ตม.ขอนแก่น บุกร้านคาราโอเกะชื่อดัง รวบ 10 สาวชาวลาวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต พบบางคนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เร่งผลักดันกลับประเทศทันที
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 15 พ.ย. 2566 สำนักงานที่ตรวจคนเข้าเมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งตั้งอยู่ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 3 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น พ.ต.ท.โสรัจ วิชยสุทธิ์ สารวัตรใหญ่ตรวจคนเข้าเมืองขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.ขอนแก่น ,ตำรวจท่องเที่ยว กอ.รมน.และเจ้าหน้าที่จัดหางานจังหวัด ร่วมกันแถลงข่าวการบุกค้นร้านคาราโอเกะชื่อดัง ซึ่งตั้งอยู่ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น หลังรับแจ้งว่ามีการลักลอบนำหญิงสาวชาวต่างชาติมาทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต
พ.ต.ท.โสรัจ กล่าวว่า กำลังเจ้าหน้าที่ ตม.ขอนแก่น ได้สนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานทุกฝ่าย ลงพื้นที่ตรวจจับกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานโดยผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากจะดำเนินคดีตามกฎหมายแล้วยังคงมีการผลักดันกลับประเทศ จนกระทั่งการสนธิกำลังร่วมทุกฝ่ายบุกตรวจค้นและจับกุมร้านคาราโอเกะชื่อดังแห่งหนึ่งซึ่งจั้งอยู่ในเขต อ.กระนวน สามารถจับกุมหญิงสาวสัญชาติ สปป.ลาว ได้ถึง 10 คน ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่าทั้ง 10 คน ได้เดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ จ.หนองคายและ จ.บึงกาฬ โดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยว 7 คน ส่วนอีก 3 คน ลักลอบเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยแบบผิดกฎหมาย
“จากการตรวจสอบพบว่า ชาวลาว 7 คนที่เดินทางเข้ามาในรูปแบบวีซ่านักท่องเที่ยว 30 วัน ได้แอบมาทำงานที่ร้านแห่งนี้ โดยมีหน้าที่ดูแล เสิร์ฟอาหาร เครื่องดื่ม ให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการภายในร้าน โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าเป็นบุคคลต่างสัญชาติลาว ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ตาม ม.4 พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานคนต่างด้าว 60 และ ( แก้ไขฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 ก่อนจะทำการควบคุมตัวส่งให้กับพนักงานสอบสวน สภ.กระนวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและผลักดันกลับประเทศ ขณะที่เจ้าของร้านคาราโอเกะที่รับชาวลาวเข้าทำงาน ได้ถูกจับปรับดำเนินคดี ในข้อหา รับคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ตาม ม.9 พ.ร.ก.การ จัดการทำงานคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และ (แก้ไขฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 พร้อมนำส่งพนักงานดำเนินคดีตามกฎหมาย มีโทษปรับ 10,000 -100,000 บาท”
พ.ต.ท.โสรัฐ กล่าวต่ออีกว่า ขณะเดียวกันยังคงมีข้อมูลการข่าวที่ต้องเฝ้าระวังและตรวจเข้มในกลุ่มโรงงานขนาดใหญ่ ในเขต อ.น้ำพอง ,กระนวน ,อุบลรัตน์ และ ต.ท่าพระ อ.เมืองขอนแก่น จึงได้สั่งการให้ชุดเจ้าหน้าที่ หาข่าว ตรวจสอบ กวดขัน จับกุม ดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานผิดกฎหมาย รวมถึงเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทย และสัญชาติอื่นๆ ที่มีหมายจับ และมีการเดินทางเข้า-ออกประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุ กับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด จึงต้องมีการเฝ้าระวัง ปราบปรามอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง
Leave a Response