“อนุทิน” ย้ำชัดไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียน ที่ต้องได้รับการพัฒนารอบด้าน ชี้ภาคอีสานทำเลทองที่สำคัญ พร้อมระบุ ผู้ว่าฯ ต้องบริหารงบประมาณประจำปีกระจายงบลงสู่ประชาชนให้มากที่สุด
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 21 ก.พ.2567 ที่วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานปาฐกถาพิเศษ ในวาระฉลองครบรอบ 60 ปี มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในหัวข้อ “เศรษฐกิจรากฐานกับการพัฒนาอีสานใหม่” โดยมีผู้บริหารในสังกัดกระทรวงมหาดไทยในกลุ่มจังหวัดภาคอีสานตอนบนและตอนกลาง ผู้บริหาร มข. นักศึกษา มข.และผู้ที่สนใจเข้าร่วมรับฟังกว่า 300 คน ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า เป็นเวลากว่า 60 ปีที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ก่อตั้งมา และได้ประสาทความรู้ให้กับคนไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉาะภาคอีสานที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาอย่างมาก ซึ่งตนเองเคยมาบรรยาย ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ โดยจะเป็นการนำประสบการณ์มาเล่าให้น้องๆได้ฟัง มข.ในวัย 60 ถ้ามองตัวเราเองก็จะเข้าสู่วัยเกษียณแต่ถ้ามองในมุมของสถาบันการศึกษายอมรับว่าอยู่ในช่วงเก๋าเกมส์ อยู่ในช่วงของการพัฒนา การต่อยอด การสั่งสมประสบการณ์ ซึ่งหากจะมองถึงคำว่าอีสานใหม่ เราต้องมองย้อนกลับไปที่อีสานเดิมก่อน ซึ่งภาคอีสานของไทยเป็นภูมิภาคและยุทธศาสตร์ที่สำคัญของไทย คนอีสานเป็นคนที่มีชีวิตชีวา รักถิ่นฐานบ้านเกิด เป็นภูมิภาค มีความปรารถนาดีต่อเพื่อนร่วมชาติ มาอีสานทุกครั้งทุกคนจะดีใจ จะม่วนใจ เมื่อได้ศรัยการต้อนรับที่ดี
“อีสานสร้างหนังคนอีสานที่ทำได้ดี เพลงฮิตคนอีสาน เพลงน้องเป็นสาวขอนแก่น มีมานานกว่า 50 ปี ทุกคนยังร้องได้ ล่าสุดคือภาพยนต์สัปเหร่อที่สร้างปรากฎการณ์ได้อย่างชัดเจน หนังสัปเหร่อแสดงถึงพลังอีสานที่ชัดเจน ที่ทำให้คนอีสานอยากไปดู ไปสนับสนุนงานของคนบ้านเดียวกัน จนทำให้ทุกคนภุมิใจที่หนังไทยโกอินเตอร์ไปแล้ว ทั้งรายได้ ความบันเทิงและความจดจำต่างๆที่เกิดขึ้น ผมผูกพันภาคอีสานมาก โดยเฉพาะการเมืองวันนี้ผมเป็นคนบุรีรัมย์ ตามทะเบียนบ้าน ขอนแก่น มาตั้งแต่เด็กๆ ผมมาขอนแก่นหน้าตาสดใส มาขอนแก่นตั้งแต่เด็กมาสร้างเขื่อนน้ำพอง ปัจจุบันคือเขื่อนอุบลรัตน์ พอโตขึ้นมาเป็นวิศวกรมาสร้างโรงงานกระดาษที่ อ.น้ำพอง ใช้ชีวิตอยู่ขอนแก่นเป็นปี มาสร้างหอประชุม มข.,มาสร้างอาคารคณะแพทยศาสตร์ มข. จำได้ได้วา ช่วง 2536-2540 ใช้ชีวิตที่ขอนแก่นมาตลอด”
นายอนุทิน กล่าวต่ออีกว่า ตนเองมาในภาคเอกชน ประเทศไทยนั้นสามารถที่จะมีความเจริญเติบโตได้มากกว่าประเทศอื่นๆในภุมิภาค ทั้งลักษณะที่ตั้ง ที่เราอยู่ตรงกลางที่จะสามารถจ่ายออกไป มาเส้นทางการคมนาคมขนส่งทางบกและทางน้ำ วันนี้อย่ามองว่าขอนแก่น เป็นศูนย์กลางหรืออุดรธานีเป็นศูนย์กลาง แต่ต้องมองว่าประเทศไทยทั้งประเทศเป็นศูนย์กลาง รัฐบาลที่ผ่านมาตนเองและอดีต รมว.คมนาคม ได้อนุมัติโครงการรถไฟรางคู่ไปจนถึงหนองคายและสะพานข้ามแดนอีก 1 เส้นทาง
“ไม่เข้าใจว่ารออะไร เพราะได้ทราบมาว่าใครจะออกแบบสะพานดังกล่าวนี้ด้วยงบประมาณประมาณ 30 ล้านบาท กับ สปป.ลาว ซึ่งผมก็บอกว่าถ้าใครไม่ออกผมออกให้เองได้ อย่าเอาเรื่องสำคัญเช่นนี้มาติดค้างในการพัฒนาประเทศมานานเกือบปี และมาทราบอีกว่าหากลงทุนอีกไม่มากสะพานดังกล่าวนี้จะเป็นทั้งสะพานของทางรถไฟและทางเดินรถด้วย ดังนั้นวันนี้ชาวอีสานน่าจะเริ่มมีโอกาสในการทำมาหากินรองรับการพัฒนาแล้วก็การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ ต้องโตแน่นอน ได้อย่างน้อย 2 ปีนี้ ต้องโตขึ้น ทุกปีมีเงินงบประมาณ 3 ล้านล้านบาท ปีนี้มี 6ล้านล้านบาท แล้วจะไม่โตได้อย่างไร ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เรียนท่าน ผวจ.ฯทุกท่าน ต้องมีการวางแผนเรื่องของการใช้เงิน ให้เม็ดเงินกระจายไปยังประชาชนมากที่สุดในรูปของการเติบโตทางเศรษฐกิจ สิ่งที่เราต้องทำคือต้องให้มันโตขึ้น งบ ปี 69 ถ้าทำให้ติดลมบนได้ ก็จะต่อเนื่องไปได้สวย”
นายอนุทิน กล่าวต่ออีกว่า ฝากไปยังอาจารย์ที่เกี่ยวกับภาคธุรกิจ รวมถึงวิชาทางการเงิน ปัจจุบันนี้การระดมทุนระดมเงินค่อนข้างได้หลายทาง ปัจจุบันก็มีระบบคลาวด์ฟันดิ้ง ที่แปลว่า การระดมทุนจากผู้คนจำนวนมากที่สนใจในธุรกิจของเราด้วยการขายไอเดียโดยมี แพลตฟอร์มออนไลน์เกิดขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นโอกาสด้านแหล่งทุนแล้วช่องทางยังเป็นการวิจัยทางตลาดชั้นดีเพราะจะได้เห็นการตอบสนองของลูกค้า กลุ่มเป้าหมายในทันที
อย่างไรก็ตามภาคอีสาน มีเสน่ห์ในเรื่องของสินค้าต่างๆมากมาย เช่นเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ ผ้าไหมที่มีมูลค่า แต่อยากจะทำเสื้อผ้าแล้วก็ทำเป็นสินค้าอื่นๆแบ่งแยกออกไปด้วย กระเป๋าของใช้ต่างๆ ที่เห็นกันอยู่ในงานโอท๊อปทำออกมาได้สวยมาก แต่เราอาจจะแพ้เรื่องการตลาด ดังนั้นจุดด้อยตรงนี้เราจะต้องเร่งดำเนินการทันที
Leave a Response