คืบหน้าเยาวชน 17 ปี และเด็กหญิง 14 ปี ขับรถจักรยายยนต์ซ้อนท้ายก่อเหตุชิงทรัพย์โทรศัพท์มือถือของเด็กชายวัย 10 ปีภายในโรงเรียนบ้านคำบง และต่อมานายโหน่งและน.ส.บี ได้นำโทรศัพท์มือถือมาคืน ล่าสุดตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ส่งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น ดำเนินคดีตามกฎหมาย แม้ผู้เสียหายไม่เอาความแต่เป็นความผิดสำเร็จแล้วเป็นอาญาแผ่นดินต้องถูกดำเนินคดี
ความคืบหน้ากรณีมีผู้ใช้ Facebook ชื่อ “Gus Bell” โพสต์ภาพสองคนร้าย ขับรถจักรยานยนต์ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 4ขว 3341 กรุงเทพมหานครฯ เข้าไปในโรงเรียนบ้านคำบง ซึ่งมีเด็กนักเรียนนั่งเล่นรอซ้อมฟุตบอลอยู่ข้างสนามฟุตบอล ถูกคนร้ายทั้งสองคนล็อคคอขู่ฆ่าบังคับเอาโทรศัพท์มือถือและให้บอกรหัสปลดล็อคโทรศัพท์มือถือ จากนั้นก็พากันขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ซึ่งผู้โพสต์ ระบุข้อความเอาไว้ว่า “เตือนภัย มีวัยรุ่นจากต่างหมู่บ้านเข้ามาในหมู่บ้านคำบง หาจี้ปล้น ล็อกคอเด็กน้อยให้บอกรหัสไม่งั้นจะฆ่า แล้วเอาโทรศัพท์ไป หลานผมพึ่งเจอเมื่อสักครู่ที่โรงเรียนบ้านคำบง มันเอาแต่โทรศัพท์ไป เด็กปลอดภัยแล้วครับ เห็นหน้าตารถชัดเจน กำลังไปแจ้งความ ฝากผู้ปกครองช่วยดูแลบุตรหลานเป็นหูเป็นตาช่วยกันครับ เป็นตะย้านแฮง ใครรู้จักInbox ผมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ”
ซึ่งต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบกับผู้เสียหายคือ น้องเอิร์ธ กับคุณยายรัตน์ อายุ 60 ปี สองยายหลานพาผู้สื่อข่าวดูจุดเกิดเหตุในโรงเรียนและเล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะดำเนินการอย่างไรจึงจะดี เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัยของตัวเองและหลาน กลัวคนก่อเหตุจะเกิดความเคียดแค้นตามมาทำร้ายทีหลัง โดยจะขอปรึกษากับผู้ใหญ่บ้านก่อน และโทรศัพท์ดังกล่าวเป็นของพ่อน้องเอิร์ธที่เสียชีวิตไปแล้ว เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่เหลืออยู่ของพ่อน้องเอิร์ธที่เอาไว้ดูรูปภาพเวลาคิดถึงพ่อแม่ กระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา นายโหน่ง ได้นำโทรศัพท์มาคืนให้กับน้องเอิร์ทแล้ว และทั้งสองฝ่ายได้คุยไกล่เกลี่ยไม่เอาความเพราะเป็นคนบ้านเดียวกัน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้เร่งทำการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อเตรียมส่งฟ้องศาลภายในวันนี้แล้ว
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 2 เม.ย.2567 ผู้สื่อข่าวสอบถามความคืบหน้าทางคดีดังกล่าวกับ พ.ต.อ.ชุมพล บัวชุม ผกก.สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ทราบว่า ล่าสุดภายหลังผู้ก่อเหตุที่ปรากฎตามหลักฐานกล้องวงจรปิดของทางโรงเรียนทั้งสองคน ซึ่งเป็นเยาวชนชาย 17 ปี และ เด็กหญิง 14 ปี มีพฤติการณ์ก่อเหตุดังกล่าว นำโทรศัพท์มือถือมามอบคืนให้กับผู้เสียหายแล้ว และทั้งสองฝ่ายได้มีการพูดคุยกัน โดยทางผู้เสียหายคือคุณยายและหลานชาย 10 ปี ยืนยันไม่เอาเรื่องเนื่องจากเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน และกังวลในเรื่องของการเดินทางไปขึ้นศาลโดยเฉพาะค่าใช้จ่าย เพราะอยู่กันลำพังสองคนยายหลาน แต่ในส่วนนี้แม้ว่าทางผู้เสียหายไม่เอาเรื่อง ในทางคดีการสืบสวนสอบสวนของทางตำรวจพบว่าความผิดสำเร็จแล้ว ซึ่งเป็นความผิดอาญาแผ่นดินไม่สามารถยอมความได้ ทางพนักงานสอบสวนจึงได้ทำการสอบปากคำก่อนแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันชิงทรัพย์ตามขั้นตอน และภายหลังสอบปากคำเสร็จก็จะนำตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองคนส่งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป /////////////
Leave a Response