ความคืบหน้าพบศพหญิงวัย 30 ปี ถูกฆ่ารัดคอทิ้งศพข้างไร่มันสำปะหลังชาวบ้าน ตำรวจเร่งหาเบาะแสติดตามตัวคนร้าย ผลผ่าชันสูตรศพพบเสียชีวิตมาแล้วเกือบ 2 อาทิตย์ ตามร่างกายไม่พบบาดแผลการถูกทำร้าย คาดคนร้ายฆ่าจากจุดอื่น ห่อศพมาทิ้ง ปูพรมค้นหาทุกมิติ พบเบาะแสผู้ต้องสงสัยแล้ว 3 คน

ความคืบหน้ากรณี พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ รอง ผบก.ภ.จว.ขก.เรียกประชุมเร่งรัดคดีติดตามคนร้าย กรณีพบศพ นางสาวศศิธร บัวมาตย์ หรือหนุ่ย อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 ม.6 ต.หนองโน อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ถูกฆ่าตายทิ้งงศพในไร่มันสำปะหลัง ด้านทิศใต้บ้านน้ำสามวัง หมู่ 3 ตำบลหัวนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น พบศพในช่วงเย็นวันที่ 19 มีนาคม 2567 ในสภาพสวมกางเกงยีนส์ขายาว ถูกพันด้วยกระสอบปุ๋ยและห่อซ้ำด้วยเสื่อ ถูกทิ้งไว้ในไร่มันสำปะหลัง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่นและชุดสืบสวนสภ. กระนวน เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 116 บ้านศรีประชาใหม่ หมู่6 ต.หนองโน อ.กระนวน จ.ขอนแก่น บ้านของผู้เสียชีวิต และได้พบกับนายคำไส บัวมาตย์ อายุ 58 ปี และนาง สุคนธ์ บัวมาตย์ อายุ 55 ปี พ่อและแม่ของผู้เสียชีวิต ซึ่งยังคงต้องการให้ทางตำรวจช่วยเร่งติดตามคนร้ายที่ฆ่าลูกสาวอย่างโหดเหี้ยม พร้อมทั้งมีลูกๆของผู้เสียชีวิต โดยลูกสาวเรียนอยู่ ป.6และลูกชายเรียนอยู่ชั้น อนุบาล 3 พร้อมทั้งญาติพี่น้องต่างขอให้ตำรวจสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมาย และให้ความเป็นธรรมให้กับคนตายและครอบครัวด้วย ซึ่งครอบครัวไม่รู้ว่าลูกสาวถูกฆ่าตายจากสาเหตุใด เพราะหนี้สินก็ไม่มี ชู้สาวก็ไม่มี แต่อาจจะเป็นไปได้ว่าคนร้ายลวงไปแล้วชิงเอารถจักรยานยนต์คันที่ลูกสาวขับขี่ไป ลูกสาวขัดขืนจึงลงมือฆ่าทิ้งแล้วเอารถไป เพราะหลังพบศพถึงทราบว่าก่อนจะถูกฆ่า ลูกสาวยืมรถจักรยานยนต์ของเพื่อน เป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยาม่าฮ่าสปาร์ค สีเทาดำ ทะเบียน งขร-796 ขอนแก่นไป ขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด หากจับได้ก็ขอให้รับโทษประหาร

