป และอาราธนาพระสงฆ์ที่มีความชำนาญในการสวดพุทธาภิเษกหลายคณะมาร่วมสวดตั้งแต่ช่วงหัวค่ำวันที่ 16 พ.ย.จนถึงรุ่งสว่างของวันที่ 17 พ.ย. มีพิธีเปิดงานไหว้ สิมอีสาน นมัสการหลวงพ่อพระขาวในวันที่ 18 พ.ย.และไหว้นิโรธเจดีย์ศรีอีสาน ไปจนถึงวันที่ 23 พ.ย.66 เป็นเวลาทั้งหมด 7 วัน 7 คืน แต่ในวันที่ 23 พ.ย. ถือเป็นวันสำคัญหลายประการ ประกอบกับเป็นวันฉลองอายุวัฒนมงคล 78 ปี 58 พรรษา ของพระพรหมวชิรดิลก เป็นการฉลอง หิรัญบัฏพัดยศ ชั้นเจ้าคณะรอง คือรองสมเด็จเป็นองค์แรกของเมืองขอนแก่นที่มีภูมิลำเนามีถิ่นฐานมีสำนักที่จังหวัดขอนแก่น ถือว่าเป็นองค์แรกที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมในการสถาปนาเป็นเจ้าคณะรองในคราวนี้ มีการเฉลิมฉลองตลอดเวลาที่ผ่านมาถึง 3 ครั้งด้วยกัน ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่คณะศิษย์ยานุศิษย์ได้ร่วมกันจัดถวาย และตลอดงานจะมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น มีการแสดงหมอลำการแสดงของคณะโปงลางจากหลายคณะหลายจังหวัด ซึ่งพระครูธรรมมาภิสมัย ร่วมกับศิลปินทั่วภาคอีสานได้จัดขึ้น และขอเชิญชวนให้พี่น้องชาวพุทธ นุ่งขาวห่มขาวเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษก พร้อมนำรถมาจอดรอบอุโบสถ หรือสิมอิสาน เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกเพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ตัวเองและยานพาหนะของตนเองด้วย
ด้าน นายจักรพงษ์ เพชรแสน นายกเทศมนตรีตำบลบ้านค้อ หรือ “พงศ์ โปงลางสะออน” อดีตสมาชิกวงโปงลางสะออน ในฐานะคณะกรรมการและผู้ดูแลในด้านศิลปวัฒนธรรมของโครงการ ไหว้สิมอีสานนมัสการหลวงพ่อพระขาว กล่าวว่า เนื่องจากว่าเดิมทีพระเดชพระคุณท่านสมณศักดิ์เป็น พระพรหมวชิรดิลก หลวงปู่ท่านได้มีเมตตาต่อศิลปะวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นด้านหมอลำ ดนตรีพื้นบ้านอีสานต่างๆ เกิดเป็นมหกรรมที่ยิ่งใหญ่ ที่เรียกว่างานสตมวาร คนอีสานร่วมใจ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พ่อของแผ่นดิน บำเพ็ญกุศลครบรอบ 100 วันในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต โดยใช้ศิลปินมากกว่า 999 คน เพื่อมาแสดงที่หน้าสิมอีสาน ไม่ว่าจะเป็นศิลปินแห่งชาติ ศิลปินมรดกอีสาน หลายท่านที่มาแสดง ก็ได้เสียชีวิตไปหลายท่านแล้ว แต่ด้วยการอุ้มชูของพระเดชพระคุณ ได้เลื่อน สมณศักดิ์ เป็น พระพรหมวชิรดิลก ท่านมีเมตตาว่าทำอย่างไร ให้ลูกหลานได้มาร่วมเรียนรู้ โดยนำเด็กนักเรียนที่เป็นวงโปงลางของโรงเรียนในสังกัด สพฐ. สพม. ในภาคอีสานทั้ง 20 จังหวัดมากกว่า 500 คนมาร่วมทำกิจกรรม นำเด็กมาทำกิจกรรมพร้อมมอบโจทย์ในเรื่องของการทำโชว์ เพื่อแสดงเป็นมุทิตาจิต คืนวันที่ 22 พ.ย.66เราก็จะมีกิจกรรมของเด็ก ตั้งแต่วันที่ 20 ถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 ในการทำโชว์ หากคิดเป็นมูลค่าในการวางจ้าง คงประมาณการแทบไม่ได้ เพราะแต่ละโรงเรียนมีความรู้ความสามารถในด้านศิลปะ แต่เราใช้ ปราชภูมิปัญญา แบบศิลปินมารวมกันและถ่ายทอดเป็นการทำบุญที่สมบูรณ์ในที่นี้ อยากขอเรียนเชิญให้ทุกท่านได้มาร่วมรับชม เชียร์เป็นกำลังใจให้ลูกหลาน หน้าที่ในการสื่อสารศิลปวัฒนธรรม และ และมาร่วมไหว้สิมอีสาน กราบนมัสการหลวงพ่อพระขาว ในงานที่จะจัดขึ้นในครั้งนี้ ในฐานะที่รับผิดชอบด้านศิลปวัฒนธรรม พร้อมที่จะนำเสนอ โชว์ที่สวยงาม ด้านประเพณีและวัฒนธรรมของท้องถิ่น รับรองว่าใครที่มาจะต้องไม่ผิดหวัง
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า “สิม”ในภาษาอีสานหมายถึงโบสถ์ มาจากคำว่า สีมา สิมมา หรือพัทธสีมา ที่ปรากฏในคำจารึกบนแผ่นหินที่ประกาศเจตนาของผู้สร้าง ปักไว้ด้านหลังสิม ซึ่งมีปรากฏอยู่ทั่วไป ความหมายของสิม หมายถึงเขต หรืออาณาเขตที่กำหนดขึ้นเพื่อใช้ทำกิจกรรมในพระพุทธศาสนา เช่น เป็นเขตที่พระสงฆ์ใช้ประชุมทำสังฆกรรมบรรพชา และอุปสมบทพระภิกษุสงฆ์
Leave a Response