สภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่นขอนแก่นห่วงมือดีฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า ก่อนที่จะมีการปรับขึ้นค่าแรง ยอมรับปรับขึ้น 400 บาทจริงกระทบเป็นลูกโซ่แน่ เพราะบางคนเพิ่งฟื้นจากโควิด วอนรัฐคิดและทบทวนให้ดี

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 14 พ.ย.2566 ที่สภาอุตสาหกรรม จ.ขอนแก่น นายทวีสันต์ วิชัยวงษ์ ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ขอนแก่น กล่าวว่า นโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่รัฐบาลและกระทรวงแรงงานได้กล่าวถึงและเป็นที่ได้รับความสนใจอยู่ในขณะนี้นั้น ยอมรับว่าขณะนี้นโยบายดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจน เพราะว่าการปรับขึ้นค่าแรงไม่ใช่เฉพาะนโยบายจากการหาเสียงหรือลงนโยบายจากรัฐบาลอย่างเดียวต้องมีกลไกการปรับค่าแรงประกอบด้วยคณะกรรมการไตรภาคี ซึ่งมีผู้แทนจากนายจ้างและลูกจ้างและหน่วยงานภาครัฐต้องหารือกันอย่างรอบด้าน

“การที่จะขึ้นค่าแรงเป็นผลดีจริงแต่มีผลกระทบต่อภาคธุรกิจมากน้อยอย่างไรบ้างซึ่งประเด็นสำคัญที่กลัวที่สุดคือการฉวยโอกาสโดยการขึ้นค่าสินค้าก่อนที่จะมีการประกาศขึ้นค่าแรง แต่ประเด็นที่คุยกันไม่ใช่แค่ขึ้นค่าแรงแต่ยังคุยไปถึงการขึ้นเงินเดือนข้าราชการซึ่งเป็นประเด็นที่น่ากังวลหากว่ายังไม่มีความชัดเจน ควรจะบอกว่ากระทบวินัยการเงินการคลังมากน้อยเพียงใด”

นายทวีสันต์ กล่าวต่ออีกว่า การปรับขึ้นค่าแรง 400 บาท ยกตัวอย่างเช่นขอนแก่นหากต้องขึ้นค่าแรงเป็นไปในเช่นนั้นจริงถือว่าเป็นการปรับค่าแรงที่มากขึ้นถึงร้อยละ 20 เลยทีเดียว ซึ่งผู้ประกอบการภาคเอกชนรายกลางลงมาหารายเล็ก โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ได้รับผลกระทบแน่นอน ยิ่งขณะนี้หลายคนพึ่งฟื้นตัวจากภาวะโควิด ผู้ประกอบการหลายรายต้องปิดกิจการไปเยอะจากภาวะโควิดที่ผ่านมา เพราะแบกรับภาระไม่ไหววันนี้ถ้าจะปรับค่าแรงขึ้นเป็น 400 บาท ต้องดูพื้นที่ด้วยว่าพื้นที่ไหนควรจะปรับขึ้นเท่าใดหรือ 400 บาทคือภาพรวมทั้งหมด สำหรับสภาอุตสากรรมย้ำเสมอว่าการพัฒนายกระดับฝีมือแรงงานและเป็นแรงงานที่มีทักษะได้ค่าแรงเกิน 400 บาท อยู่แล้ว ดังนั้นรัฐบาลต้องชัดเจนได้แล้ว