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 เม.ย.2567 ผู้สื่อข่าวสอบถามด้านคดีไปยัง พ.ต.อ.ประศาสตร์ แน่นอุดร ผกก.สภ.กระนวน ทราบว่า ตำรวจได้ตรวจที่เกิดเหตุอย่างละเอียด แต่ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ส่วนศพคนตายมีถุงปุ๋ย 3 ใบ พันห่อร่างคนตายและพันทับด้วยเสื่ออีก 1 ผืน จึงส่งศพไปตรวจพิสูจน์ที่นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ ซึ่งพบว่า เสียชีวิตมาแล้วเกือบ 2 อาทิตย์ ตามร่างกายไม่พบบาดแผลการถูกทำร้าย ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่า คนร้ายลงมือฆ่าจากจุดอื่น แล้วห่อร่างมาทิ้งในไร่มันสำปะหลังดังกล่าว ส่วนเจ้าของไร่มันสำปะหลังนั้นทราบว่าอยู่ต่างพื้นที่ ตำรวจได้ทำการสอบสวนแล้ว ทราบว่าให้ลูกจ้างปลูกมันทิ้งไว้ เมื่อถึงเวลาเก็บกู้ก็ให้ลูกจ้างมาเก็บมันสำปะหลังขาย จึงมาพบศพถูกทิ้งไว้ นอกจากนี้ก็ได้สอบสวนเจ้าของรถจักรยานยนต์และเพื่อนสนิทอีกหลายคน ต่างก็ไม่ทราบสาเหตุที่หนุ่ยถูกฆ่าตาย  ซึ่งในทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ยังไม่ทิ้งประเด็นใด ยังสอบสวนในทุกๆกรณี ทั้งชู้สาว ชิงทรัพย์และแค้นส่วนตัว ในส่วนของยาเสพติดนั้น จากการสอบสวนเพื่อนทราบว่า มีเสพบ้างในบางครั้ง ซึ่งขณะนี้ก็พอมีเบาะแสของผู้ต้องสงสัยแล้ว 1-3 คน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ และอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน  เพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมาย

พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปจุดที่พบศพ บริเวณริมไร่มันสำปะหลังของเถ้าแก่ชาว อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น และได้พบกับ นายสุวัฒน์ อายุ 44 ปี ชาวบ้านโคกสว่าง อ.กระนวน จ.ขอนแก่น คนดูแลไร่มันสำปะหลังจุดที่พบศพ พาผู้สื่อข่าวเดินดูที่เกิดเหตุ และเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตอนที่พบศพนั้น ตนเองไม่กล้าไปดูเพราะกลัว ทราบจากญาติพี่น้องส่งข่าวมาให้ ช่วงตัดอ้อยตนเองก็มาดูแลไร่มันแต่ก็ไม่พบว่ามีความผิดปกติอะไร ก่อนจะไปทำงานแป้งกับเพื่อนได้ประมาณครึ่งเดือน จึงทราบข่าวว่ามีคนถูกฆ่า ส่วนตัวไม่เห็นเห็นไม่ทราบอะไร หากถามว่ามีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้นไหม จะมีช่วงเดือน สิงหาคม 2566 หลังจากเกิดว่าพบศพ มีชายแปลกหน้าสองคนขับรถยนต์กระบะมิตซูบิชิสตาร์ด้า สีบรอนเงิน แต่ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน สูงประมาณ 170 ซม. อายุประมาณ 50 ปี ทั้ง 2 คน คนนึงหัวล้านอีกคนผมสั้น หน้าตาน่ากลัว แต่ก็ไม่ทราบว่าจะเกี่ยวข้องกันไหมกับเหตุการณ์ที่พบศพ แต่หากถามว่าคนแปลกหน้าก็จะมีเพียงผู้ชายสองคนนี้ที่เข้ามา นอกจากนั้นก็เหตุการณ์ปกติ และทางเข้าที่จะมาจุดนี้ได้นั้นห่างจากจุดที่ทิ้งศพไปประมาณ 100 เมตร จะมีทางให้รถยนต์สามารถขับเข้ามาได้

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวเดินเท้าไปยังสวนยางที่อยู่ติดกัน ซึ่งเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐานในคดีดังกล่าวหลังจากพบศพ และได้ซิมโทรศัพท์ของผู้ตายตกอยู่ในจุดนี้ รวมทั้งหมวกกันน็อคที่หล่นอยู่บนพื้นรวมทั้งเอกสารบัตรต่างๆ ซึ่งผู้สื่อข่าวยังได้พบกับ นาย อำนาจ หรือนาย ติ๊ก อายุ 32 ปี อยู่ ม.8 ต.ห้วยยาง อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ซึ่งมีเถียงนาอยู่ติดกับสวนมันบริเวณด้านหลังสวน เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองจะมาเผาถ่านนานๆครั้งมาดูที ซึ่งก็ไม่พบว่ามีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้นในจุดนี้ โดยตนเองมาทราบข่าวหลังจากพบศพเมื่อวันที่ 19 มี.ค.2567 ซึ่งก็มีตำรวจลงพื้นที่มาสอบถามตนเองแต่ก็ยังจับคนร้ายไม่ได้