สองสามี-ภรรยาตัวประกันชาวขอนแก่นรอดจากฮามาสเล่าทำได้แค่สวดมนต์นั่งสมาธิ

IMG_5396

สองสามี-ภรรยา ตัวประกันได้รับการปล่อยตัวจากกลุ่มฮามาสเดินทางกลับถึงบ้านที่ขอนแก่นแล้ว เล่าวินาทีถูกจับตัวไปแยกกันอยู่กับสามีเกือบสองเดือน เชื่อเป็นปาฏิหาริย์ ทุกวันที่ถูกจับทำได้เพียงนั่งสมาธิ สวดมนต์ ภาวนาในใจให้ต่างฝ่ายรอดชีวิต ขณะที่แม่สุดดีใจเตรียมอาหารโปรดให้ลูกสาว-ลูกเขยทานตั้งแต่เช้า ขณะที่ญาติๆต่างพากันมาหาโผกอดด้วยความดีใจ

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 1 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 159 ม.14 ต.โคกสำราญ อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของ นางณัฐฐาวรี มูลกัน หรือ โย อายุ 35 ปี แรงงานที่เดินทางไปทำงานในประเทศอิสราเอล พร้อมกับสามีคือ นายบุญถม พันธ์ฆ้อง อายุ 45 ปี ชาวบ้านหินโงม ต.หินโงม อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี ก่อนจะถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันนานเกือบ 2 เดือน กระทั่งถูกปล่อยตัวออกมาพร้อมกับตัวประกันคนอื่นๆอีกหลายคน ซึ่งเดินทางกลับมาถึงบ้านเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น.ที่ผ่านมา

โดยบรรยากาศในช่วงเช้านั้น พบว่า นางบุญญาริน ศรีจันทร์ อายุ 56 ปี แม่ของโย และญาติจัดเตรียมอาหารไว้สำหรับโยและสามี รวมทั้งสื่อมวลชนที่จะเดินทางมาทำข่าวในวันนี้ด้วย โดยเป็นเมนูหมูทอด ส้มตำ ทานกับข้าวเหนียวร้อนๆ ซึ่งแม่บอกว่าลูกสาวเป็นคนชอบทานเมนูเหล่านี้ เป็นคนทานง่าย ขณะที่ญาติๆของตัวประกันทั้งสอง ต่างเดินทางมาเยี่ยม และให้กำลังใจต้อนรับกลับบ้าน โดยได้โผกอดด้วยความดีใจและทุกคนต่างบอกว่า แม่และญาติๆช่วยกันบนเอาไว้ให้โย 8 แห่ง ให้โยถือศีลห่มขาว 1 เดือนด้วย ซึ่งโยเองก็พร้อมที่จะแก้บนตามที่ได้บนไว้อย่างมุ่งมั่น ซึ่งญาติๆบอกว่าโยเป็นลูกหลานสายพญานาค เชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้าวัดทำบุญเป็นประจำ เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บนไว้ทั้ง 8 แห่ง ช่วยให้เกิดปาฏิหาริย์จนรอดมาได้

นางณัฐฐาวรี มูลกัน หรือ โย อายุ 35 ปี และ นายบุญถม พันธ์ฆ้อง อายุ 45 ปี ชาวบ้านหินโงม ต.หินโงม อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี สองสามีภรรยาที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า สิ่งเดียวที่ช่วยได้ คือสวดมนต์ นั่งสมาธิ และให้กำลังใจกัน ตั้งสติคิดอย่างเดียวว่าต้องรอดแหละจนผ่านมาได้ อยากให้กำลังใจตัวประกันอีกหลายคน เพราะบางคนเครียดหนักกลัวคิดสั้นก็ปลอบโยนกันไป ใจเย็นๆเดี๋ยวเราก็รอด ทุกคนได้กลับบ้านแน่นอน ให้กำลังใจกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นคนเชื้อชาติไหนจะต้องรอดแน่นอน ในนั้นตนเองทั้งสองคนไม่โดนทำร้ายแต่อย่างใด

ความรู้สึกที่ได้กลับมา ดีใจที่ได้กลับบ้าน ทันทีที่ออกจากจุดที่ถูกจับตัว เป็นวันแรกที่ได้เจอกัน กอดกันดีใจมากที่เห็นหน้ากัน ในวันเกิดเหตุนั้น เป็นวันหยุด ปกติจะตื่นสาย แต่ประมาณ 06.00 น.ได้ยินเสียงเตือน จึงพากันไปหลบในอาคารเพราะคิดว่าจะปลอดภัย แต่ช่วงที่เข้าไปถูกจับไปด้วยกันและแยกกัน ก่อนจะมาเจอกันตอนที่ได้รับการปล่อยตัว ช่วงที่จับไปนั้น ใจในคิดเพียงว่าต้องได้เจอ เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำได้แต่ภาวนาในใจเท่านั้น ในใจคิดว่าจะไม่ได้เจอกันคิดว่าจะปล่อยมาคนละวัน ไม่มีใครรู้ว่าจะได้ออกตอนไหน พอออกมาแล้วก็ไม่อยากจะคิดถึงมันอีก ตอนนี้กลับมาเจอหน้าลูก หน้าแม่ บอกคำแรกเลยว่ากลับมาแล้ว ไม่เป็นอะไรแล้ว ปาฏิหาริย์มีจริง ส่วนเรื่องกลับไปทำงานต่างประเทศ คงพักกายพักใจสักพัก แล้วค่อยคิดว่าจะทำยังไงต่อ อาจจะทำงานที่บ้าน เลี้ยงไก่ เปิดร้านขายของในหมู่บ้าน

ในส่วนของนายบุญถมนั้น บอกอีกว่า ฝากถึงแม่ที่อุดรธานี เดี๋ยวลูกจะรีบกลับไป ตอนนี้ให้อะไรลงตัวก่อน ส่วนเรื่องบวชเรื่องบนนั้น จะกลับไปถามแม่ก่อนว่าบนอาไรที่ไหนไว้บ้าง เพราะของภรรบาก็บนไว้ 8 แห่งแล้ว

อย่างไรก็ตามในขณะที่หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่มาพบกับสองสามีภรรยาแรงงานที่ถูกปล่อยตัวกลับถึงบ้านเพื่อดำเนินการตามสิทธิและขั้นตอนต่อไป

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง