ฝ่ายปกครองรวบ “ปรีชา”ทาสยาอาละวาด รับเสพทุกวัน วอนอย่าส่งไปบำบัด

IMG_8552

วินาทีฝ่ายปกครอง เข้ารวบตัวปรีชา ทาสยาขอเงินยายไม่ได้อาละวาด ทั้งปืน ทั้งมีดขู่ จนคนในหมู่บ้านหวาดผวา พบก่อนถูกจับนั่งเสพยาบ้าอยู่หน้าบ้าน ยืนยันเสียงแข็งไม่ขอเลิกยา อย่าเอาผมไปบำบัด จะตั้งใจทำงานเลี้ยงลูก

จากกรณี นายปรีชา สิงห์ทอง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 / 1 บ้านไส้ไก่ หมู่ 1 ตำบลท่าศาลา อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น บุตรชายคนโต นางเมตตา โพธิ์ขี อายุ 50 ปี และเป็นหลานชายของนางไพร  โพธิ์ขี อายุ 77 ปี ที่ก่อเหตุอาละวาด ลักทรัพย์ในบ้านยาย ข่มขู่ยาย และขอเงินยายไปซื้อยาบ้ามาเสพ  ทำให้นางเมตตา โพธิ์ขี มารดาโพสเฟชบุ๊ก ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงาราชการ ให้พาลูกชายไปบำบัดรักษาอาการติดยาเสพติด  ส่วนนางไพร  โพธิ์ขี อายุ 77 ปีผู้เป็นยายก็หวาดกลัวว่าหลานชายจะฆ่า ต้องอยู่บ้านด้วยความลำบาก

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 22 มกราคม 2567 นายนนทวิทย์ ลอยวิรัตน์ ปลัดอำเภอมัญจาคีรี จ.ขอนแก่น พร้อมกำลังฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.มัญจาคีรี ร่วมกันควบคุมตัวนายปรีชา สิงห์ทอง อายุ 35 ปี ขณะกำลังตัดต้นกระถินยู่ริมถนนทางด้านทิศเหนือของหมู่บ้าน จึงควบคุมตัวไว้ โดยในเบื้องต้น นายปรีชา ยอมรับว่า ถือปืนจริง เป็นปืนแก้ปที่เตรียมไปยิงหนู ไม่ได้เอาไปยิงใคร และยอมรับว่า เสพยาบ้าจริงวันละ 1-2 เม็ด โดยภรรยาให้เงินไปซื้อ และได้เงินจากการเผาถ่านขาย ส่วนสาเหตุที่เสพยาบ้านั้น เสพแล้ว ทำให้ทำงานได้ เผาถ่านขายได้  ส่วนการที่มาที่บ้านนางไพรแล้วโวยวายนั้น เพราะรู้ว่ามารดาติดกล้องวงจรปิดไว้ที่บ้านยาย  จึงมาที่บ้านยาย เพื่อคุยกับมารดา และที่โวยวายเพราะน้อยใจมารดา ที่ไม่เคยใส่ใจดูแลตน แม้แต่บ้านที่แม่สร้างก็ไม่ได้อยู่อาศัยด้วย 

“ผมเสพยาบ้าจริง เมื่อเช้าก็เสพอยู่บ้านยาย 1 เม็ดแล้วก็ออกไปตัดไม้เพื่อนำมาเผาถ่านขาย  แต่ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร และไม่อยากไปบำบัดเพราะ เพราะห่วงลูก กลัวลูกไม่มีจะกิน ส่วนภรรยาก็ทำงานโรงงานไม่มีเวลาดูแลลูก ตนจึงทำหน้าที่ดูแลลูกคนเดียว  หากไปบำบัดลูกจะไม่มีคนดูแล ไม่ขอเลิกเสพ”

นางไพร  โพธิ์ขี อายุ 77 ปี ยายของนายปรีชา  กล่าวภายหลัง เห็นเจ้าหน้าที่ควบคุมหลานชาย ว่า นายปรีชาโกหกทุกอย่าง   หลักฐานที่ก่อเหตุขึ้นในบ้าน มันปรากฏในวงจรปิดทั้งหมด จึงขอให้เจ้าหน้าที่นำตัวนายปรีชาไปบำบัดนานๆ เพราะถ้ายังปล่อยให้อยู่ที่บ้าน ก็จะก่อเหตุ สร้างความเดือดร้อนซ้ำๆเหมือนเดิม 

ทางด้าน พ.ต.อ.พิชัย นาขันดี ผกก.สภ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น  กล่าวภายหลังควบคุมตัวนายปรีชา ไว้ได้ ว่า ในเบื้องต้น ตำรวจยังไม่สามารถจับกุม หรือควบคุมตัวนายปรีชาได้ เพราะต้องนำตัวส่งที่รพ.มัญจาคีรี ให้แพทย์ตรวจร่างกายก่อน หากพบสารเสพติด ก็จะถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามขั้นตอน  ส่วนการบำบัดรักษาอาการติดยาเสพติดหรือยาบ้านั้น ต้องให้ทางการแพทย์ประเมินอาการก่อนว่า ต้องบำบัดรักษาอย่างไร ป่วยจิตเวชด้วยหรือไม่  ขณะนี้จึงยังไม่มีข้อสรุป 

นายนนทวิทย์ ลอยวิรัตน์ ปลัดอำเภอมัญจาคีรี จ.ขอนแก่น  กล่าวว่า  เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของนายอำเภอ  จึงสนธิกำลังฝ่ายปกครองลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ซึ่งทราบว่า นางไพร ได้รับความเดือดร้อนจริง ส่วนนายปรีชานั้นพบว่าเสพยาเสพติด จึงออกตามหาตัวจนพบ  จากนี้ก็ส่งตัวนายปรีชาให้ตำรวจคุมตัวไปส่งที่รพ.มัญจาคีรี เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของการนำผู้ป่วยเข้าสู่การบำบัดรักษาต่อไป/////////////////

 

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง