เศร้ารับเดือนแห่งความรัก นายหน้าขายที่ดินวัย 46 ปี ใช้อาวุธปืนจ่อยิงขมับเสียชีวิตในห้องเก็บอัฐิภรรยาตัวเองภายในวัดหนองแวงพระอารามหลวง ซึ่งเสียชีวิตจากโรคมะเร็งเมื่อ 6 เดือนก่อน พร้อมเขียนจดหมายก่อนตาย “ตั้งแต่แฟนผมเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ผมรู้สึกสิ้นหวังในชีวิต ผมไม่สามารถหยุดคิดถึงรักแรกและรักเดียวในชีวิตได้ ตลอด 27 ปี”
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 ร.ต.อ.สมัย ชัยบัวลา รองสว.(สอบสวน)สภ.เมืองขอนแก่น รับแจ้งจากศูนย์วิทยุแก่นนครว่า มีคนยิงตัวเองตายที่ห้องเก็บกระดูก บริเวณชั้น 1 ของพระมหาธาตุแก่นนคร ภายในวัดหนองแวงอารามหลวง ถนนกลางเมือง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหลายนาย พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ ศพฐ.4 ขอนแก่น ร่วมตรวจที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบศพนายพงษ์ชัย อายุ 46 ปี ที่อยู่ ม.16 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น นอนหงายเสียชีวิตอยู่บริเวณที่เก็บกระดูก อยู่ในสภาพนอนหงายใส่เสื้อยืดคอกลมสีดำแขนสั้น สวมทับด้วยเสื้อกันหนาวแขนยาวสีขาว นุ่งกางเกงขายาวสีดำ ข้างร่างผู้ตายด้านซ้ายมือพบอาวุธปืนออโตเมติก ยี่ห้อ นอริงโก้ ขนาด 9 มม.ตกอยู่ที่ข้างตัวมือด้านซ้าย และพบจดหมายลาตายอยู่ในกระเป๋ากางเกงของผู้ตาย เขียนข้อความด้วยลายมือปากกาสีน้ำเงินว่า “ตั้งแต่แฟนผมเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ผมรู้สึกสิ้นหวังในชีวิต ผมไม่สามารถหยุดคิดถึงรักแรกและรักเดียวในชีวิตได้ ตลอด 27 ปี ที่เราคบกัน เราอยู่ด้วยกันทุกนาที วันที่ 22/2/67 เป็นวันเกิดแฟนผม และวันตายของผม เรื่องงานศพไม่ต้องจัดก็ได้ เผาเลยครับ ช่วยนำกระดูกของผม ใส่เข้าช่องเก็บกระดูกเดียวกันกับคนรักผมด้วย ผมขอโทษทุกคนด้วยครับ ชุดไม่ต้องเปลี่ยนเผาทั้งชุดนี้เลยครับ พร้อมกับทิ้งเบอร์โทรศัพท์แม่ชีชื่อละมุนเอาไว้ที่ท้ายจดหทายและลงชื่อนามสกุลตัวเองเอาไว้ด้วย
ขณะเดียวกัน ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจที่เกิดเหตุเสร็จ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่มาพบกับ พระครูสุตสารวิสุทธิ์ พระลูกวัด วัดหนองแวงพระอารามหลวง พาผู้สื่อข่าวดูจุดที่เกิดเหตุ ภายในห้องเก็บอัฐิ โดยยังมีกองเลือดอยู่ภายในรอทำความสะอาด พร้อมทั้งเปิดเผยเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าผู้ตายซึ่งมีมารดาบวชชีอยู่ที่วัดหนองแวงพระอารามหลวง ขับรถจักรยานยนต์มาจอดที่พุ่มไม้ หน้าทางเข้าบริเวณรอบพระมหาธาตุแก่นนคร ในเวลาประมาณ 01.30 น. ก่อนจะเดินเข้าไปภายในพระจุลธาตุตั้งอยู่มุมกำแพง ซึ่งเป็นที่เก็บอัฐิธาตุของผู้เสียชีวิต โดยผู้ตายได้เดินเข้าไปในพระจุลธาตุที่มีกระดูกของภรรยาที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมาอยู่ เพื่อจุดธูปเทียนไหว้กระดูกภรรยา โดยในกล้องวงจรปิดจะมองเห็นแสงไฟออกมา ผ่านไปประมาณ 5 นาที ผู้ตายก็ปิดประตู กระทั่งเวลา
ประมาณ 06.00 น. แม่บ้านมาทำความสะอาดตามปกติก็พบเห็นผู้เสียชีวิตก่อนจะแจ้งพระปกครองและตำรวจให้ทราบ และยังพบว่าผู้ตายป่วยเป็นโรคซึมเศร้ารำพึงรำพันถึงภรรยามาตลอด และมักจะมาที่วัดมาจุดธูปเทียนไหว้กระดูกภรรยาเป็นประจำ และจะมาเยี่ยมแม่ซึ่งบวชชีอยู่ที่วัดด้วย ด้วความที่เป็นโรคซึมเศร้าจึงคาดว่าจะเป็นสาเหตุแรงจูงใจให้ก่อเหตุยิงตัวเองเสียชีวิตดังกล่าว และอยากจะฝากถึงญาติโยมเนื่องในเดือนแห่งความรัก ก็อยากให้ทุกๆคนรักอย่างมีสติ รักอย่างมีขอบเขต เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นย่อมเป็นทุกข์ เราต้องมีสติ
ด้าน พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวภายหลังตรวจที่เกิดเหตุว่า ในจดหมายลาตาย มีหมายเลขโทรศัพท์ของมารดาผู้ตายอยู่ด้วย ซึ่งจากการสอบสวน ทราบว่า มารดาบวชเป็นแม่ชีอยู่ที่วัดหนองแวงพระอารามหลวง ส่วนนายพงษ์ชัย บุตรชายนั้น มีอาชีพเป็นนายหน้าขายที่ดิน และป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ส่วนจุดที่ยิงตัวตายนั้น เป็นที่เก็บกระดูกของภรรยาผู้ตายซึ่งเสียชีวิตได้ 6 เดือนแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมแพทย์นิติเวช และเจาหน้าที่ ศพฐ.4 ร่วมตรวจที่เกิดเหตุและชันสูตรศพผู้ตาย ก่อนจะมอบศพให้มูลนิธิขอนแก่นสามัคคีอุทิศนำศพผู้ตายไปที่นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ เพื่อให้แพทย์ตรวจพิสูจน์ตามขั้นตอน ก่อนจะมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ในเบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายซึ่งป่วยเป็นโรคซีมเศร้า เกิดภาวะเครียดในจิตใจ จึงมาที่เก็บกระดูกภรรยาแล้วฆ่าตัวตาย ส่วนอาวุธปืนนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า เป็นของผู้ตายหรือไม่
จากการตรวจสอบกล้อง วงจรปิด ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวานนี้ พบว่าเมื่อเวลา 01.23 น. ผู้ชีวิตขับรถเข้ามาจอดบริเวณหน้าพระธาตุและเข้ามาในบริเวณจุลธาตุ โดยเปิดประตูค้างไว้ สักครู่มีแสงสว่างไสวภายในจุลธาตุ คาดว่าจะมาจากการจุดธูปเทียน ต่อมาเวลา 01.32 น. ผู้เสียชีวิตได้ปิดประตูจุลธาตุ
หลังจากนั้นไม่มีผู้ใดเข้าออกจนถึงเวลา 06.27 น. นายศุภมิตร สามารถ คนงานทำความสะอาดวัด ได้มาเปิดประตูและพบศพเป็นคนแรกจึงได้แจ้งให้กับเจ้าหน้าที่วัดและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
Leave a Response