ตร.ชุมแพ จ.ขอนแก่น จับกุมลูกทรพีคลั่งยาหลอน ก่อนใช้ไขควงแทงพ่อได้รับบาดเจ็บสาหัส เสียชีวิตที่โรงพยาบาล
4 ธ.ค. 66 ร.ต.อ.ศรัญ แสนหล้า รอง สว.สส. สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ติดตามจับกุมนายรัชชานนท์ อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาฆ่านายภตพร อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นพ่อบังเกิดเกล้า โดยจับกุมได้ที่ริมถนนชุมแพ-สีชมพู บ้านหนองไผ่นาดี ต.วังหินลาน อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ขณะเดินเตร่อยู่ข้างทาง ตรวจค้นในตัวพบยาบ้า 1 เม็ด
ก่อนควบคุมตัวมาทำการสอบสวนที่ สภ.ชุมแพ นายรัชชานนท์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุทำร้ายร่างกายพ่อจริง ก่อนเกิดเหตุได้ขอเงินพ่อ 300 บาท เพื่อนำไปซื้อยาบ้า แต่พ่อไม่มีให้ จึงเกิดการโต้เถียงกัน ตนมองเหลียวหลังเห็นพ่อถือด้ามจอบ คิดว่าพ่อจะทำร้ายจึงคว้าไขควงแทงพ่อแล้วชกต่อย จนนายภตพรฯ ผู้เป็นพ่อทรุดลง หลังเกิดเหตุตนหนีออกจากบ้าน แล้วย้อนกลับมาดูพ่ออีก ก่อนหลบหนีไป ซึ่งตนไม่มีเจตนาจะฆ่าให้ตาย ซึ่งหลังถูกจับกุมนางบุญรอด หล้าทอง อายุ 39 ปี ผู้เป็นแม่ได้เดินทางมาเยี่ยมนายรัชชานนท์ฯ ลูกชาย พร้อมยืนพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายรัชชานนท์ฯ กล่าวว่าขอชดใช้กรรมที่ได้ก่อขึ้น และไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว พูดไปก็ไม่ทำให้พ่อฟื้นคืนมาได้ ขอเก็บความรู้สึกไว้ในใจของตนเอง
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 23 พ.ย.66 ร.ต.อ.ภูมินทร์ เอี่ยมอ่อง รองสว.สอบสวน สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บภายในบ้านเลขที่ 247 หมู่ 6 บ้านโสกก้อง ต.วังหินลาด อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่านายภตพร น้อยจิตร อายุ 50 ปี ถูกลูกชายใช้ไขควงแทง ทำร้ายร่างกายรับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ อบต. นำตัวส่ง รพ.ชุมแพ เพื่อทำการรักษาจนกระทั่งเวลา 18.00 น. วันที่ 1 ธ.ค.66 ที่ผ่านมานายภตพร ได้ถึงแก่ความตาย
เจ้าหน้าที่สอบปากคำนางบุญรอด หล้าทอง อายุ 39 ปี ในฐานะผู้เสียหายและเป็นพยานกรณีให้การว่าลูกชายติดยาเสพติดอย่างหนัก ถึงขั้นหลอน มักชวนทะเลาะวิวาทกับคนในครอบครัวเป็นประจำ โดยเฉพาะนายภตพร ผู้เป็นพ่อต้องหลีกหนีไม่อยากมีเรื่อง ซึ่งนายรัชชานนท์ ลูกชายมักจะขอเงินอย่างน้อยวันละ 300 บาท เพื่อนำไปซื้อยาบ้าเสพ เมื่อไม่ได้เงินก็จะทำร้ายคนในครอบครัว ก่อนหน้านี้ช่วงต้นปีได้ก่อเหตุใช้มีดแทงนายภัตพร ผู้เป็นพ่อได้รับบาดเจ็บ จนกระทั้งล่าสุดมาก่อเหตุทำร้ายจนเสียชีวิต ตนแม้จะเป็นแม่แต่ก็เป็นผู้เสียหายด้วย จึงอยากให้ทางการดำเนินคดีกับลูกชายให้ถึงที่สุด ตนมีอาชีพทำนาและขายเร่ขายล็อตเตอรี่ เพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว หากปล่อยไว้เกรงว่าจะเป็นอันตรายถึงตนและชาวบ้านใกล้เคียง ตนขอยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะปกป้องลูก เมื่อลูกทำผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ขอให้ชาวบ้านเข้าใจตามนี้ด้วย
Leave a Response